2
ก.พ.
ถ้วยนี้ผีมาตามนัด,เทน ฮาก จัดให้ครึ่งหลัง - 5 ข้อ แมนยู ย้ำชัย ฟอเรสต์ เข้าชิงคาราบาวคัพ


แมนฯ ยูไนเต็ด ผ่านเข้าชิงชนะเลิศถ้วย คาราบาวคัพ ได้ตามความคาดหมายกับการเปิด โอลด์ แทรฟฟอร์ด สอย ฟอเรสต์ ได้อีกเกม 2-0 ในรอบตัดเชือกนัดสองเมื่อวันพุธที่ 1 ก.พ.

1. ผีแดง ใส่ชื่อ ซานโช่ นั่งสำรอง

เจดอน ซานโช่ กลับมาอยู่ในทีม แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนต.ค. แต่มีชื่อเป็นแค่ตัวสำรอง

รวมทั้งสิ้น ผีแดง เปลี่ยนทีมหกตำแหน่งจากเกม เอฟเอคัพ รอบสี่นัดชนะ เรดดิ้ง 3-1 แต่ยังเป็นขุนพลชุดแกร่งโดยมี ทอม ฮีตัน ได้เฝ้าเสา รวมถึง ลุค ชอว์ , ลิซานโดร มาร์ติเนซ , ราฟาแอล วาราน , เฟร็ด และ อเลฮานโดร การ์นาโช่ ที่ได้ออกสตาร์ตเช่นกัน

กระนั้นก็ดี อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล หายเจ็บมีชื่อนั่งอยู่ข้างสนาม ขณะที่ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ กองกลางคนใหม่ที่ย้ายมาจาก บาเยิร์น มิวนิค แบบยืมตัวยังไม่มีส่วนร่วมเนื่องจากอยู่ในระหว่างรอรับวีซ่า

2. เจ้าป่า ส่ง ลินการ์ด ออกสตาร์ตก่อนเปลี่ยนชื่อกระทันหัน

ฟอเรสต์ กลับมาฟาดแข้งกับ แมนฯ ยูไนเต็ด อีกนัดทันทีหลังเฝ้าบ้านแพ้แบบขาดลอยในเกมแรก 3-0 โดยเกมนี้ สตีฟ คูเปอร์ ปรับทัพให้ เจสซี่ ลินการ์ด อดีตดาวเตะ ผีแดง ออกสตาร์ตเป็นตัวจริง

นอกนั้นอีกสามรายที่มีการโรเตชั่นได้แก่ วิลลี่ โบลีย์ , เนโก วิลเลี่ยมส์ และ โอเรล ม็องกาล่า ซึ่งแย่งตำแหน่งตัวจริงได้จาก แซร์จ ออริเยร์ , โจ วอร์เรลล์ , ดานิโล และ มอร์แกน กิ๊บบ์ส ไวท์ ที่บาดเจ็บ

อย่างไรก็ดี ทีมเยือนใส่ชื่อ จอนโจ้ เชลวีย์ กองกลางตัวใหม่ที่ย้ายมาจาก นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ก่อนปิดตลาดนั่งเป็นตัวสำรองด้วย

ถึงกระนั้น ก่อนที่เกมจะเริ่มต้นไม่นาน ลินการ์ด มีอาการบาดเจ็บขณะวอร์มอัพ และจำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อให้ เอ็มมานูเอล เดนนิส ลงเล่นเป็นตัวจริงแทน

3. ฟอเรสต์ ยกระดับเกมได้ดีขึ้น

แม้จะต้องเป็นฝ่ายบุกมาเยือน โรงละครแห่งความฝัน อีกทั้ง เอริค เทน ฮาก จัดทัพแบบไม่ยอมอ่อนข้อให้แม้จะยิงประตูนำขาดจากเกมแรกไปแล้วถึง 3-0 ก็ตาม แต่บอกได้เลยว่า เจ้าป่า มีผลงานที่ดีกว่าเกมแรกที่ ซิตี้ กราวด์ ลิบลับ

หากยังจำกันได้ ทีมของ คูเปอร์ โดน ผีแดง บุกไปยิงได้สองตุงตั้งแต่ 45 นาทีแรกโดย มาร์คัส แรชฟอร์ด เปิดหัวอย่างเร็วในนาทีที่ 6 ก่อนที่ เวาท์ เว็กฮอร์สต์ จะเปิดบัญชีได้ในนาทีที่ 45 แล้วทีมเยือนมาได้ประตูปิดท้ายจาก บรูโน่ แฟร์นันด์ส ในช่วงท้ายเกม

แต่สำหรับ 45 นาทีแรกที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ฟอเรสต์ รักษาสกอร์เสมอ 0-0 ได้อย่างน่ายกย่อง แถมมีจังหวะส่งบอลเข้ากรอบเท่ากับเจ้าบ้านด้วย 2 ครั้งจากโอกาส 2 ครั้ง ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ยิงรวม 5 ครั้งจากการครองบอลที่เหนือกว่า 73:27% ซึ่งถ้าหากว่าทีมของ เทน ฮาก ไม่ได้ตุนสกอร์จากเกมแรกเอาไว้เยอะ ก็เชื่อได้เลยว่า ผีแดง จะต้องกดดันอย่างหนักในการกลับมาลงเล่นในครึ่งหลัง

