11
เม.ย.
เลสเตอร์เปิดรังเชือดหวิวพาเลซสุดมันก่อนแซงยึดที่9แทน



"จิ้งจอกสยาม" เปิดบ้านเชือด คริสตัล พาเลซ สุดมัน 2-1 เก็บสามแต้มพร้อมแซงทีม ดิ อีเกิ้ลส์ ขึ้นมาอยู่ที่ 9 แทนแล้ว ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน 2565

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน 2565
เลสเตอร์ 2-1 คริสตัล พาเลซ


สนาม :
คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ประจำวันอาทิตย์ที่ 10 เมษายน 2565 เป็นเกมระหว่าง เลสเตอร์ ทีมอันดับ 10 ของตาราง เปิดคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม ต้อนรับ คริสตัล พาเลซ ทีมอันดับ 9 โดยทั้งสองทีมมี 37 แต้มเท่ากัน แต่ ดิ อีเกิ้ลส์ มีประตูได้เสียดีกว่า

เจ้าถิ่น "จิ้งจอกสยาม" เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ยังคงไม่มี เจมี่ วาร์ดี้ กองหน้าอันดับ 1 ของทีมที่บาดเจ็บ ยังดีที่ยังได้ โซยุนชู กลับมายืนเซนเตอร์ฮาล์ฟ ตัวจริงทันเวลา

ด้านทีมเยือน ปาทริก วิเอร่า พาทีม ดิ อีเกิ้ลส์ ไม่แพ้ใคร 7 นัดในทุกรายการ เกมนี้ยังนำทัพมาโดย จอร์แดน อายิว, วิลฟรีด ซาฮา และ ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า

เริ่มเกมมา 5 นาที เป็นฝั่ง เลสเตอร์ ได้โอกาสยิงทักทายก่อน จากการวิ่งมากดยิงนอกกรอบด้วยเท้าซ้ายเต็มข้อของ อเดโมล่า ลุคแมน แต่บอลหลุดเสาออกหลังไปแบบมีเสียว

นาทีที่ 19 โอกาสเป็นของผู้มาเยือนบ้าง เมื่อ ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า หลุดไปกดเต็มข้อด้วยเท้าซ้าย ทิศทางบอลพุ่งเสียบหน้าต่างเสาสองแน่นอน แต่ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ยังเยี่ยม พุ่งปัดมือเดียว เซฟ เลสเตอร์ รอดเสียประตูอย่างสุดยอด

เกมผ่านนาทีที่ 34 ปาทริก วิเอร่า ต้องเปลี่ยนตัวตั้งแต่หัววัน เมื่อ ไทริก มิตเชลล์ มีอาการเจ็บ เล่นต่อไม่ไหว ต้องเปลี่ยน โจเอล วอร์ด ลงมาแทน

แต่แล้วนาทีที่ 39 แฟนๆ เลสเตอร์ ได้เฮกันลั่น เมื่อ เคียร์แนน ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์ เปิดบอลให้ อเดโมล่า ลุคแมน ดึงบอลผ่าน โจอาคิม แอนเดอร์เซ่น ในกรอบเขตโทษ ก่อนตะบันเต็มข้อด้วยเท้าขวา ส่งบอลผ่านมือ บิเซนเต้ กัวอิต้า ตุงตาข่าย ทำให้ทีม จิ้งจอก ทะยาน นำ 1-0

นาทีที่ 45 สาวกจิ้งจอก ได้เฮกันอีกครั้ง จากจังหวะ แพตสัน ดาก้า เปิดบอลให้ เคียร์แนน ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์ ได้บอลในกรอบเขตโทษ พลิกบอลกระชากหนี ชีกู คูยาเต้ ก่อนกดยิงด้วยเท้าซ้าย บอลพุ่งเป็นจรวดเสียบตาข่ายไปอย่างงามหยดย้อย ทำให้หมดครึ่งแรก จึงเป็น เลสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านนำ คริสตัล พาเลซ 2-0

เริ่มครึ่งหลังมา 5 นาที เลสเตอร์ ซิตี้ มีลุ้นได้ประตูเพิ่มก่อน เมื่อได้ฟรีคิกกลางประตู ตรงเส้นกรอบเขตโทษ แต่ลูกยิงของ เจมส์ แมดดิสัน ยังไม่ผ่านกำแพง

นาทีที่ 63 โอกาสตีไข่แตกของผู้มาเยือนมาแล้ว เมื่อ ยูริ ตีเลอมันส์ ไปทำฟาวส์ จอร์แดน อายิว ในกรอบเขตโทษ แต่ลูกยิงของ วิลฟรีด ซาฮา ถูก แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล พุ่งเซฟได้อย่างเหลือเชื่อ

อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 66 ผู้ตัดสิน โรเบิร์ต โจนส์ ให้ทีมเยือนยิงจุดโทษใหม่อีกครั้ง หลังจากเช็กวีเออาร์แล้ว โดย วิลฟรีด ซาฮา ยังรับหน้าที่ตามเดิม และคราวนี้ก็ยิงไปติด แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล อีก แต่โชคยังดีที่บอลกระดอนมาเข้าทาง ทำให้เจ้าตัวตามโหม่งซ้ำเข้าประตูไป ทำให้ คริสตัล พาเลซ ไล่ตามมา 1-2

ก่อนช่วงเวลาที่เหลือทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ หมดเวลาจึงเป็น "จิ้งจอกสยาม" เปิดบ้านเชือด คริสตัล พาเลซ สุดมัน 2-1 เก็บสามแต้มพร้อมแซงทีม ดิ อีเกิ้ลส์ ขึ้นมาอยู่ที่ 9 แทนแล้ว

นักเตะตัวจริงทั้งสองทีม

เลสเตอร์ ซิตี้ (4-3-3) :
แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล - เจมส์ จัสติน, แดเนียล อมาร์ตีย์ , ชักลาร์ โซยุนชู, ลุค โทมัส - ยูริ ตีเลอมันส์, นัมปาลิส เมนดี้, เคียร์แนน ดิวส์บิวรี่-ฮอลล์ - เจมส์ แมดดิสัน (ทิโมธี คาสตาน น.89),แพตสัน ดาก้า (เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ น.76) ,อเดโมล่า ลุคแมน (ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ น.77)

คริสตัล พาเลซ (4-3-3) : บิเซนเต้ กัวอิต้า - เนธาเนี่ยล ไคลน์, โจอาคิม แอนเดอร์เซ่น, มาร์ค เกอฮี, ไทริก มิตเชลล์ (โจเอล วอร์ด น.34) - ชีกู คูยาเต้ (เจมส์ แมคอาเธอร์ น.58), เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์, คอนอร์ กัลลาเกอร์ (เอแบร์เรกี้ เอเซ น.58) - จอร์แดน อายิว, วิลฟรีด ซาฮา, ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตต้า

ผู้ตัดสิน : โรเบิร์ต โจนส์

สยามกีฬา

© 2018-2025 Coreball.com All Rights Reserved.