4
ก.พ.
กุนแฮตทริก! แมนซิตี้คืนฟอร์มถลุงอาร์เซน่อลแตกยับ ทวงรองฝูงคืนจากไก่



แชมป์เก่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กลับมาคืนฟอร์มสุดโหดหลังเปิด เอติฮัด สเตเดี้ยม ไล่ถล่ม อาร์เซน่อล 3-1 เกมนี้ เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" ตะบันแฮตทริก และประตูที่ 14 ในซีซั่นนี้ ก่อนพาทีมซิวสามแต้มทวงรองจ่าฝูงคืนจากสเปอร์สมีแต้มตาม "หงส์แดง" 2 คะแนน แต่แข่งมากกว่าหนึ่งนัด ส่วน "ไอ้ปืนใหญ่" ทวงอันดับ 5 คืนจาก "ปีศาจแดง" ไม่สำเร็จร่วงไปรั้งอันดับ 6 แทน ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือแมนฯ ซิตี้ พาทีมแพ้นิวคาสเซิ่ล 1-2 ในเกมล่าสุด เป็นการแพ้นัดแรกในรอบ 5 เกม อีกทั้งก่อนแข่งตกมาอยู่อันดับ 3 โดน "ไก่เดือยทอง" แซงขึ้นรองจ่าฝูงแทน แมตช์นี้เจ้าถิ่นมีปัญหาแนวรับทำให้ต้องส่ง แฟร์นันดินโญ่ ยืนเซ็นเตอร์แบ็กคู่กับ นิโคลัส โอตาเมนดี้ ส่วนสามแนวรุกเป็น แบร์นาโด้ ซิลวา, เซร์คิโอ อเกวโร่ และราฮีม สเตอร์ลิง

ส่วน อูไน เอเมรี่ กุนซืออาร์เซน่อล พาทีมชนะคาร์ดิฟฟ์ 2-1 ในเกมล่าสุด อีกทั้งก่อนแข่งโดน "ปีศาจแดง" แซงขึ้นอันดับ 5 แทน ข่าวดี

สตาร์ทเกมมาได้แค่ 48 วินาที "เรือใบสีฟ้า" ชิงขึ้นนำไปก่อน 1-0 อย่างรวดเร็ว จากความผิดพลาดของ อเล็กซ์ วิโอบี้ ที่โดน เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์ ตัดบอลได้ก่อนเปิดมาในกรอบ 6 หลาให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ พุ่งโขกตุงตาข่าย

เกมรุกของเจ้าถิ่นดาหน้าโจมตีอย่างหนัก นาที 5 สเตอร์ลิง ได้อัดนอกกรอบเต็มแรงแต่บอลยังไปโดน แบร์นด์ เลโน่ พุ่งทุบบอลออกไปได้

จากนั้นอีก 4 นาทีต่อมา เควิน เดอ บรอยน์ เปิดฟรีคิกทางด้านขวาเข้ามาให้ ลาป๊อร์กต์ โขกเข้าตุงตาข่าย แต่ผู้ตัดสินปฎิเสธให้ประตูเนื่องจากเป็นลูกล้ำหน้า

กระนั้นแฟนเรือใบต้องเงียบกันกริบ นาที 11 "ไอ้ปืนใหญ่" มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 บ้าง จากลูกคอร์เนอร์ ลูกัส ตอร์เรยร่า เปิดมาเสาแรกให้ นาโช่ มอนเรอัล โขกเช็ดเข้าไปในกรอบ 6 หลา โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ โถมเข้ามาพุ่งโขกเข้าไป

นาที 17 นิโคลัส โอตาเมนดี้ เติมขึ้นสูงก่อนตั้งบอลอัดด้วยขวาหน้าปากประตู แต่บอลยังไปตรงตัว เลโน่ ล้มตัวรับไว้ได้

เกมตื้อไปพักใหญ่ มาได้เสียวกันในช่วงสิบนาทีสุดท้าย นาที 38 อาร์เซน่อล ตอบโต้ขึ้นมาบ้าง โคลาซินัช ได้บอลหลุดเข้าไปส่องในกรอบเขตโทษแต่บอลยังไปตรงตัว เอแดร์ซอน ทุบออกมาได้ แม้จังหวะต่อมา ลูกัส ตอร์เรยร่า จะวิ่งมาอัดเต็มแรงแต่บอลยังไปติดบล็อกแนวรับเจ้าถิ่น

กลายเป็นเจ้าถิ่นมาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง นาที 43 แฟร์นันดินโญ่ วางบอลยาวถึง สเตอร์ลิ่ง เล่นหนึ่งสองกับ กุนโดกัน ก่อนอดีตปีกหงส์แดงจะปาดเลียดมาเสาสองให้ กุน อเกวโร่ ยิงโล่งเข้าไปชนิดง่ายดาย เป็นประตูที่2ในเกมนี้และประตูที่ 13 ของฤดูกาล

จบครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นนำ อาร์เซน่อล 2-1

ครึ่งหลัง นาที 51 เจ้าถิ่นได้ลุ้นอีกครั้ง แบร์นาโด้ ซิลวา เลี้ยงบอลขึ้นมาทางขวาก่อนหักคืนหลังให้ เควิน เดอ บรอยน์ วิ่งมายิงเต็มแรงบอลชนิดที่ เลโน่ รับไม่อยู่แต่ดีที่ตามไปตะครุบไว้ได้ก่อนถึง ดาบิด ซิลบา

