|
17
พ.ค. ปืนโคม่าตกม้าตาย,สาลิกายื่นท็อปโฟร์ให้ไก่ - 5 ข้ออาร์เซน่อลพ่ายนิวคาสเซิ่ลส่อวืดชปล.
![]() กลายเป็นว่า อาร์เซน่อล มีแววพลาดโควต้าลงเล่นถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ในซีซั่นหน้าซะแล้วหลังบุกมาโดนพิษสงของ นิวคาสเซิ่ล เล่นงานเข้าให้อย่างจังจนมีอันต้องพ่ายให้กับ เดอะ แม็กพายส์ 2-0 ในเกม พรีเมียร์ลีก ที่สังเวียนแข้ง เซนต์ เจมส์พาร์ค เมื่อวันจันทร์ที่ 16 พ.ค. ถึงขณะนี้ ท็อปกัน ลงเล่นเป็นเกมที่ 37 เท่ากับ สเปอร์ส แล้ว และปรากฏว่ายังรั้งอันดับห้าตามเดิมโดยมีแต้มตามหลังทีมคู่แค้นร่วมเมืองอยู่สองแต้มก่อนลงเล่นเกมปิดซีซั่นในวันอาทิตย์นี้ 1.สถิติมีไว้ทำลาย ถ้าจะมีทีมไหนใน พรีเมียร์ลีก ที่แพ้ทาง อาร์เซน่อล มากที่สุด ทีมนั้นก็ต้องเป็น นิวคาสเซิ่ล นี่แหละ จากสถิติที่ทั้งสองทีมเผชิญหน้ากัน มีการยืนยันว่าทีมเมืองกรุงกำชัยเหนือทีมอีสานได้มากถึง 18 จาก 19 นัดหลังที่ได้ต่อกรกันนับตั้งแต่ปี 2011 โดยครั้งเดียวที่ เดอะ แม็กพายส์ ได้เฮเป็นเกมเปิดบ้านชนะ เดอะ กันเนอร์ส 2-1 เมื่อเดือนเม.ย.2018 เท่านั้นไม่พอ จากการบู๊กันเจ็ดหนหลัง นิวคาสเซิ่ล ยิงประตู อาร์เซน่อล ไม่ได้สักเม็ดเลยด้วยนับตั้งแต่ คีแรน คลาร์ก ส่งบอลตุงตาข่ายในเดือนก.ย.2018 ซึ่งพวกเขาปราชัย 2-1 รวมเบ็ดเสร็จ นิวคาสเซิ่ล ได้ชื่อว่าเป็นทีมที่แพ้ทาง อาร์เซน่อล มากกว่าทีมไหนใน พรีเมียร์ลีก เนื่องจากพวกเขาปราชัยให้กับ ท็อปกัน มากที่สุดถึง 33 ครั้ง ขณะเดียวกัน มิเกล อาร์เตต้า ก็มีส่วนในผลงานที่ว่านี้ด้วยเนื่องจากเขาชนะ นิวคาสเซิ่ล มาตลอด 12 ครั้งหลัง แถมไม่เสียประตูเลยแม้แต่ลูกเดียวโดยแบ่งเป็นสมัยที่ยังค้าแข้ง 7 ครั้ง และช่วงที่เป็นผู้จัดการทีม 5 ครั้ง จนในที่สุด สถิติที่ว่าก็ถูกทำลายลงจนได้ แถมอาจส่งผลเสียอย่างมหันต์อีกด้วยเนื่องจาก อาร์เซน่อล น่าจะบอกลาโอกาสซิวอันดับสี่ค่อนข้างแน่แล้ว 2.ปืนใหญ่ เกลียดวันจันทร์แต่... ว่ากันตามจริง อาร์เซน่อล เป็นทีมที่ไม่ถูกโฉลกกับการลงเล่นในวันจันทร์สักเท่าไหร่ มีการตีแผ่ออกมาว่าพวกเขาสะกดคำว่าชนะไม่ได้เลยในเกม พรีเมียร์ลีก มันเดย์ไนท์สามหนหลัง แต่ก็อีกนั่นแหละ ครั้งสุดท้ายที่ทีม ปืนใหญ่ เก็บสามแต้มเต็มได้ในการลงเล่นวันจันทร์จะเป็นการต่อกรกับทีมไหนได้ถ้าไม่ใช่ นิวคาสเซิ่ล คู่แข่งที่พร้อมแจกแต้มให้กับพวกเขาโดย เดอะ กันเนอร์ส เปิดบ้านถล่มอาคันตุกะยับเยิน 3-0 เมื่อเดือนม.