|
23
มี.ค. "เรือใบ" สบายกว่าเยอะ!เปรียบเทียบโปรแกรมโค้งสุดท้าย แมนซิตี้ VS ลิเวอร์พูล
![]() ความเข้มข้นในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาลนี้เข้ามาสู่ในช่วงโค้งสุดท้ายแล้ว โดย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ ลิเวอร์พูล คือสองสโมสรที่จะท้าชิงโทรฟี่สุดยิ่งใหญ่ และงานนี้บอกเลยว่าโปรแกรมของพวกเขามันแน่นอน เนื่องจากจะต้องมี 1 เกม (ลีก) ที่จะฟาดฟันกันเองในเดือนเมษายนนี้ ก่อนหน้านี้สถานการณ์ในการลุ้นแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี ดูเหมือนจะไม่มีอะไรน่าลุ้นเนื่องจากช่วงต้นปี 2022 แมนฯ ซิตี้ ทำคะแนนทิ้งห่างคู่แข่งไปไกลเหลือเกิน โดยเฉพาะ "หงส์แดง" ที่ตามหลังพวกเขาถึง 14 คะแนน อย่างไรก็ตามทีมของกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ เดินหน้าเก็บชัยชนะ 8 นัดรวดในลีกทำให้ตอนนี้ช่องว่างที่เคยห่างเหลือเกินลดเหลือแค่แต้มเดียวเท่านั้น แถมผลต่างประตูได้เสียบวก 5 แต้ม ไล่จี้กดดัน "เรือใบ"จ่าฝูง แบบหายใจรดต้นคอแล้ว สำหรับตอนนี้ทั้งสองสโมสรเหลือโปรแกรมต้องลงเล่น 9 แมตชเท่านั้น และหนึ่งในนั้นจะเป็นเกมที่พวกเขาต้องปะทะกันเองในถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม วันอาทิตย์ที่ 10 เมษายนนี้ ซึ่งอาจจะเป็นเกมที่ชี้ชะตาว่าใครจะเป็นแชมป์ลีกก็ได้ กระนั้นอีก 8 แมตช์ที่เหลืออยู่ แมนฯ ซิตี้ และ ลิเวอร์พูล ก็ห้ามสะดุดเช่นกัน โดย "เดอะ ซัน" สื่อดังในอังกฤษ ได้นำโปรแกรมโค้งสุดท้ายของทั้งสองทีมมาเปรียบเทียบกันเพื่อดูว่าทีมไหนมีโอกาสที่จะได้ชูโทรฟี่แชมป์ลีกในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ เส้นทาง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หลังเกมพักเบรกทีมชาติ ทัพ "เรือใบสีฟ้า" เตรียมเดินทางไปเยือนถิ่นเทิร์ฟ มัวร์ เพื่อดวลกับ เบิร์นลี่ย์ ทีมที่พวกเขาไม่เคยแพ้เลย 14 แมตช์ที่พบกัน หลังจากนั้นจะเปิดบ้านรับมือ ลิเวอร์พูล และหวังที่จะเก็บชัยชนะให้ได้เพื่อจะได้ทำแต้มฉีกหนีคู่แข่งแย่งบารมีแชมป์ นอกจากนี้ "เรือใบสีฟ้า" ยังได้เล่นในบ้านต่อเนื่องในการดวลกับ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ตามด้วย ปะทะ วัตฟอร์ด ก่อนจะออกไปเยือน ลีดส์ ยูไนเต็ด ในช่วงปลายเดือนเมษายน ต่อจากนั้นก็เปิดบ้านรับมือ "สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ซึ่งไม่เคยบุกมาชนะในถิ่นเอติฮัด สเตเดี้่ยม ในเกมพรีเมียร์ลีก เลย ตามด้วยการเดินทางไปเยือนกรุงลอนดอนเพื่อปะทะกับ "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ซึ่งถือว่าเป็นเกือบที่ยากที่สุดหลังแมตช์ปะทะกับ ลิเวอร์พูล หากการลุ้นแชมป์ยืดเยื้อไปจนถึงวันสุดท้ายของโปรแกรม แมนฯ ซิตี้ มีคิวเปิดบ้านฟาดฟันกับ "สิงห์ผงาด" แอสตัน วิลล่า ซึ่งมี สตีเว่น เจอร์ราร์ด ตำนานกัปตันทีม "เดอะ เร้ดส์" ทำหน้าที่กุมบังเหียน และเชื่อว่า "สตีวี่จี" คงกระตุ้นลูกทีมให้เอาชนะเจ้าบ้านให้ได้ เพื่อเป็นของขวัญสำหรับสโมสรอันเป็นที่รักของเขา อย่างไรก็ตามในช่วงระหว่างโปรแกรมลีก แมนฯ ซิตี้ ยังต้องลงแข่งศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในรอบก่อนรองชนะเลิศ และ เอฟเอ คัพ ในรอบตัดเชือกที่จะพบกับ ลิเวอร์พูล ในสนามเวมบลีย์ ขณะที่เกมลีกอีกแมตช์กับ วูล์ฟส์ ยังไม่มีการกำหนดวันแข่ง เมื่อมองจากภาพรวมแล้ว ต้องยอมรับว่า แชมป์เก่า ค่อนข้างได้เปรียบพอสมควร เพราะพวกเขามีเกมหนักแค่สองแมตช์นั่นก็คือการรับมือ ลิเวอร์พูล และเยือน เวสต์แฮม แต่กระนั้นการสู้กับทีมที่ต้องหนีตกชั้นอาจจะสร้างปัญหาให้กับ "เรือใบสีฟ้า" ได้เช่นกัน โปรแกรม 9 แมตช์สุดท้าย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ วันเสาร์ที่ 2 เม.