17
ก.พ.
อาถรรพ์คัมป์นูยังอยู่, ชาบี สานต่อสถิติเลวร้าย! 5 ข้อ แมนยู หวิดม้วยบุกเจ๊า บาร์เซโลน่า สะใจ


หายใจไม่ทั่วท้องอย่างแน่นอนสำหรับใครก็ตามที่เป็นแฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด ในเกม ยูโรปาลีก รอบเพลย์ออฟนัดแรกที่พวกเขาบุกไปเสมอกับ บาร์เซโลน่า อย่างสนุกตื่นเต้น 2-2 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 ก.พ. ชนิดที่ทีมจากเมืองผู้ดีเกือบตาข่ายขาดหลายหนในช่วงท้าย

ท่ามกลางสักขีพยาน 90,225 คนในชามอ่างยักษ์ คัมป์นู ต้องบอกว่าทั้งสองทีมสู้กันได้อย่างถึงใจพระเดชพระคุณดีแท้ แต่เกมจบลงโดยไม่มีผู้แพ้ผู้ชนะ และต้องไปว่ากันต่อในนัดสองที่ โรงละครแห่งความฝัน ซึ่งงานนี้ไม่ใครก็ใครต้องตกรอบกันไปข้างแล้วล่ะ

1.บาร์ซ่า เปลี่ยนโผสองตำแหน่ง

ชาบี กุนซือทีม บาร์เซโลน่า จ่าฝูง ลา ลีกา โรเตชั่นทีมสองรายจากเกมลีกนัดบุกไปพิชิต บียาร์เรอัล 1-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

สำหรับทั้งสองรายเป็นการเปลี่ยนแผงหลังทั้งคู่โดย อันเดรียส คริสเตนเซ่น อดีตเซ็นเตอร์ฮาล์ฟทีม เชลซี และ อเลฆานโดร บัลเด้ กระเด็นหลุดโผเพื่อเปิดทางให้สองจอมเก๋าที่มีประสบการณ์มากกว่าอย่าง มาร์กอส อลอนโซ่ ที่ย้ายมาจาก สิงห์บลูส์ เช่นกัน และ จอร์ดี้ อัลบา ออกสตาร์ตแทน

2. แมนฯ ยูไนเต็ด สลับทัพตัวจริงสามราย

ฝ่าย เอริค เทน ฮาก นายใหญ่ทีม แมนฯ ยูไนเต็ด หมุนนักเตะลงเล่นเกมนี้รวมสามรายเมื่อเทียบจากเกม พรีเมียร์ลีก นัดล่าสุดที่พวกเขาออกไปกำราบ ลีดส์ 2-0

แน่นอนว่า กาเซมีโร่ กองกลางคนสำคัญลงเล่นได้แม้จะติดโทษแบนในลีกอังกฤษสามนัด และเป็นการเสียบแทน มาร์เซล ซาบิตเซอร์ ที่ติดโทษแบนในเกมยุโรปหนึ่งนัดไปในตัว ขณะที่ ลิซานโดร มาร์ติเนซ โดนแบนหนึ่งเกมเช่นกัน ทำให้ ลุค ชอว์ สวมบทเซ็นเตอร์ฮาล์ฟจำเป็นอีกหน

ส่วนอีกสองราย ดีโอโก้ ดาโลต์ และ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ สองกองหลังเสียตำแหน่งคืนให้กับ อาร่อน วาน บิสซาก้า และ ราฟาแอล วาราน

3. ครึ่งแรก ผีแดง เอาอยู่

แม้จะเป็นรอง บาร์ซ่า ตามความคาดหมายในแง่ของการครองบอลเนื่องจากเจ้าบ้านทำได้ดีกว่าในอัตรา 62:38% แต่ ปีศาจแดง ไม่เป็นรองเลยในเรื่องของโอกาสได้ประตู

จบ 45 นาทีแรกที่ คัมป์นู ทีมของ เทน ฮาก ยันสกอร์ได้สำเร็จที่ 0-0 ก็จริง แต่พวกเขามีโอกาสสอยตาข่ายไม่น้อยจากจำนวน 7 ครั้งเท่ากับ บาร์ซ่า แถมเข้ากรอบมากกว่า 3:2 ครั้งด้วย

เท่ากับว่า เทน ฮาก ย้ายมายกระดับ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้อย่างแท้จริงจนทำให้พวกเขาต่อกรกับทีมชั้นยอดได้เหมือนในอดีตแล้วแม้ทีมลูกหนังอังกฤษอาจมีสถิติไม่สู้ดีในการเผชิญหน้ากับ บาร์ซ่า จากหลายๆครั้งที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน ต้องเอ่ยยกย่องเจ้าบ้านด้วยที่ถึงขณะนี้ไม่เสียประตูในครึ่งแรกของทุกรายการนาน 15 นัดติดต่อกันแล้ว

