ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก 2024/25 ได้คู่ชิงแล้ว! เชลซี เต็งแชมป์จากอังกฤษ ลุ้นสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ยุโรปครบทุกถ้วย พบ เรอัล เบติส ที่เข้าชิงถ้วยยุโรปครั้งแรกในประวัติศาสตร์

ศึกฟุตบอล ยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก ฤดูกาล 2024/25 เดินทางมาถึงรอบชิงชนะเลิศเรียบร้อย หลังเสร็จสิ้นการแข่งขันรอบตัดเชือกทั้งสองคู่ เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 8 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งก็เป็นไปตามคาดที่เต็งแชมป์อย่าง เชลซี จากอังกฤษ ผ่านเข้ามาได้ โดยจะดวลกับ เรอัล เบติส ทีมแกร่งจากสเปน ที่สนาม วรอตซวาฟ สเตเดี้ยม เมืองวรอตซวาฟ ประเทศโปแลนด์ วันพุธที่ 28 พฤษภาคมนี้ และนี่คือเส้นทางของทั้งสองทีม ก่อนฟาดแข้งกันในเกมรอบชิงฯ

เรอัล เบติส (สเปน)

รอบ ลีก เฟส (อันดับ 15 : 10 แต้ม ชนะ 3, เสมอ 1, แพ้ 2)

- แพ้ ลีเกีย วอร์ซอว์ (เยือน) 0-1

- เสมอ โคเปนเฮเก้น (เหย้า) 1-1

- ชนะ เซลเย (เหย้า) 2-1

- แพ้ มลาดา โบเลสลาฟ (เยือน) 1-2

- ชนะ เปโตรคุบ ฮินเชสตี (เยือน) 1-0

- ชนะ เอชเจเค (เหย้า) 1-0

เพลย์ออฟ

- ชนะ เกนท์ (เยือน) 3-0

- แพ้ เกนท์ (เหย้า) 0-1

(รวมสองนัด ชนะ 3-1)

รอบ 16 ทีมสุดท้าย

- เสมอ วิตอเรีย กีมาไรส์ (เหย้า) 2-2

- ชนะ วิตอเรีย กีมาไรส์ (เยือน) 4-0

(รวมสองนัด ชนะ 6-2)

รอบ 8 ทีมสุดท้าย

- ชนะ ยาเกลโลเนีย เบียลีสตอค (เหย้า) 2-0

- เสมอ ยาเกลโลเนีย เบียลีสตอค (เยือน) 1-1

(รวมสองนัด ชนะ 3-1)

รอบรองชนะเลิศ

- ชนะ ฟิออเรนติน่า (เหย้า) 2-1

- เสมอ ฟิออเรนติน่า (เยือน) 2-2 (ต่อเวลาพิเศษ)

(รวมสองนัด ชนะ 4-3)

ผลงานไม่ค่อยดีในรอบ ลีก เฟส จนต้องอาศัยการเตะเพลย์ออฟ เพื่อได้ลุยต่อในรอบน็อกเอาต์ ซึ่งพวกเขาก็ทำได้เยี่ยม จนผ่านเข้ามาถึงรอบชิงฯ โดยที่มี อันโตนี ปีกเลือดแซมบ้า ที่ยืมมาจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นหนึ่งในแข้งกำลังสำคัญ ซึ่งแน่นอนว่า เบติส ภายใต้การนำทัพของกุนซือ มานูเอล เปเยกรีนี มุ่งมั่นสุดๆ ที่จะคว้าแชมป์ให้ได้ เพราะพวกเขาไม่เคยประสบความสำเร็จในเวทียุโรปมาก่อน และนี่คือการเข้าถึงรอบชิงฯ หนแรกด้วย

----------

เชลซี (อังกฤษ)

รอบ ลีก เฟส (อันดับ 1 : 18 แต้ม ชนะ 6, เสมอ 0, แพ้ 0)

- ชนะ เกนท์ (เหย้า) 4-2

- ชนะ พานาธิไนกอส (เยือน) 4-1

- ชนะ โนอาห์ (เหย้า) 8-0

- ชนะ ไฮเดนไฮม์ (เยือน) 2-0

- ชนะ อัสตานา (เยือน) 3-1

- ชนะ แชมร็อค โรเวอร์ส (เหย้า) 5-1

รอบ 16 ทีมสุดท้าย

- ชนะ โคเปนเฮเก้น (เยือน) 2-1

- ชนะ โคเปนเฮเก้น (เหย้า) 1-0

(รวมสองนัด ชนะ 3-1)

รอบ 8 ทีมสุดท้าย

- ชนะ ลีเกีย วอร์ซอว์ (เยือน) 3-0

- แพ้ ลีเกีย วอร์ซอว์ (เหย้า) 1-2

(รวมสองนัด ชนะ 4-2)

รอบรองชนะเลิศ

- ชนะ เยอร์การ์เด้น (เยือน) 4-1

- ชนะ เยอร์การ์เด้น (เหย้า) 1-0

(รวมสองนัด ชนะ 5-1)

ทัพ "สิงห์บลูส์" ของกุนซือ เอ็นโซ มาเรสก้า ทำผลงานสุดเหนือชั้นในถ้วยนี้ โดยตลอดเส้นทาง 12 เกมที่ผ่านมา พวกเขาพลาดท่าแพ้แค่นัดเดียว นอกนั้นคว้าชัยเรียบ พร้อมกระหน่ำคู่แข่งไปถึง 38 ประตู!!! ซึ่งเฉลี่ยแล้ว ยิงนัดละมากกว่า 3 ลูกเลยทีเดียว

...ถึงแม้เป็นถ้วยยุโรปใบเล็กสุด แต่ดูจากชื่อคู่ชิงแล้ว ถือว่าน่าดูไม่แพ้สองถ้วยใหญ่เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ เชลซี ที่ลุ้นเป็นสโมสรแรกในประวัติศาสาตร์ ที่ได้แชมป์ยุโรปครบทุกถ้วย เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาฟาดมาหมดแล้ว ทั้ง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูฟ่า ยูโรปา ลีก, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ รวมถึงถ้วยที่ถูกยกเลิกไปแล้วอย่าง ยูฟ่า คัพ วินเนอร์ส คัพ...

Subinho

สยามกีฬา