หลังได้เห็น เรอัล มาดริด บุกมาขยี้ ลิเวอร์พูล 5-2 ในเกม แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมนัดแรกเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

สาวก แมนฯ ยูไนเต็ด คงอดหนักใจไม่ได้สำหรับเกม ยูโรปาลีก รอบเพลย์ออฟนัดสองต้อนรับการมาเยือนของ บาร์เซโลน่า ทีมแกร่งอีกรายจาก ลา ลีกา

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกมแรกที่ คัมป์นู ทีมของ เอริค เทน ฮาก ปิดจ็อบไม่สำเร็จทั้งๆที่ยิงแซงนำ 2-1 ได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ลงเอยแล้วต้องแบกรับผลเสมอ 2-2 กลับเมืองผู้ดี

จากสกอร์ดังกล่าว ทำให้ ปีศาจแดง ยังไม่ชนะทีมจากกาตาลันต่อไปโดยครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อปี 2008

อย่างไรก็ดี จากฟอร์มนัดแรกที่บุกไปต่อกรกับทีมของ ชาบี ได้อย่างไม่เป็นรอง แมนฯ ยูไนเต็ด จึงมีโอกาสเอาชนะ บาร์ซ่า ได้เช่นกันต่อการทะยานผ่านเข้ารอบ

และนี่คือ 5 เหตุผลที่พอจะบ่งชี้ได้ว่า ผีแดง จะเป็นฝ่ายมีชัยในเกมวันพฤหัสบดีนี้

1. โรงละครแห่งความฝัน

หลังปล่อยให้เป็นเหมือน รีสอร์ท แอนด์ สปา สำหรับผู้มาเยือนไปพักใหญ่ นาทีนี้ เทน ฮาก เนรมิตให้ โอลด์ แทรฟฟอร์ด กลับมาเป็นป้อมปราการที่แข็งแกร่งของ แมนฯ ยูไนเต็ด ดังเดิมแล้ว

อย่างล่าสุด แม้ เลสเตอร์ ซิตี้ จะอยู่ในฟอร์มที่กร้าวแกร่งขยี้ สเปอร์ส ได้อย่างเหลือเชื่อ 4-1 แต่ จิ้งจอกสยาม ก็เอาตัวไม่รอดบุกมาโดน ผีแดง เชือดนิ่ม 3-0 อย่างที่เห็น

ต่อชัยชนะเหนือ เดอะ ฟ็อกซ์ ในเกมลีกนัดล่าสุด ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด กำชัยเกมเหย้าที่ โรงละครแห่งความฝัน มากถึง 14 จาก 15 นัดหลังโดยนับตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.ที่เปิดบ้านเจ๊ากับ นิวคาสเซิ่ล แบบไร้สกอร์ก็มีเพียง ลีดส์ รายเดียวเท่านั้นที่แบ่งแต้มออกไปได้ด้วยผลเสมอ 2-2 ชนิดที่เจ้าบ้านต้องตาลีตาเหลือกไล่ตีเสมอหลังโดนสอยตาข่ายก่อนถึง 2-0

รวมทุกรายการในซีซั่นนี้ ผีแดง พ่ายคารังแค่ 3 เกมเท่านั้นจาก 21 เกมจึงแน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่ฝ่ายตรงข้ามจะบุกมาเฮใน เธียเตอร์ ออฟ ดรีม ได้ อีกทั้งหลังเกมชนะ เลสเตอร์ จะเห็นว่า เทน ฮาก เรียกร้องให้กองเชียร์ เร้ด อาร์มี่ ช่วยกันส่งเสียงกระตุ้นทีมในเกมต่อไปกับ บาร์ซ่า ด้วย แต่มันจะได้ผลหรือไม่ก็ต้องรอดูกัน

2. สอบผ่านบิ๊กแมตช์

ในซีซั่นนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด เฝ้าบ้านกำราบทั้ง อาร์เซน่อล , ลิเวอร์พูล , แมนฯ ซิตี้ และ สเปอร์ส ได้สำเร็จ อีกทั้งบุกไปเสมอกับ เชลซี และ บาร์เซโลน่า

ฉะนั้นแล้วจึงชัดเจนว่า อสูรร้าย กลับมาเป็นทีมที่น่ายำเกรงดังเดิมแล้วโดยไม่สนว่าพวกเขาจะต้องต่อกรกับหน้าอินทร์หรือหน้าพรหม

แม้จะโดน แมนฯ ซิตี้ อัดเละ 6-3 ในเกมที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม เมื่อเดือนต.ค. แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ไม่เสียขวัญ และกลับมาเฝ้าบ้านเอาคืนทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ได้ด้วยสกอร์ 2-1

ยิ่งไปกว่านั้น ขุนพล ผีแดง ยังซึมซับปรัชญาของนายใหญ่ชาวเมืองกังหันลมได้อย่างครบถ้วนกระบวนความ และส่งผลให้พวกเขาค่อยๆไต่อันดับตารางกระทั่งกระโดดขึ้นสู่อันดับสามอย่างที่เห็น