ย. - เบิร์นลี่ย์ (เยือน) วันอาทิตย์ที่ 10 เม.ย. - ลิเวอร์พูล (เหย้า) วันพุธที่ 20 เม.ย. -ไบรท์ตัน (เหย้า) วันเสาร์ที่ 23 เม.ย. - วัตฟอร์ด (เหย้า) วันเสาร์ที่ 30 เม.ย. - ลีดส์ ยูไนเต็ด (เยือน) วันเสาร์ที่ 7 พ.ค. - นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (เหย้า) วันอาทิตย์ที่ 15 พ.ค. - เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (เยือน) วันอาทิตย์ที่ 22 พ.ค. - แอสตัน วิลล่า (เหย้า) ยังไม่กำหนดวัน - วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส (เยือน) เส้นทาง ลิเวอร์พูล สำหรับโปรแกรมของลิเวอร์พูล งานนี้เหล่าสาวก "เดอะ ค็อป" ต้องยอมรับว่าพวกเขาเจอกับงานสุดหินเหลือเกิน เพราะคู่แข่งค่อนข้างโหดกว่า แมนฯ ซิตี้ ฉะนั้นถ้า "หงส์แดง" อยากคว้าแชมป์ลีกก็ต้องเก็บชัยชนะให้ได้เพื่อจะได้สะสมแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีสมัยที่ 20 หลังหมดช่วงฟีฟ่าเดย์ "หงส์แดง" ต้องเปิดรังแอนฟิลด์ ปะทะ วัตฟอร์ด ซึ่งต้องบอกว่านี่คือเกมที่ง่ายที่สุดของช่วงโค้งสุดท้ายจริงๆ เพราะหลังจากนั้น ลิเวอร์พูล ต้องเจอกับงานหนักชนิดเข็นครกขึ้นภูเขา เริ่มด้วยการไปเยือน แมนฯ ซิตี้ จากนั้นเตรียมทำศึก "แดงเดือด" ต้อนรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งกำลังลุ้นอันดับท็อปโฟร์ และห้าวันให้หลังก็ต้องระเบิดเกมเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้แมตช์ พบ เอฟเวอร์ตัน ที่อยู่ในช่วงดิ้นรนหนีการตกชั้น ตามด้วยการไปเยือน นิวคาสซิ่ล ซึ่งที่เซนต์ เจมส์พาร์ค พวกเขาทำได้แค่เสมอแบบไร้สกอร์เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ต่อไปก็ต้องฟาดฟันกับทีมที่ลุ้นโควตา "บิ๊กเอียร์" อย่าง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ขณะที่สองเกมสุดท้ายของซีซั่นถือว่าไม่หนักไม่เบาเพราะเยือน เซาธ์แฮมป์ตัน กับรับมือ วูล์ฟส์ ขณะที่เกมต้องพบกับ แอสตัน วิลล่า ซึ่งมี เจอร์ราร์ด กุมบังเหียน ยังไม่มีการกำหนดวันแข่ง สิ่งสำคัญที่สุดก็คือหาก คล็อปป์ แอนด์โค. สามารถบุกไปคว่ำ แมนฯ ซิตี้ ถึงบ้านพวกเขา นอกจากจะทำแต้มแซงขึ้นเป็นจ่าฝูงแล้ว จะทำให้พวกเขามีกำลังใจฮึกเหิมในการสู้กับโปรแกรมโหดที่เหลืออยู่ด้วย ทั้งนี้ถ้า ลิเวอร์พูล สามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้สำเร็จ มันจะกลายเป็นหนึ่งในการคัมแบ็กคว้าแชมป์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลของวงการลูกหนังเมืองผู้ดีเลยทีเดียว โปรแกรม 9 แมตช์สุดท้าย ลิเวอร์พูล วันเสาร์ที่ 2 เม.ย. - วัตฟอร์ด (เหย้า) วันอาทิตย์ที่ 10 เม.ย. - แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (เยือน) วันอังคารที่ 19 เม.ย. - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (เหย้า) วันอาทิตย์ที่ 24 เม.ย. - เอฟเวอร์ตัน (เหย้า) วันเสาร์ที่ 30 เม.ย. - นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (เยือน) วันเสาร์ที่ 7 พ.ค. - ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (เหย้า) วันอาทิตย์ที่ 15 พ.ค. - เซาธ์แฮมป์ตัน (เยือน) วันอาทิตย์ที่ 22 พ.ค. - วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส (เหย้า) ยังไม่กำหนดวัน - แอสตัน วิลล่า (เยือน) ทอมเม้ง |
|