8
ม.ค.
กัคโป เปิดตัวอย่างจืด, อลิสซง ทรงอย่างแบด! 5 ข้อ ลิเวอร์พูล แค่เจ๊า วูล์ฟส์ เกมเอฟเอคัพ


สู้กันสนุกสมกับที่เป็นฟุตบอล เอฟเอคัพ อย่างแท้จริงสำหรับเกมระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ วูล์ฟส์ ที่สนาม แอนฟิลด์ เมื่อวันเสาร์ที่ 7 ม.ค.

และหลังจากที่เกมพลิกไปพลิกมาหลายตลบ ท้ายที่สุดทั้งคู่ก็เสมอกันไปแบบสุดมัน 2-2 ต้องไปเตะรีเพลย์แมตช์กันอีกยกที่สนาม โมลินิวซ์ กราวด์ ถิ่นของทีม หมาป่า

1.หงส์ เต็มถัง กัคโป ลงตัวจริง

เป็นไปตามความคาดหมายเมื่อ ลิเวอร์พูล ส่ง โคดี้ กัคโป ปีกทีมชาติ ฮอลแลนด์ นักเตะใหม่ถอดด้ามลงเล่นเป็นเกมแรกหลังดึงตัวมาจาก พีเอสวี ทีมในลีกเมืองกังหันลม

รวมแล้ว เจอร์เก้น คล็อปป์ ปรับทัพสี่ตำแหน่งจากเกม พรีเมียร์ลีก นัดบุกไปแพ้ เบรนท์ฟอร์ด 3-1 โดยนอกจาก กัคโป แล้ว แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน , จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ โฌแอล มาติป ถูกเลือกให้ลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมนี้

2.หมาป่า ประเดิมใช้งานกองหลังดาวรุ่ง

ด้าน จูเลน โลเปเตกี กุนซือทีม วูล์ฟส์ สร้างความฮือฮาด้วยการส่ง เด็กซ์เตอร์ เล็มบิกิซ่า แบ็คขวาดาวรุ่งเด็กปั้นวัย 17 ปีลงเล่นเป็นเกมแรกให้กับทีมชุดใหญ่โดยไม่คิดเกรงกริ่งพิษสงของ หงส์แดง เลยแม้แต่น้อยทั้งๆที่เจ้าหนูผ่านการลงบู๊ในฐานะตัวสำรองมาก่อนแค่สองเกมเท่านั้น

อย่างไรก็ดี ทีม หมาป่า ตัดสินใจหวนกลับมาใช้งาน ราอูล ฮิมิเนซ กองหน้าทีมชาติ เม็กซิโก ลงเล่นในโผ 11 คนแรกซึ่งเป็นแค่เกมที่เจ็ดในซีซั่นนี้ที่สตาร์เลือด จังโก้ ได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริงให้กับต้นสังกัด

รวมเบ็ดเสร็จ ทีมเยือนปรับโผมากถึง 9 รายจากเกมลีกที่พวกเขาบุกไปโดน แอสตัน วิลล่า ตามตีเสมอ 1-1 โดยเหลือแค่ รูเบน เนเวส กับ เนธาน คอลลินส์ เท่านั้นที่ได้เล่นเป็นตัวจริงต่อ

3. เจตนารมณ์ที่แตกต่าง

มองจากรายชื่อนักเตะของทั้งสองทีม จะเห็นได้ชัดว่า คล็อปป์ กับ โลเปเตกี อยู่ในอารมณ์ที่ผิดแผกกันลิบลับ

หลังเสียท่าให้กับ เดอะ บีส์ ในเกมนัดล่าสุด ลิเวอร์พูล ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องกู้ชื่อกลับคืนมา และในฐานะเจ้าบ้านพวกเขาเน้นส่งขุมกำลังที่ดีที่สุดเท่าที่มีอยู่ในตอนนี้ลงเล่น

อีกทั้งในฐานะ แชมป์เก่า หงส์แดง จึงจำเป็นต้องเน้นผลลัพธ์ ต่างกับ วูล์ฟส์ ที่ไม่คิดเต็มร้อยกับเกมฟุตบอลถ้วยเนื่องจากการเอาตัวรอดใน พรีเมียร์ลีก สำคัญกว่า และโดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเขามีสถานะเป็นทีมรองบ๊วยโดยมีแต้มมากกว่า เซาธ์แฮมป์ตัน แค่สองแต้ม จึงไม่มีประโยชน์อะไรที่กุนซือ สแปนิช จะใช้งานทีมชุดใหญ่ลงเล่นเกมนี้ซึ่งไม่สามารถการันตีได้ว่าจะน็อก เร้ด แมชีน ให้กระเด็นตกรอบได้

4.นัดที่ 250 ของ เทรนต์

ในวัย 24 ปี เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ แบ็คขวาทีม ลิเวอร์พูล รับใช้สโมสรในเกมนี้เป็นนัดที่ 250 พอดี