อาร์เซน่อลโงหัวไม่ขึ้นเลย เจอแนวรุกอันจี๊ดจ๊าดของเจ้าถิ่น นาที 56 เดอ บรอยน์ ได้หลุดเข้าไปซัดในกรอบอีกครั้งแต่บอลก็ยังเลียดไปติดตัว เลโน่ ที่รับไว้ได้อีก

จนแล้วจนรอด นาที 61 "เรือใบสีฟ้า" มาได้ประตูหนีห่างเป็น 3-1 ราฮีม สเตอร์ลิง กระชากบอลเข้าไปถึงเส้นหลังแล้วปาดมาหน้าประตู แม้ แบร์นด์ เลโน่ จะปัดปลายมือแต่บอลยังไปชนแขนของ กุน อเกวโร่ ก่อนจะซัดบอลข้ามเส้นไป แม้แข้งปืนใหญ่จะประท้วงว่าเป็นแฮนด์บอลแต่ไม่เป็นผล ผู้ตัดสินชี้ไปกลางสนามเป็นประตูของเจ้าถิ่น และเป็นแฮตทริกในเกมนี้ของดาวยิงชาวอาร์เจนไตน์ และแฮตทริกที่สองในซีซั่นนี้

อูไน เอเมรี่ อยู่ไม่ได้ต้องปรับทัพในนาที 66 เปลี่ยนทีเดียวสองรายถอดเอา อเล็กซ์ อิโวบี้ และเซอัด โคลาซินัช แล้วส่ง อารอน แรมซี่ย์ และเดนิส ซูอาเรซ แข้งรายใหม่ที่ย้ายมาจากบาร์เซโลน่า

นาที 76 ไอ้ปืนใหญ่เกือบโดนลูกที่สี่อีกเม็ด หลัง กุน อเกวโร่ ได้อัดเต็มข้อแถวสองแต่บอลยังไปติดเซฟของ เลโน่ ที่วันนี้เจ้าตัวช่วยทีมไปถึง 6 เซฟแล้ว

อีกสามนาทีต่อมา อาร์เซน่อล เปลี่ยนตัวคนสุดท้ายส่ง คอนสแตนตินอส มาฟโรปานอส ลงไปเล่นแทน ชโคดราน มุสตาฟี่ ที่มีอาการเจ็บ ส่วนทัพเรือใบถอดเอา เซร์คิโอ อเกวโร่ ที่วันนี้เหมาคนเดียว 3 เม็ดออกแล้วส่ง กาเบรียล เชซุส ลงไปเล่นแทน

แนวรับของทีมเยือนเล่นกันได้หลุดลุ่ย นาที 84 เกือบจะโดนอีกเม็ดหลัง กาเบรียล เชซุส หลุดเข้าไปแปเล่นทางแต่บอลยังเบาไปเข้ามือเลโน่รับไว้ได้

ช่วงเวลาที่เหลือ ไม่มีสกอร์เพิ่มเติม จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไล่ถล่มเอาชนะอาร์เซน่อล 3-1 เก็บอีกสามแต้มมีเพิ่มเป็น 59 คะแนน ทวงรองจ่าฝูงจากสเปอร์สโดนมีแต้มตามจ่าฝูง ลิเวอร์พูล แค่ 2 คะแนน แต่แข่งมากกว่าหนึ่งนัด ส่วนอาร์เซน่อล ทวงอันดับ 5 คืนจากปีศาจแดงไม่สำเร็จ มี 47 แต้ม หล่นมาอยู่อันดับ 6 ในวีกนี้แทน

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) :
เอแดร์ซอน โมราเอส - ไคล์ วอล์คเกอร์, นิโคลัส โอตาเมนดี้, แฟร์นันดินโญ่, เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์ - เควิน เดอ บรอยน์ (ริยาด มาห์เรซ น.87), อิลคาย กุนโดกัน, ดาบิด ซิลบา - เป็น แบร์นาโด้ ซิลวา, เซร์คิโอ อเกวโร่ (กาเบรียล เชซุส น.79), ราฮีม สเตอร์ลิง

ผู้จัดการทีม : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

อาร์เซน่อล (3-4-2-1) : แบร์นด์ เลโน่ - ชโคดราน มุสตาฟี่ (คอนสแตนตินอส มาฟโรปานอส น.79), โลร็องต์ กอสซิแอลนี่, นาโช่ มอนเรอัล - สเตฟาน ลิคท์ชไตเนอร์, ลูกัส ตอร์เรร่า, มัตเตโอ เกนดูซี่, เซอัด โคลาซินัช (เดนิส ซูอาเรซ น.66) - อเล็กซ์ อิโวบี้ (อารอน แรมซี่ย์ น.66), ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมย็อง - อเล็กซองด์ ลากาแซตต์

ผู้จัดการทีม : อูไน เอเมรี่

ผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอ็ตกินสัน

สยามสปอร์ต

© 2018-2024 Coreball.com All Rights Reserved.