6
ธ.ค.
แซมบ้าตัดตอนทีมเอเชีย,โสมขาวบอกลากาตาร์! 5 ข้อ บราซิล ต้อนตือ เกาหลีใต้ ทะลุ 8 ทีมบอลโลก


เข้ารอบแปดทีมไปแบบสบายเท้าสำหรับ บราซิล ทีมเต็งแชมป์ซึ่งขยี้ เกาหลีใต้ ไปได้ด้วยสกอร์ 4-1 ในการฟาดแข้งฟุตบอลโลก รอบ 16 ทีมเมื่อวันจันทร์ที่ 5 ธ.ค.

ต่อชัยชนะที่มีเหนือทีม โสมขาว ทำให้กองทัพ เซเลเซา รอปะทะกับ รองแชมป์โลก โครเอเชีย ในวันศุกร์ที่ 9 ธ.ค.ซึ่งแน่นอนว่าทีมของกุนซือ ตีเต้ แลดูเหนือกว่าทีมตาหมากรุกที่กว่าจะเอาชนะ ญี่ปุ่น ได้ก็ต้องอาศัยการดวลลูกโทษตัดสิน

1.เนยมาร์ คืนฟิตนำทัพ แซมบ้า

ไม่ได้เจ็บหนักจนมีแววพลาด ฟุตบอลโลก ไปตลอดทัวร์นาเมนต์เหมือนมีข่าวลือเมื่อ เนย์มาร์ สลัดปัญหาที่ข้อเท้ากลับมาลงสนามได้ในเกมบู๊กับ เกาหลีใต้ หลังพลาดการลงสนามในเกมรอบแบ่งกลุ่มไปสองนัด

นอกจากศูนย์หน้าทีม ปารีส แซงต์ แชร์กแมง แล้ว ตีเต้ นายใหญ่ เซเลเซา เปลี่ยนนักเตะอีกเก้ารายจากเกมแพ้ แคเมอรูน 1-0 ส่งท้ายรอบแบ่งกลุ่มโดยเหลือแค่ เอแดร์ มิลิเตา กองหลังทีม เรอัล มาดริด รายเดียวเท่านั้นในโผ 11 ตัวแรก

อย่างไรก็ดี เป็นที่ทราบกันไปแล้วว่าทีมเมืองกาแฟขาดนักเตะไปตลอดทั้งรายการนี้แล้วสองรายจากปัญหาบาดเจ็บทั้ง กาเบรียล เชซุส ศูนย์หน้า อาร์เซน่อล และ อเล็กซ์ เตลเลส กองหลังทีม เซบีย่า (ยืมจาก แมนฯ ยูไนเต็ด) ซึ่งเจ็บเข่าขวาเช่นกัน

2.ตระกูล คิม โรเตชั่นสองตำแหน่ง

ด้านนักเตะสกุล คิม เปลี่ยนทีมตัวจริงดวลกับทีมเต็งแชมป์สองรายโดย คิม มิน แจ ปราการหลังทีม นาโปลี หายเจ็บกลับมาเสียบแทน ควอน คยอง วอน ที่หล่นไปนั่งสำรอง

ส่วนอีกราย ฮวาง ฮี ชาน สตาร์ทีม วูล์ฟส์ แย่งตำแหน่งตัวจริงไปจาก อี คัง อิน ที่มีชื่อนั่งอยู่ข้างสนามเช่นกัน

3.แซมบ้า กำลังใจเต็มร้อย

ก่อนเกมบู๊กับ เกาหลีใต้ ไม่นาน เปเล่ ตำนานทีมชาติ บราซิล ซึ่งกำลังรักษาอาการป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลส่งข้อความมาให้กำลังใจพลพรรค เซเลเซา ด้วยการยืนยันว่าจะดูเกมนี้อยู่หน้าจอทีวีด้วย

"ในปี 1958 ผมเดินไปตามถนนพร้อมทั้งคิดถึงการรักษาสัญญาที่ผมให้ไว้กับพ่อ ผมรู้ว่าวันนี้หลายคนมีการให้สัญญาในลักษณะเดียวกัน และมันเป็น ฟุตบอลโลก ครั้งแรกของพวกเขา ผมจะดูเกมที่โรงพยาบาล ผมจะเป็นกำลังใจให้ทุกคน โชคดี!" เจ้าของฉายา "ไข่มุกดำ" ในวัย 82 ปีเผยข้อความผ่านทวิตเตอร์โดยที่คนทั่วโลกกำลังภาวนาเอาใจช่วยเขาให้หายป่วยโดยเร็วเช่นกัน

4.โสมขาว งานเข้าตั้งแต่หัววัน

ผ่านมาแค่ 7 นาที เกาหลีใต้ ก็ตาข่ายขาดตั้งแต่ต้นเกมในจังหวะที่ วินิซิอุส จูเนียร์ สบโอกาสได้แปบอลแบบโล่งๆไม่มีใครคุมพาทีมชาติ บราซิล นำหน้าซึ่งหมายความว่าดาวยิงทีม เรอัล มาดริด เป็นนักเตะเมืองกาแฟอายุน้อยที่สุดที่เช็คบิลได้ในเกม ฟุตบอลโลก ด้วยวัย 22 ปี 146 วัน นับตั้งแต่ที่ เนย์มาร์ สร้างชื่อเอาไว้ในปี 2014 ขณะมีอายุ 22 ปี 127 วัน

