11
ก.พ.
สเปอร์สไม่พลาดทุบเลสเตอร์ จี้เรือใบ2แต้ม


สเปอร์ส เก็บ 3 คะแนนสำคัญ เอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 3-1 โดยได้ประตูจาก ดาวินซอน ซานเชซ, คริสเตียน เอริคเซ่น และ ซน เฮือง มิน ส่วน เลสเตอร์ ได้ประตูจาก เจมี่ วาร์ดี้

ส่งผลให้ "ไก่เดือยทอง" ทำคะแนนไล่จี้ แมนฯ ซิตี้ รองจ่าฝูงเหลือ 2 แต้ม ในฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์
สเปอร์ส 3-1 เลสเตอร์


สนาม :
เวมบลีย์

"ไก่เดือยทอง" ปรับทัพให้ แดนนี่ โรส, โอลิเวอร์ สคิปป์ และเฟร์นานโด ยอร์เรนเต้ ลงตัวจริงแทน โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, เอริก ลาเมล่า และลูกัส มูร่า ก่อนหวดกับดอร์ทมุนด์ ในศึกชปล. คืนวันพุธ

ขณะที่ทีมเยือน เลสเตอร์ เก็บได้แค่แต้มเดียวจาก 4 นัดหลัง กุนซือ โคล้ด ปูแอล วางใจให้ ยูริ ตีเลอมันส์ มิดฟิลด์เบลเยี่ยม ประเดิมตัวจริง แต่ เจมี่ วาร์ดี้ แค่สำรอง

แค่ 3 นาทีแรก สเปอร์ส ได้ลุ้นก่อน จากลูกเปิดทางซ้ายของโรส บอลลอยถึงมา คีแรน ทริปเปียร์ วอลเลย์ด้วยขวาติดบล็อกเสียก่อน

เลสเตอร์ ได้ลุ้นเช่นกันลูกตั้งเตะทางขวา เจมส์ แม้ดดิสัน เปิดมาให้ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ โหม่งเข้ากรอบแต่โดน อูโก้ โยริช ปัดข้ามคานใน น. 8 ตามติดมาด้วยลูกยิงหักข้อของ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ จากการจ่ายของแม้ดดิสัน อีกครั้ง แต่บอลพุ่งผ่านเสาไกลไป

จากนั้น น.17 สเปอร์ส ชวดลุ้นประตูอย่างน่าเสียดาย ซน ฮึง-มิน จ่ายออกซ้ายให้โรส ตัดเข้ามาซัดด้วยขวา บอลติดมือ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล แต่จังหวะซ้ำ ยอร์เรนเต้ ล้ำหน้าไปก่อนแล้ว

"จิ้งจอกสีน้ำเงิน" มีโอกาสทองใน น. 30 หลังปะทะแย่งบอลในแดนกลาง ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ลากตัดเข้าในจากทางซ้ายกรอบเขตโทษ แต่กดด้วยขวาเรียดไม่ตรงกรอบ

อย่างไรก็ดี สเปอร์ส มาขึ้นนำ 1-0 จากเตะมุมทางขวา ทริปเปียร์ เปิดย้อนมาให้ เอริคเซ่น เปิดโค้งเข้ากลาง ดาวินซอน ซานเชซ เบียดกับแม็คไกวร์ พุ่งโหม่งจ่อๆ ผ่านมือ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ใน น. 33

ช่วงที่เหลือของครึ่งแรก เลสเตอร์ พยายามบุกเพื่อเอาคืน แต่สเปอร์ส คุมสถานการณ์ไว้ได้ และนำอยู่ 1-0

ครึ่งหลัง เลสเตอร์ เปิดฉากบุกใส่หวังทวงประตูคืน ก่อนจะมาได้ลุ้นใน น.51 ริคาร์โด้ เปเรยร่า เติมขึ้นมาเปิดเข้ากลางให้ ดีมาราย เกรย์ ขึ้นโขกเหน่งๆ แต่ยังไปตรงตัว อูโก้ โยริส รับไว้ได้

จากนั้นทีมจิ้งจอกได้ลุ้นต่อเนื่อง ใน น.55 เกรย์ ได้บอลในเขตโทษก่อนจะพลิกเข้าซ้ายซัดเต็มข้อ แต่ โยริส ยังเซฟไว้ได้อีก

จน น.58 เลสเตอร์ ที่บุกอย่างหนักมาได้จุดโทษเมื่อ แยน แฟร์ต็องเก้น ไปสกัดใส่ เจมส์ แมดดิสัน ล้มลงในเขตโทษผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษทันที ก่อนจะเป็น เจมมี่ วาร์ดี้ ที่เพิ่งลงมาเป็นตัวสำรองรับหน้าที่สังหารยิงไปฝั่งซ้ายของตัวเอง แต่ทว่า โยริส พุ่งเซฟไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม

อย่างไรก็ตาม น.63 กลายเป็น สเปอร์ส ที่นำห่าง 2-0 จากจังหวะที่ เฟร์นานโด ยอร์เรนเต้ จ่ายให้ คริสเตียน เอริคเซ่น หน้าเขตโทษจับหนึ่งจังหวะก่อนซัดด้วยขวาบอลเสียบมุมเสาแรกเข้าไปอย่างสวยงาม

น.76 เลสเตอร์ ตามตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-2 เติมขึ้นมาสุดเส้นหลังก่อนจ่ายเรียดเข้ากลางบอลทะลุไปถึง เจมี่ วาร์ดี้ เข้าฮอสจ่อๆตุงตาข่าย

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ สเปอร์ส ขึ้นนำ 3-1 จากจังหวะสวนกลับเร็ว ซน เฮือง มิน ลากจากแดนตัวเองโซโล่เดี่ยวขึ้นมาหลุดเข้าไปยิงด้วยซ้ายง่ายๆไม่เหลือ

หลังจากนั้นไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม สเปอร์ส เอาชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 3-1

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

สเปอร์ส :
อูโก้ โยริส, คีแรน ทริปเปียร์, ดาวินซอน ซานเชซ, แยน แฟร์ต็องเก้น, แดนนี่ โรส (ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส, น.88), แฮร์รี่ วิงค์ส, โอลิเวอร์ สคิปป์ (โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ น.70), มูสซ่า ซิสโซโก้, คริสเตียน เอริคเซ่น, ซน ฮึง-มิน, เฟร์นานโด ยอร์เรนเต้ (วิคเตอร์ วานยาม่า น.80)

เลสเตอร์ : คาสเปอร์ ชไมเคิ่ล, ริคาร์โด้ เปเรยร่า, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, จอนนี่ อีแวนส์, เบน ชิลเวลล์, น็อมปาลิส เมนดี้, ยูริ ตีเลอมันส์, ราชิด เกซซาล (เคเลชี่ อิเฮนาโช่ น.72), เจมส์ แม้ดดิสัน, ฮาร์วีย์ บาร์นส์ (ชินจิ โอคาซากิ น.88), ดีมาราย เกรย์ (เจมี่ วาร์ดี้ น.59)

ผู้ตัดสิน : ไมเคิล โอลิเวอร์

www.siamsport.co.th

© 2018-2024 Coreball.com All Rights Reserved.