26
ม.ค.
ผีเก่งเวอร์เฮ8นัดติด! แมนยูแกร่งบุกถล่มอาร์เซน่อล ทะยานรอบ 5 เอฟเอ คัพ



โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ยิ้มแก้มปริหลังลูกทีมโชว์ฟอร์มร้อนแรงไล่ถลุงเจ้าถิ่น อาร์เซน่อล แชม์สูงสุดถ้วยใบนี้ 3-1 ทำสถิติสุดยอดหลังคว้าชัยติดต่อกัน 8 นัดติดทุกรายการ ตีตั๋วผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 5 ต่อไป ในศึกเอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบ 4 เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 25 มกราคม ที่ผ่านมา

สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม, ลอนดอน

อาร์เซน่อล ฟอร์มล่าสุดไล่บดเอาชนะคู่ปรับร่วมเมือง เชลซี 2-0 ในเกมพรีเมียร์ลีกนัดที่ผ่านมา ทว่าสภาพทีมล่าสุดจะไม่มี เฮคตอร์ เบเยริน แบ็กขวาตัวเก่งที่บาดเจ็บพักยาวทั้งซีซั่น เกมนี้ อูไน เอเมรี่ ส่งอเล็กซองด์ ลากาแซตต์ จับคู่ล่าตาข่ายกับ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง โดยมี อารอน แรมซี่ย์ และอเล็กซ์ อิโวบี้ สนับสนุน

ขณะที่ลูกทีมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ กุนซือของ "ปีศาจแดง" โชว์ฟอร์มสุดร้อนแรงคว้าชัยมา 7 นัดติดต่อกันทุกรายการ ล่าสุดเพิ่งเปิดบ้านบดเอาชนะ ไบรท์ตัน 2-1 เกมวันนี้แนวรุกจัดหนัก โรเมลู ลูกากู ได้สตาร์ทเป็นหน้าเป้า โดยมีตัวรุกคอยป่วนทั้ง เจสซี่ ลินการ์ด, ปอล ป็อกบา และอเล็กซิส ซานเชซ ที่ได้กลับมาเยือนถิ่นเก่าอีกครั้ง

เปิดฉากมาครึ่งแรก ต้องรอถึงนาที 11 ถึงจะมีจงหวะเสียวแรก เป็นโอกาสลุ้นของ "ปีศาจแดง" อเล็กซิส แทงบอลทะลุแนวรับเจ้าถิ่นให้ ป็อกบา หลุดเข้าไปแต่ดีที่ ปีเตอร์ เช็ก ออกมาไวบล็อกลูกเปิดของป็อกบาได้ทัน

นาที 21 อูไน เอเมรี่ ต้องเปลี่ยนตัวเป็นคนแรกหลัง โซคราติส แนวรับคนสำคัญบาดเจ็บทำให้ต้องส่ง ชโคดราน มุสคาฟี่ ลงมาเล่นแทน

นาที 24 ไอ้ปืนใหญ่ ได้ลุ้นบ้าง ลากาแซตต์ จ่ายบอลให้ อิโวบี้ หลุดเข้าไปซัดเสาแรกแต่บอลยังไปตรงตัว เซร์คิโอ โรเมโร่ รับไว้ได้

กลายเป็นลูกทีมของ โซลชา ที่บุกมาชิงขึ้นนำไปก่อน 1-0 ในนาที 31 จากจังหวะจ่ายสุดเนียนของ ลูกากู ที่แทงบอลทะลุช่องให้ อเล็กซิส ซานเชซ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปหลบ ปีเตอร์ เช็ก ก่อนจะยิงเสาแรกพุ่งเสียบตาข่ายเสาสองเข้าไปอย่างเด็ดขาด

แฟนปืนช็อกต่อเนื่องเงียบกริบทั้งสนามอีก เมื่ออีก 2 นาทีต่อมา แผงหลังยืนไลน์กันผิดพลาดโดนเจาะขึ้นทางขวาถึง ลูกากู ที่ไม่ล้ำหน้าก่อนที่หัวหอกทีมชาติเบลเยียมจะจ่ายเข้ากลาง ให้ ลินการ์ด ที่ยืนโล่งๆ จับด้วยซ้ายแล้วแปบอลเลียดด้วยขวาเสาแรกผ่านมือ ปีเตอร์ เช็ก เข้าไปอย่างเยือกเย็น ให้ "ปีศาจแดง" นำห่าง 2-0

เกมรุกของทีมเยือนยังดูวูบวาบและมีลุ้นในนาที 39 จากจังหวะที่ อเล็กซิส จ่ายบอลเข้ากลางให้ ลินการ์ด ตั้งบอลยิงไกลด้วยขวาแต่บอลเหินคานไปแบบไม่ได้ลุ้น

นาที 43 อาร์เซน่อล มาทวงประตูตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-2 บ้างคราวนี้บอลจาก อิโวบี้ แทงออกซ้ายให้ แรมซี่ย์ สับไกกระชากถึงเส้นหลังก่อนปาดเลียดมาในกรอบ 6 หลา บอลเลยทั้ง ลากาแซตต์ และตอร์เรยร่า ก่อนถึง โอบาเมย็อง ที่ยืนโล่งๆคนเดียวกระแทกบอลเข้าไปอย่างง่ายดาย