เท่านั้นไม่พอ ถึงนาทีที่ 13 ทีมจาก อเมริกาใต้ มาได้ลูกโทษอีกจากจังหวะที่ ริชาร์ลิซอน โดนทำฟาวล์ในเขตโทษ และเป็น ราฟินญ่า ที่ตอนแรกเตรียมรับหน้าที่ แต่สุดท้าย เนย์มาร์ ขอสังหาร และสร้างผลงานซัดประตูที่ 7 ใน ฟุตบอลโลก ของตัวเอง และเป็นประตูที่ 76 กับทีมชาติจากการลงสนามเป็นนัดที่ 123 ซึ่งเหลืออีกแค่ประตูเดียวก็จะทาบเท่าสถิติดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของ บราซิล ที่ เปเล่ ถือครองอยู่

พร้อมกันนี้ เนย์มาร์ ยังเป็นดาวเตะ แซมบ้า รายที่สามที่ยิงประตูได้ใน ฟุตบอลโลก สามสมัย (2014,2018,2022) เช่นเดียวกับ โรนัลโด้ (1998, 2002, 2006) และ เปเล่ (1958, 1962, 1970) แต่ที่แน่ๆ 6 ประตูหลังของ เนย์มาร์ กับ บราซิล ในทุกรายการเกิดจากการสังหารลูกโทษโดยตลอด ก่อนที่ ริชาร์ลิซอน จะมาเพิ่มเม็ดสามในนาทีที่ 29 จากการประสานงานกันอย่างสุดยอดเป็นประตูที่สามใน ฟุตบอลโลก ของดางยิงทีม ไก่เดือยทอง และเป็นประตูที่ 20 ของเขากับทีมชาติจากการลงสนามนัดที่ 41

สรุปแล้ว บราซิล กระซวก เกาหลีใต้ ได้แบบขาดลอยในครึ่งแรก 4-0 โดยมี ลูคัส ปาเกต้า คลำเป้าเพิ่มในนาทีที่ 36 ซึ่งทีมเมือง กาแฟ ครองบอลได้เหนือกว่าในระดับ 57:43% และได้ง้างยิงมากกว่า 10:4 ครั้ง อีกทั้งส่งบอลเข้ากรอบได้มากกว่า 6:3 ครั้ง

5.ประตูปลอบขวัญ

เข้าสู่ครึ่งหลัง บราซิล เพลาเกมลงไปอย่างเห็นได้ชัดหลังพอใจสกอร์นำห่าง 4-0 ซึ่งเป็นการเปิดทางให้ เกาหลีใต้ มีโอกาสบุกเข้าใส่

แต่ถึงอย่างนั้น ทีมยักษ์จากละตินก็ไม่หวังเสียประตู อีกทั้ง อลิสซน ได้โชว์ความเหนียวเซฟลูกอันตรายสองสามหนด้วย แต่ก็ไม่วายโดนทีเด็ดจาก เพ็ค ซึง โฮ ตัวสำรองกระหน่ำยิงเต็มข้อจากหน้าเขตโทษในนาทีที่ 76 ตีไข่แตกได้เป็นประตูที่3 ในการลงเล่นให้แผ่นดินเกิดนัดที่ 15 ของกองกลางวัยเบญจเพส ก่อนที่ เวเวอร์ตอน ผู้รักษาประตูมือสามของ บราซิล จะได้ลงมาเฝ้าเสาแทนมือกาวทีม ลิเวอร์พูล ซึ่งทำให้พวกเขาเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ของ ฟุตบอลโลก ที่ส่ง 26 นักเตะลงสนามอย่างครบถ้วนแล้ว และในที่สุดสกอร์ก็จบลงด้วยชัยชนะ 4-1 ของทีมเต็งหนึ่ง

จากผลลัพธ์ดังกล่าวเท่ากับว่าทีม แซมบ้า แพ้แค่นัดเดียวเท่านั้นจาก 32 นัดหลังในทุกรายการที่มี เนย์มาร์ ลงเล่นเป็น 11 คนแรก (ชนะ 27 เสมอ 4) และไม่แพ้เลยจาก 12 นัดหลังซึ่งพวกเขาชนะ 11 นัด เสมอ 1 นัด

สำหรับ เกาหลีใต้ พวกเขาแพ้ บราซิล เป็นเกมที่ 8 ในทุกรายการโดยสามารถเอาชนะทีม เซเลเซา ได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น

เกาหลีใต้ 0 -บราซิล 1 อุ่นเกือก,1995

เกาหลีใต้ 1- บราซิล 2 ไนกี้ เวิลด์ ทัวร์ ,1997

เกาหลีใต้ 1- บราซิล 0 อุ่นเกือก, 1999

เกาหลีใต้ 2- บราซิล 3 อุ่นเกือก ,2002

เกาหลีใต้ 0- บราซิล 2 อุ่นเกือก ,2013

บราซิล 3-เกาหลีใต้ 0 อุ่นเกือก , 2019

เกาหลีใต้ 1-บราซิล 5 อุ่นเกือก, 2022

บราซิล 4- เกาหลีใต้ 1 ฟุตบอลโลก,2022

สยามกีฬา

© 2018-2024 Coreball.com All Rights Reserved.