4. ครึ่งหลังเจ้าบ้านเปลี่ยนแผงรุกยกชุดได้ผลเกินคาด

หลังจากเสมอกับ ฟอเรสต์ ในครึ่งแรก 0-0 เทน ฮาก ไม่ได้นิ่งนอนใจ และเปลี่ยนสามตัวรุกออกพร้อมกันในนาทีที่ 63 หมายให้ทีมสอยตาข่ายให้จงได้โดยที่ ซานโช่ , มาร์กซิยาล และ มาร์คัส แรชฟอร์ด ถูกส่งลงบู๊แทน อเลฮานโดร การ์นาโช่ , เว็กฮอร์สต์ และ อันโตนี่

กระทั่งนาทีที่ 73 มาร์กซิยาล ก็ยิงประตูพาทีมขึ้นนำได้สำเร็จ แถมอีกสามนาทีต่อมา เฟร็ด ก็มีชื่อติดสกอร์บอร์ดกับเขาเช่นกันขณะที่ แรชฟอร์ด มีผลงานสองแอสซิสต์ซะด้วยจึงทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด กำชัยเหนือ เจ้าป่า ได้อีกนัด 2-0 จากการครองบอลรวมทั้งเกม 74:26% และได้ยิงมากกว่า 13: 5 ครั้งโดยสามารถส่งบอลเข้ากรอบได้มากกว่า 6:3 ครั้ง

5. คู่ชิงที่สมน้ำสมเนื้อ

ในที่สุด แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ทำงานได้ตามเป้าเข้าไปชิงชนะเลิศกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ในวันอาทิตย์ที่ 26 ก.พ.นี้จนได้หลังต่างก็สยบทีมร่วม พรีเมียร์ลีก ที่อ่อนชั้นกว่าได้ตามความคาดหมาย

ในรายของ สาลิกาดง พวกเขาบุกไปเอาชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน ในเกมแรก 1-0 ก่อนกลับมาเปิดบ้านคว่ำ นักบุญ ได้อีก 2-1 ผ่านเข้ารอบชิงด้วยสกอร์รวม 3-1

ด้าน แมนฯ ยูไนเต็ด ออกไปเยือน ฟอเรสต์ ก่อนเช่นกัน และไล่ต้อนเจ้าบ้าน 3-0 ก่อนเปิด โอลด์ แทรฟฟอร์ด ย้ำชัย 2-0 ลอยลำเข้าชิงชนะเลิศได้สำเร็จด้วยสกอร์รวม 5-0 และเป็นการเพิ่มสถิติชนะ เจ้าป่า ได้ตลอด 9 นัดหลังสุดที่เจอกันชนิดที่ ผีแดง ยิงประตูได้มากถึง 34 เม็ด

ฉะนั้นแล้ว นัดชิงชนะเลิศ คาราบาวคัพ ซีซั่นนี้จึงถือว่าถูกคู่อย่างยิ่งเนื่องจากอันดับในตาราง พรีเมียร์ลีก ของทั้งคู่ก็หายใจรดต้นคอกันอยู่กับการเก็บได้ 39 แต้มเท่ากันโดยทีมอีสานเหนือกว่าด้วยผลต่างประตูได้เสียเท่านั้น

สำหรับ สาลิกาดง ความสำคัญอยู่ตรงที่พวกเขาไม่ได้เหยียบ เวมบลีย์ อีกเลยนับตั้งแต่แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-0 ในนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอคัพ ปี 1999 หรือ 24 ปีที่แล้วซึ่งก็ต้องชมฝีมือการคุมทีมของ เอ็ดดี้ ฮาว เช่นกันที่เข้ามาปลุกชีวิตชีวาให้กับ เดอะ แม็กพายส์ ได้อย่างน่าปรบมือให้หลังจากใช้เวลาสร้างทีมไม่นานเท่าไหร่

ฝ่าย เทน ฮาก แน่นอนเหลือเกินว่าเขาหวังได้แชมป์แรกกับ ผีแดง ทันทีตั้งแต่ซีซั่นแรกของเขาในเมืองผู้ดีซึ่งหากทำได้สำเร็จก็จะเป็นการเรียกความฮึกเหิมให้นักเตะ เร้ด เดวิลส์ ได้อีกโขต่อการไล่ล่าความสำเร็จในชิ้นที่เหลือโดยซีซั่นนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังอยู่ในเส้นทางของการลุ้นแชมป์ครบทั้งสี่รายการแม้สำหรับ พรีเมียร์ลีก อาจเป็นเพียงพื้นที่ท็อปโฟร์ก็ตาม ขณะที่ในศึก ยูโรปาลีก รอบ 16 ทีมมี บาร์เซโลน่า ขวางทางอยู่ ส่วนในถ้วย เอฟเอคัพ รอบ 16 ทีม พวกเขามีคิวเปิดบ้านฟัดกับ เวสต์แฮม

สยามกีฬา

© 2018-2024 Coreball.com All Rights Reserved.