โดยเฉพาะผลงานของ มาร์ค อังเดร แทร์ ชเตเก้น หลังจบครึ่งแรกที่ คัมป์นู เป็นไปอย่างน่าประทับใจดังนี้

100% ผ่านบอลแม่นยำ

3 ผ่านบอลยาวสำเร็จ

3 โดนยิง

3 เซฟ

0 เสียประตู

4. ครึ่งหลังเกมพลิกไปพลิกมา

ต้นครึ่งหลัง บาร์ซ่า ชิงขึ้นนำจากลูกเตะมุมที่ อลอนโซ่ โขกมุมแคบไม่เหลือหลังจาก เฟร็ด ประกบตัวแย่ แต่ถัดมาแค่สองนาที มาร์คัส แรชฟอร์ด ก็ระเบิดทีเด็ดอีกจนได้โดยที่กองกลางแซมบ้าแก้ตัวได้เยี่ยมจ่ายบอลให้หลุดเข้าเขตโทษไปซัดมุมแคบเช่นกันเป็นประตูที่ 22 ในซีซั่นนี้ของกองหน้าทีมชาติ อังกฤษ แล้วโดยเป็นประตูที่ 14 ใน 16 นัดหลังของเจ้าตัวด้วย

ฉะนั้นแล้ว แรชฟอร์ด สร้างผลงานคลำเป้าในซีซั่นนี้ได้เท่ากับสถิติที่ดีที่สุดของเขา 22 ประตูในซีซั่น 2019/20 ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งมันยังเป็นประตูในถ้วยยุโรปลูกที่ 23 ของ แรชฟอร์ด ด้วยซึ่งไม่มีนักเตะ ผีแดง คนไหนในทีมชุดปัจจุบันสอยตาข่ายได้มากไปกว่าเขา

เท่านั้นไม่พอ ขยับมาอีกพักเดียว ปีศาจแดง บุกกดดันเจ้าบ้านได้ดี และทำให้ ฌูลส์ กุนเด้ สกัดบอลพลาดตุงตาข่ายตัวเองเป็นการเปิดทางให้ทีมจากเมืองผู้ดีแซงนำ 2-1

อย่างไรก็ดี ก่อนหมดเวลา 15 นาที ราฟินญ่า ยิงทวงคืนให้ บาร์ซ่า ได้สำเร็จ และนับจากนั้นเกมก็ตกอยู่กับเจ้าบ้านฝ่ายเดียวชนิดที่น่าจะมีสกอร์ชนะด้วยซ้ำ แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด ดวงแข็งสุดขีดยันเสมอ 2-2 ได้สำเร็จหลังโม่เกือกกันอย่างสุดมันส์โดยทีมเจ้าบ้านครองบอลได้มากกว่า 61:39% แต่ทั้งสองทีมได้ส่องยิงเท่ากัน 18 ครั้ง หากแต่ยอดทีมจากกาตาลันพลิกมาส่งบอลเข้ากรอบได้มากกว่า 8:5 ครั้ง

5. สถิติที่ไม่สู้ดีของ ชาบี

แม้จะพาทีมพลิกกลับมาตีเสมอ 2-2 ได้โดยที่น่าจะแซงชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ด้วยซ้ำ แต่ลงเอยแล้ว ชาบี กำชัยในเกมปะทะกับ ผีแดง ยกแรกไม่สำเร็จ และต้องไปว่ากันต่อในเกมตัดสินชะตาของทั้งคู่ที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด

ถึงตอนนี้ กุนซือสแปนิชจึงมีผลงานไม่สู้ดีในเกมยุโรปนัดเหย้าเพราะนับตั้งแต่เขากลับมากุมบังเหียนทีมเก่าเมื่อเดือนพ.ย.2021 เขาพาทีมชนะในเกมยุโรปนัดเหย้าได้แค่นัดเดียวเท่านั้นจากแปดนัดในเกมบู๊กับ วิคตอเรีย พิลเซ่น

ในทางกลับกัน การลงบู๊ที่ คัมป์นู ของ กาเซมีโร่ อดีตมิดฟิลด์ทีม เรอัล มาดริด มีสถิติที่น่ายำเกรงอย่างยิ่งเนื่องจากดาวเตะแซมบ้าเพิ่มสถิติบุกมาบู๊กับ บาร์ซ่า เป็น 11 นัดแล้วเมื่อรวมนัดล่าสุดนี้เข้าไปด้วย และแพ้แค่ครั้งเดียวเท่านั้นจากผลงานชนะ 5 เสมอ 5

แต่ที่แน่ๆ การโดน บาร์ซ่า ตีเสมอ 2-2 อย่างน่าเสียดายทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังไม่เคยบุกมาชนะที่ คัมป์นู ต่อไปจากผลงานเสมอ 3 แพ้ 3

สยามกีฬา

© 2018-2024 Coreball.com All Rights Reserved.