วันอาทิตย์นี้แล้วที่ แมนฯ ซิตี้ จะเปิดศึกกับ ลิเวอร์พูล ที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม อันเป็นเกมที่ถูกชี้ว่าจะเป็นการตัดสินแชมป์ พรีเมียร์ลีก ซีซั่น 2021/22

เป็นอย่างนั้นก็เพราะ เรือใบสีฟ้า ทีมจ่าฝูงมีคะแนนนำ หงส์แดง แค่แต้มเดียวเท่านั้น ขณะที่ทั้งคู่เหลือเกมให้ลงเล่นอีกแปดนัดเท่ากัน
และจากการลงบู๊หนล่าสุดในศึก แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแปดทีมนัดแรก แมนฯ ซิตี้ กับ ลิเวอร์พูล ต่างก็มีผลงานดีด้วยกันท้้งคู่โดยทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เอาชนะ แอตเลติโก มาดริด ได้ 1-0 ขณะที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ พาทีมบุกไปต้อน เบนฟิก้า ถึง สตาดิโอ ดา ลุซ 3-1

ฉะนั้นแล้ว เกมวันอาทิตย์นี้จึงมีความคู่คี่สูสีอย่างยิ่ง และอาจชี้ให้เห็นถึงทีมที่จะได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก ในซีซั่นนี้เลยก็เป็นได้เนื่องจากหาก แมนฯ ซิตี้ มีชัย พวกเขาก็จะขยับหนีเป็นสี่แต้ม ได้หายใจหายคออย่างทั่วท้องมากขึ้น แต่หาก หงส์แดง ได้เฮ อันดับตารางก็จะพลิกผันทันทีในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้

"ถ้าคุณชนะ ซิตี้ ซึ่งเป็นเรื่องยากมาก ผมก็คิดว่าโอเค มันจะเป็นการตัดสินแชมป์เพราะคุณภาพของทีมคู่แข่ง" กุนซือชาวเยอรมันเอ่ย

"ทุกคนรู้ถึงความสำคัญของเกมหน้า แต่หลังจากนั้นยังมีเกมอื่นๆอีกทั้งใน พรีเมียร์ลีก และรายการอื่นๆด้วย"

ด้าน เควิน เดอ บรอยน์ มิดฟิลด์ทีมชาติ เบลเยี่ยม เอ่ยถึงเกมปะทะกับ ลิเวอร์พูล ผ่านเว็บไซต์ของ แมนฯ ซิตี้ ว่า "ในฐานะนักเตะ คุณต้องการชนะและได้โทรฟี่ และหากคุณต้องการมัน คุณก็จำเป็นต้องชนะเกมใหญ่แบบนี้ แต่ไม่ว่าคุณจะชนะ เสมอ หรือแพ้ มันก็ยังมีเกมให้เล่นกันอีก"

- การเผชิญหน้ากันของสองยอดกุนซือ

ก่อนหน้านี้ คล็อปป์ เคยประมือกับ กวาร์ดิโอล่า มาแล้วในบุนเดสลีกาโดย โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ พ่ายต่อ บาเยิร์น มิวนิค ทั้งสองหนก่อนที่ทั้งสองจะได้ต่อกรกันอีกในเมืองผู้ดี

"หากผมจะเป็นคนที่แตกต่างไปจากที่ผมเคยเป็น บางทีผมคงกดดันน้อยลงแม้ว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะยังเป็นโค้ชที่มีผลงานคงเส้นคงวา" คล็อปป์ เอ่ยเมื่อ 7 เม.ย.

"บางทีกับ ดอร์ทมุนด์ เราน่าจะได้แชมป์มากกว่านี้หาก เป๊ป ไม่ได้คุมทีม บาเยิร์น ตอนนี้ก็เหมือนกัน หากเขาไม่ได้อยู่ที่นี่ อย่างน้อยเราก็น่าจะได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก มากขึ้นอีกครั้ง แต่ผมไม่ใช่คนแบบนั้น ผมแฮปปี้กับสถานการณ์ของเรา"

รวมแล้วในทุกรายการ กุนซือกาตาลันกับด๊อยทช์ดวลกันมาแล้วทั้งหมด 22 ครั้งโดยต่างก็มีผลงานเท่ากันเป๊ะจากชัยชนะ 9 นัด เสมอ 4 นัด และแพ้ 9 นัด ฉะนั้นแล้วเกมในวันอาทิตย์นี้อาจมีใครคนหนึ่งนำหน้าในจุดนี้ก็เป็นได้

แต่เมื่อมองไปที่จำนวนการคว้าโทรฟี่ แน่นอนว่า กวาร์ดิโอล่า ข่ม คล็อปป์ ได้อย่างสบายจากการได้แชมป์มาแล้วทั้งหมด 31 ใบทั้งสมัยคุมทีม บาร์เซโลน่า , บาเยิร์น มิวนิค และ แมนฯ ซิตี้ โดยในจำนวนนี้ เขาได้แชมป์ แชมเปี้ยนส์ลีก กับถิ่น คัมป์นู สองครั้ง แชมป์ บุนเดสลีกา กับ เสือใต้ สามครั้ง และแชมป์ พรีเมียร์ลีก กับ เรือใบสีฟ้า สองครั้ง

สำหรับ คล็อปป์ เขาได้แชมป์จากการคุมทีมใน บุนเดสลีกา และ พรีเมียร์ลีก รวมกัน 10 ครั้งซึ่งประกอบไปด้วยแชมป์ บุนเดสลีกา กับ เสือเหลือง สองครั้ง , แชมป์ พรีเมียร์ลีก , แชมป์ แชมเปี้ยนส์ลีก และแชมป์ สโมสรโลก กับรั้ว แอนฟิลด์ อย่างละครั้ง

- เฮดทูเฮด

กวาร์ดิโอล่า คล็อปป์
22 เกม 22
9-4-9 ชนะ-เสมอ-แพ้ 9-4-9
1.41 แต้มต่อเกม 1.41
35:34 ผลต่างประตู 34:35
5 คลีนชีต 6

-สถิติส่วนตัว (นับเฉพาะการคุมทีมในพรีเมียร์ลีก)

กวาร์ดิโอล่า (2016-ปัจจุบัน) คล็อปป์ (2015-ปัจจุบัน)
339 เกม 365
253 (74.6%) ชนะ 228 (62.5%)
36 (10.6%) เสมอ 75 (20.5%)
50 (14.8%) แพ้ 62 (17.0%)
2.35 แต้มต่อเกม 2.08
2.50 ประตูได้ต่อเกม 2.21
0.85 ประตูเสียต่อเกม 1.09
10 แชมป์ 5
7.13 เรตคะแนน 7.04

สยามกีฬา