3. แรชฟอร์ด กำลังฮ็อต

นาทีนี้เหมือนจะไม่มีใครหยุดการสอยตาข่ายของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ได้แล้ว และต้องยกเครดิตให้กับ เทน ฮาก ตลอดจน เบนนี่ แม็คคาร์ธีย์ โค้ชกองหน้าที่ปลุกปั้นให้สตาร์ผิวสีกลายมาเป็นหนึ่งในศูนย์หน้าชั้นยอดของยุโรปได้อย่างน่าซูฮก

ถึงขณะนี้ แรชชี่ เด็กปั้นของถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด คลำเป้าไปแล้ว 24 ตุงในทุกรายการหลังเข่น เลสเตอร์ เพิ่มได้อีกสองเม็ดจนเป็นซีซั่นที่ดาวดังวัย 25 ปีระเบิดประตูได้มากที่สุดในอาชีพนักเตะของเขา

หากจะนับเฉพาะห้านัดหลัง แรชฟอร์ด ส่งบอลสัมผัสกับตาข่ายได้ถึง 6 ครั้ง และนับตั้งแต่จบศึก ฟุตบอลโลก 2022 เขาลงบู๊ไป 17 นัด พร้อมทั้งกระทุ้งประตูได้มากถึง 16 ลูกด้วยกัน

แม้กระทั่ง บาร์ซ่า ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นเนื่องจาก แรชฟอร์ด สอยตาข่ายที่ คัมป์นู มาแล้วแม้ไม่อาจพาทีมชนะในเกมแรกได้ก็ตาม

4. กาเซมีโร่

ปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่าการมี กาเซมีโร่ มาเสริมแดนกลางส่งผลให้เกมโดยรวมของ แมนฯ ยูไนเต็ด ลงตัวขึ้นเยอะ

ทั้งนี้และทั้งนั้น ต้องขอบคุณ เรอัล มาดริด เช่นกันที่ยอมขายสตาร์ชั้นดีให้กับ ผีแดง และถึงตอนนี้มันพิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นเรื่องคุ้มค่าที่ต้องเสียเงินก้อนโตแลกกับนักเตะระดับคุณภาพคับแก้ว

หลังได้ใบแดงในเกมลีกนัดเฝ้าบ้านเฉือนชนะ คริสตัล พาเลซ 2-1 ต้องถือว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จัดการกับปัญหาปราศจากสตาร์ เซเลเซา ในเกมลีกสามนัดได้อย่างน่าพอใจด้วยการเสมอกับ ลีดส์ ในบ้านเกมแรก 2-2 ก่อนบุกไปสยบ ยูงทอง 2-0 และเปิดรังอัด เลสเตอร์ 3-0

ขณะเดียวกัน การได้ กาเซมีโร่ บุกไปดวลกับ บาร์ซ่า เกมแรกช่วยสร้างความอุ่นใจให้กับ ผีแดง ได้ไม่น้อยเนื่องจากสมัยเป็นขุนพลของ เรอัล มาดริด มิดฟิลด์ชาวเมืองกาแฟมีสถิติยอดเยี่ยมที่ คัมป์นู และในที่สุดเขาเกือบพาทีมบุกไปกำชัยได้ หากไม่โดน ราฟินญ่า ซัดลูกตีเสมอ 2-2 สุดสำคัญให้กับทีมเจ้าบ้านซะก่อน

อย่างไรก็ดี ปัญหาที่ เทน ฮาก ต้องประสบก็คือ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ จะพ้นโทษแบนลงเล่นนัดสองกับ บาร์ซ่า ได้จึงต้องรอดูว่า เฟร็ด จะได้อยู่ในโผ 11 คนแรกตามเดิม หรือว่าจะเสียตำแหน่งให้กับดาวเตะทีมชาติ ออสเตรีย

5. บาร์ซ่า ไร้สองคีย์แมน

ไม่เพียงจะไร้ เปดรี้ ที่บาดเจ็บไปก่อนแล้วเท่านั้น แต่ บาร์ซ่า มีอันต้องปราศจาก กาบี้ มิดฟิลด์คนสำคัญอีกรายในเกมวันพฤหัสบดีนี้ด้วยหลังเจ้าตัวรับใบเหลืองเพิ่มที่ คัมป์นู จนต้องติดโทษแบนหนึ่งนัด

เท่ากับว่าทีมจาก ลา ลีกา ขาดห้องเครื่องไปในคราวเดียวกันถึงสองราย แถมเป็นสตาร์พลังหนุ่มทั้งคู่ซะด้วย ยังดีที่ ชาบี ได้ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ หายเจ็บกลับมา และสตาร์จอมเก๋าน่าจะได้ออกสตาร์ตค่อนข้างแน่

สยามกีฬา