ค.ปีก่อน อย่างไรก็ดี โลกสีชมพูของทีมเมืองหลวงกลับทลายลงอย่างไม่เป็นท่าเมื่อสถิติที่เลวร้ายในเกมวันจันทร์ตามมาหลอกหลอนพวกเขาอีกครั้งในนัดสำคัญยิ่งที่ทีม ปืนใหญ่ จำเป็นต้องบุกชนะ "วัวเคยขาม้าเคยขี่" ที่แดนอีสานให้ได้เพื่อโอกาสฟาดแข้งถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ในซีซั่นหน้า 3. อาร์เซน่อล ต้องร้องเพลงรอต่อไป? จากความปราชัยในเกมล่าสุดทำให้มีความเป็นไปได้มากทีเดียวที่ อาร์เซน่อล จะไม่ได้เล่นฟุตบอลถ้วยหูใหญ่หลังปราชัยในนัดเยือนสองเกมหลังทั้งพ่ายต่อ สเปอร์ส 3-0 ก่อนโดน นิวคาสเซิ่ล อัดอีก 2-0 หากเป็นอย่างนั้น เดอะ กันเนอร์ส จะยังไม่ได้ร่วมบู๊ในถ้วยบิ๊กเอียร์ต่อไปนับตั้งแต่ซีซั่น 2015/16 ซึ่งพวกเขาได้อันดับสองในปีที่ เลสเตอร์ ซิตี้ สร้างวีรกรรมซิวแชมป์ พรีเมียร์ลีก ไปเชยชมอย่างระบือลือลั่น แต่ที่แน่ๆ ซีซั่นก่อนทีมจาก เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม มีผลงานที่เลวร้ายกว่านี้เนื่องจากจบอันดับแปดในลีกเมืองผู้ดี ไม่ได้เล่นถ้วยยุโรปเลยแม้แต่รายการเดียว 4.ไก่ ตีปีกขึ้นแท่นนัดสุดท้ายชิงท็อปโฟร์ ต้องถือว่าเกมเฝ้าบ้านขยี้ อาร์เซน่อล 3-0 นับเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของ สเปอร์ส ต่อการเพิ่มโอกาสลงเล่นถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก อย่างชัดเจนเนื่องจากการเล่นนอกบ้านในช่วงโค้งสุดท้ายของซีซั่นถือว่าไม่น่าปลอดภัยเอาซะเลยไม่ว่าจะกับสโมสรไหน และในที่สุด อาร์เซน่อล ก็โดนดีเข้าให้จนได้เนื่องจาก สาลิกาดง มีเกมลงเล่นในถิ่นตัวเองเป็นนัดสุดท้ายก่อนบุกไปเยือน เบิร์นลีย์ ในนัดปิดซีซั่น ขุนพลของ เอ็ดดี้ ฮาว จึงเล่นกันเหมือนกับนัดชิงชนะเลิศเพื่อเป็นการทิ้งทวนเกมเหย้าอย่างดีที่สุดต่อหน้าสาวกของตัวเอง ต่อความพ่ายแพ้ของ อาร์เซน่อล กลายเป็นว่า สเปอร์ส ไม่ต้องทำอะไรมากเลยแค่บุกไปเจ๊ากับ นอริช ทีมบ๊วยที่ตกชั้นไปแล้วในวันอาทิตย์นี้ก็จะคว้าอันดับสี่ด้วยผลต่างประตูได้เสียที่ดีกว่าหากว่าทีม