ช่วงทดเจ็บ "ปืนใหญ่" กดดันอย่างหนัก นาที 45+4 ลากาแซตต์ ครอสบอลจากขวามาเข้าหัว มุสตาฟี่ เทกตัวขึ้นโขกเน้นๆ บอลตกพื้นเฉียดเสาแรกออกไป

จบครึ่งแรก อาร์เซน่อล ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-2

มาบู๊กันต่อในครึ่งเวลาหลัง ไอ้ปืนใหญ่ โหมบุกตั้งแต่ต้นเกมเลย นาที 46 ชวดโอกาสได้ประตูตีเสมอแบบน่าเสียดาย เมื่อ เมทแลนด์-ไนล์ส ยกบอลไปเสาแรกให้ แรมซี่ย์ ขึ้นโขกเน้นๆ บอลจะเข้าสามเหลี่ยมอยู่แล้สแต่ โรเมโร่ โชว์เหนียวเหินปัดมือเดียวบอลชนคานออกหลังไป

นาที 54 ป็อกบา ลากบอลมาเองหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะโดนแข้งเจ้าถิ่นเกี่ยวฟาวล์ด้านหลัง และเป็น ลูกากู ที่อาสาวิ่งมาปั่นบอลข้ามกำแพง เหินโด่งข้ามคานออกไป

นาที 57 เกมต้องหยุดยาว หลัง โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ แนวรับเจ้าถิ่นต้องมาเจ็บอีกรายหลังโดนปุ่มสตั๊ดที่บนเหน้า

จากนั้น นาที 65 อูไน เอเมรี่ เปลี่ยนผู้เล่นสองคนสุดท้ายรวดเดียวส่ง เมซุส โอซิล ลงมาเล่นแทน อิโวบี้ และเก็นดูซี่ ลงมาเล่นแทน กอสซิแอลนี่ ที่เล่นต่อไม่ไหว

จากนั้นอีกไม่กี่นาที "ปีศาจแดง" แก้เกมบ้างส่งแนวรุกสุดโหดทั้ง มาร์คัส แรชฟอร์ด และ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ลงมาเล่นแทน โรเมลู ลูกากู และ อเล็กซิส ซานเชซ แทน

นาที 79 จังหวะหลุดครั้งแรกของ แรชฟอร์ด ก็หวิดทำให้ปืนใหญ่เสียประตูอีกแล้ว หลัง ป็อกบา จ่ายแทงให้เข้าไปยิงติดบล็อก เช็ก แม้ต่อมาเชิ้ตดำจะเป่าเป็นล้ำหน้าก็ตาม

เกมรุกของเจ้าถิ่นได้แต่หวือหวา ต่างกับอาคันตุกะที่โต้ขึ้นมาได้ลุ้นตลอด และนาที 82 ลูกทีมของโซลชาก็โชว์ความเด็ดขาด เมื่อ ป็อกบา ลากบอลมาหน้ากรอบก่อนตะบันนเต็มข้อไปติดเซฟของ เช็ก แต่บอลก็ไม่พ้นอันตรายมาเข้าทางของ มาร์กซิยาล ตัวสำรองที่วิ่งมาซ้ำเข้าไปไม่เหลือ สกอร์ทีมเยือนหนีห่างเป็น 3-1

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกม "ปีศาจแดง" บุกมาหลอนเจ้าถิ่น อาร์เซน่อล ถึงบ้าน 3-1 ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 5 เอฟเอ คัพ ต่อไป

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

อาร์เซน่อล (4-2-2-2) :
ปีเตอร์ เช็ก - เอนส์ลี่ย์ เมทแลนด์-ไนล์ส, โซคราติส ปาปาสตาโธปูลอส ( ชโคดราน มุสตาฟี่ น.21), โลร็องต์ กอสซิแอลนี่ (มัตเตโอ เก็นดูซี่ น.65), เซอัด โคลาซินัค - ลูกัส ตอร์เรยร่า, กรานิต ชาคา - อารอน แรมซี่ย์, อเล็กซ์ อิโวบี้ (เมซุส โอซิล น.65) - อเล็กซองด์ ลากาแซตต์, ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง

เทรนเนอร์ : อูไน เอเมรี่

แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : เซร์คิโอ โรเมโร่ - แอชลี่ย์ ยัง, วิคเตอร์ ลินเดเลิฟ, เอริค ไบยี่, ลุค ชอว์ -อันเดร์ เอร์เรร่า, เนมานย่า มาติช - เจสซี่ ลินการ์ด (ฟิล โจนส์ น.88), ปอล ป็อกบา, อเล็กซิส ซานเชซ (อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล น.72) - โรเมลู ลูกากู (มาร์คัส แรชฟอร์ด น.72)

เทรนเนอร์ : โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์

สยามสปอร์ต

© 2018-2024 Coreball.com All Rights Reserved.