แน่นอนว่ามันเป็นตัวเลขที่น่าทึ่งสำหรับเด็กปั้นของสโมสร แต่อันที่จริงยังมีพ่อค้าแข้ง หงส์แดง อีกสี่รายที่ลงเล่นให้ทีมครบ 250 นัดในวัยที่อ่อนกว่าดาวเตะทีมชาติ อังกฤษ

ไมเคิ่ล โอเว่น 23 ปี 89 วัน

ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ 24 ปี 3 วัน

เอ็มลีน ฮิวจ์ส 24 ปี 67 วัน

เอียน รัช 24 ปี 90 วัน

เทรนต์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ 24 ปี 92 วัน

ทอมมี่ สมิธ 24 ปี 129 วัน

สตีเว่น เจอร์ราร์ด 24 ปี 177 วัน

เอียน คัลลาแกน 24 ปี 188 วัน

ฟิล ธอมป์สัน 24 ปี 224 วัน

จะอย่างไรก็ตาม หลังจาก อลิสซง ก่อความผิดพลาดมอบประตูให้ทีม หมาป่า ออกนำ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ก็โชว์ฟอร์มจ่ายบอลยาวแอสซิสต์ให้ ดาร์วิน นูนเญซ ซัดตีเสมอให้เจ้าบ้านทวงคืน 1-1 ก่อนจบครึ่งแรกอึดใจเดียวซึ่งส่งผลให้สถานการณ์ของ ลิเวอร์พูล กระเตื้องขึ้นมาทันทีก่อนบู๊กันต่อในอีก 45 นาทีหลังโดยแบ็คขวาอิงลิชจัดแอสซิสต์เป็นลูกที่ 61 แล้วจากทุกรายการ

5.ดร็อป อลิสซง บ้างดีมั้ย?

แม้ ลิเวอร์พูล จะคุมเกมได้เหนือกว่า แต่ความเฟอะฟะของ อลิสซง ก็ทำให้ วูล์ฟส์ ได้ประตูนำ 1-0 จากลูกยิงของ กอนคาโล่ กูเอเดส ซึ่งเป็นอีกเกมในซีซั่นนี้ที่ เร้ด แมชีน เสียประตูให้คู่แข่งก่อนนับได้เป็น 52% เข้าไปแล้ว

ดีที่ว่า อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ มาโชว์ลูกเก่งได้ทันเวลาจนทำให้ทีมเจ้าบ้านตีเสมอเป็น 1-1 แต่รวมเวลา 90 นาทีต้องยอมรับว่า หมาป่า ต่อสู้ได้ดี และสมควรแล้วที่พวกเขาจะได้สิทธิ์เตะรีเพลย์แมตช์เนื่องจากทีมของ โลเปเตกี มีโอกาสส่องยิงมากกว่าเจ้าถิ่นด้วยซ้ำ 11:10 ครั้ง และส่งบอลเข้ากรอบมากกว่าด้วย 5:3 ครั้ง แม้จะครองบอลเป็นรอง 64:36% ก็ตาม

สำหรับ อลิสซง หลายเกมหลังชักจะตัดสินใจผิดพลาดบ่อยครั้งจนทำให้ทีมเสียหาย แต่ขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับว่าเจ้าตัวเซฟช่วยทีมได้เช่นกันจึงต้องรอดูกันว่า คล็อปป์ จะกล้าดร็อปมือกาวทีมชาติ บราซิล ไปนั่งพักบ้างหรือเปล่าเพราะนายทวารมือสองอย่าง ควีวิน เคลเลเฮอร์ ก็มีฝีไม้ลายมือที่ไว้ใจได้

ขณะเดียวกัน กัคโป ที่กองเชียร์ เดอะ ค็อป หวังได้เห็นฟอร์มเต็มๆในสีเสื้อ เร้ด แมชีน ก็ทำเอาแฟนๆเซ็งกันเล็กๆเนื่องจากปีกดัตช์เปิดตัวไม่สวยอย่างที่ถูกคาดหวังเพราะหลังจากวูบวาบช่วงต้นเกมก็ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันอีกเลยนับจากนั้นก่อนโดนเปลี่ยนตัวออกในห้านาทีสุดท้าย

อย่างไรก็ดี หากจะมองโลกให้เป็นสีชมพูก็ต้องบอกว่า กัคโป น่าจะยังจับจังหวะกับเพื่อนใหม่ไม่ถูก เลยหาตำแหน่งสร้างประโยชน์ให้ทีมไม่ค่อยได้ และต้องให้เวลาเขาปรับจูนอีกนิดเหมือนที่เกิดกับ นูนเญซ ซึ่งถึงตอนนี้ดาวยิงทีมชาติ อุรุกวัย เริ่มตอบแทนสโมสรได้มากขึ้นกว่าแต่ก่อนแล้ว

สยามกีฬา

© 2018-2024 Coreball.com All Rights Reserved.