ปืนใหญ่ เปิดรังทุบ เอฟเวอร์ตัน ได้สำเร็จในเกมปิดซีซั่น ถึงขณะนี้ มีทางเดียวเท่านั้นที่ทีมของ อาร์เตต้า จะสมหวังได้ตั๋ว แชมเปี้ยนส์ลีก คือการเอาชนะทีม ท๊อฟฟี่ ให้ได้แล้วหวังว่า ไก่เดือยทอง จะพ่าย นกขมิ้นเหลืองอ่อน ที่ แคร์โรว โร้ด แต่อย่าลืมว่า นอริช มีผลงานชนะแค่นัดเดียวเท่านั้นจาก 16 นัดหลัง และในกรณีที่ สเปอร์ส เก็บได้แค่แต้มเดียวในนัดสุดท้าย อาร์เซน่อล ก็จะต้องขยี้ เอฟเวอร์ตัน ให้เละเป็นผุยผง 14 ประตูจึงจะปีนขึ้นสู่อันดับสี่ได้สำเร็จ ฉะนั้นแล้ว ร้านรับพนันของอังกฤษจึงคลอดอัตราต่อรองออกมาหลังจบเกมที่ เซนต์ เจมส์พาร์ค ว่าทีมของ อันโตนิโอ คอนเต้ จะได้ฟาดแข้งถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ในซีซั่นหน้าภายใต้เรต 1-33 5.กุนซือยอดเยี่ยมแห่งปีตัวจริง อย่างที่ทราบกันว่าหลังจากมีการเปลี่ยนตัวเจ้าของสโมสร สาลิกาดง ก็ปลด สตีฟ บรู๊ซ พร้อมทั้งดึง เอ็ดดี้ ฮาว อดีตกุนซือทีม บอร์นมัธ ให้เข้ามากู้วิกฤตเมื่อเดือนพ.ย. อย่างไรก็ดี แรกทีเดียวเหมือนกับว่า ฮาว ไม่น่าจะทำสำเร็จเนื่องจากเกมแรกที่เขาเปิดตัว นิวคาสเซิ่ล เฝ้าบ้านเสมอกับ เบรนท์ฟอร์ด 3-3 แถมนัดต่อมาที่ได้ฉะกับ อาร์เซน่อล ของ มิเกล อาร์เตต้า ปรากฏว่า ฮาว พาทีมออกไปแพ้ที่ลอนดอน 2-0 จากนั้น สาลิกาดง ก็ทำได้แค่เสมอกับ นอริช ในบ้าน 1-1 ก่อนประเดิมกำชัยนัดแรกของซีซั่นได้ด้วยการเปิดรังเฉือน เบิร์นลีย์ 1-0 ช่วงต้นเดือนม.ค.ซึ่งเป็นการลงเล่นนัดที่ 14 ในลีกของทีมอีสานบ้านเฮา ถึงอย่างนั้น กว่าที่ ฮาว จะพาทีมชนะในลีกนัดสองก็ต้องรอจนถึงเกมที่ 21 ของซีซั่นซึ่ง นิวคาสเซิ่ล บุกไปพิชิต ลีดส์ ด้วยสกอร์ 1-0 จวบจนวันนี้ ใครจะไปเชื่อว่า เดอะ แม็กพายส์ ซึ่งไม่ชนะใน 14 เกมแรกจะรอดพ้นจากการตกชั้นชนิดที่ไม่จำเป็นต้องลุ้นตัวโก่งจนถึงนัดสุดท้ายด้วยอันทำให้ เดอะ แม็กพายส์ ได้ชื่อว่าเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก ที่อยู่รอดได้ทั้งๆที่ไม่ชนะเลยใน 14 เกมแรกนับตั้งแต่ออกสตาร์ต และจมปลักในตำแหน่งบ๊วยอยู่นานสองนาน เห็นอย่างนี้แล้วจึงต้องถามกันสักหน่อยว่านายใหญ่วัย 44 ปีสมควรได้รางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของ พรีเมียร์ลีก มั้ย? |
|