พูดได้เลยว่า ลิเวอร์พูล ทีมดังของเมืองผู้ดีมีโอกาสเหมาคว้าสี่แชมป์ในซีซั่นนี้สูงไม่น้อย

หลังประสบความสำเร็จในศึก คาราบาวคัพ ไปแล้ว หงส์แดง ยังอยู่บนเส้นทางของการไล่ล่าแชมป์อีกสามรายการ แม้จะมี แมนฯ ซิตี้ เป็นกระดูกชิ้นโตเนื่องจากทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า หมายมั่นปั้นมือรวบคว้า ทริปเปิ้ลแชมป์ เช่นกัน

และแน่นอนว่า ไม่ ลิเวอร์พูล ก็ต้องเป็น แมนฯ ซิตี้ ที่ต้องมีทีมใดทีมหนึ่งผิดหวังในการซิวแชมป์ พรีเมียร์ลีก และ เอฟเอคัพ เนื่องจากทั้งสองฝ่ายถือเป็นคู่ต่อกรโดยตรงของกันและกัน

แถมดีไม่ดี หงส์แดง กับ เรือใบสีฟ้า อาจเผชิญหน้ากันในนัดชิงชนะเลิศถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก เพิ่มอีกก็เป็นได้หากต่างฝ่ายสามารถกรุยทางจากรอบแปดทีม และรอบตัดเชือกได้สำเร็จ

กระนั้นก็ดี ถึงขณะนี้ ทีมจาก แอนฟิลด์ มีโอกาสสร้างชื่อเป็นทีมแรกของอังกฤษที่ได้โทรฟี่สี่รายการไปครอบครองแต่เพียงผู้เดียว

ไม่ว่าจะเป็น พรีเมียร์ลีก , เอฟเอคัพ , แชมเปี้ยนส์ลีก และ คาราบาวคัพ ซึ่งทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ประสบความสำเร็จไปแล้วจากการดวลลูกโทษคว่ำ เชลซี

ต่อการคว้าสี่แชมป์ในวงการฟุตบอล มีการบัญญัติเอาไว้ว่าจะต้องเป็นการได้แชมป์สี่รายการเมเจอร์เท่านั้น ไม่นับรวมถ้วยใบเล็กใบน้อยซึ่งอาจเตะกันแบบทัวร์นาเมนต์ หรือนัดเดียวรู้ผลแต่อย่างใด

ยกตัวอย่างเช่น ฟุตบอลสโมสรโลก ของ ฟีฟ่า และฟุตบอล ซูเปอร์คัพ ของ ยูฟ่า ซึ่งจะไม่นับรวมเป็นแชมป์สำหรับการคว้าโทรฟี่สี่รายการ

ฉันใดก็ฉันนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด เคยสร้างผลงานคว้า ทริปเปิ้ลแชมป์ หรือแชมป์สามรายการใหญ่ได้ในซีซั่นเดียว 1998/99 อันประกอบไปด้วย พรีเมียร์ลีก , เอฟเอคัพ และ แชมเปี้ยนส์ลีก ยกเว้น ลีกคัพ ที่ทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน หยุดแค่รอบแปดทีมโดยบุกไปพ่าย สเปอร์ส 3-1

ถึงกระนั้น หากจะว่ากันถึงการคว้าสี่แชมป์อย่างไม่เป็นทางการ หรือสี่แชมป์แบบสมอ้าง บาเยิร์น มิวนิค ทีมดังของเมืองเบียร์เคยทำได้มาแล้วในซีซั่น 2019/20 กับการคว้าแชมป์ บุนเดสลีกา , เดเอฟเบ โพคาล และ แชมเปี้ยนส์ลีก ตามด้วยแชมป์ สโมสรโลก ในอีกไม่กี่เดือนต่อมาซึ่งไม่นับรวมแต่อย่างใด

คล้ายกับกรณีของ บาร์เซโลน่า ภายใต้การคุมทีมของ กวาร์ดิโอล่า ซึ่งกวาดโทรฟี่มาเชยชมได้มากถึงหกใบในปี 2009 ทั้ง แชมเปี้ยนส์ลีก , ลา ลีกา , โกปา เดล เรย์ , สโมสรโลก , ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ และ สแปนิชซูเปอร์คัพ

แต่อย่างที่บอก ในประวัติศาสตร์ไม่เคยมีทีมลูกหนังอังกฤษที่คว้าแชมป์ได้สี่รายการมาก่อน และที่ใกล้เคียงที่สุดก็เป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ในซีซั่น 1998/99 นั่นเองที่ได้สามแชมป์

กระทั่งซีซั่น 2018/19 แมนฯ ซิตี้ ทีมร่วมเมืองประสบความสำเร็จได้ ทริปเปิ้ลแชมป์ เช่นกัน แต่มีศักดิ์ศรีด้อยกว่า ปีศาจแดง เนื่องจากเป็นการเหมาคว้าแชมป์สามรายการในประเทศทั้ง พรีเมียร์ลีก , เอฟเอคัพ และ ลีกคัพ

ส่วนถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก เรือใบสีฟ้า ซึ่งยังไปไม่ถึงดวงดาวมานานจนถึงบัดนี้จอดป้ายในซีซั่นนั้นที่รอบแปดทีมจากฎประตูทีมเยือนหลังเสมอกับ สเปอร์ส ทีมจาก พรีเมียร์ลีก เช่นกันด้วยสกอร์รวม 4-4

อันที่จริง ในซีซั่น 2018/19 เรือใบสีฟ้า ได้แชมป์ คอมมิวนิตี้ ชิลด์ ด้วย แต่ไม่นับเป็นแชมป์ใบที่สี่อย่างเป็นทางการแต่อย่างใด

จวบจนซีซั่นนี้ เพื่อนบ้านของ แมนฯ ยูไนเต็ด มีโอกาสคว้า ทริปเปิ้ลแชมป์ อีกรอบ แต่มีศักดิ์ศรีเหนือกว่าเดิมเทียบได้กับทีมจาก โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในซีซั่น 1998/99 เนื่องจากพวกเขายังมีสิทธิ์เป็นเจ้าของแชมป์ พรีเมียร์ลีก , เอฟเอคัพ และ แชมเปี้ยนส์ลีก หลังดวลลูกโทษพ่าย เวสต์แฮม ร่วงตกรอบ 16 ทีมถ้วย คาราบาวคัพ ไปก่อนแล้ว

ไม่เฉพาะทีมจากอังกฤษเท่านั้น แต่ขอย้ำว่าไม่เคยมีทีมจากห้าลีกใหญ่ในยุโรปเช่นกันที่ผงาดคว้าแชมป์ได้ครบทั้งสี่รายการ

อย่างไรเสีย หากนับรวมลีกชาติอื่นๆด้วย เซลติก คือสโมสรเดียวที่เคยทำสำเร็จในซีซั่น 1966/67 จากการคว้าแชมป์ ยูโรเปี้ยนคัพ , แชมป์ลีกสกอตต์ , แชมป์สกอตติชคัพ และแชมป์สกอตติชลีกคัพ

สรุปทีมฟุตบอลที่เคยได้แชมป์สี่รายการ

- บาเยิร์น มิวนิค ซีซั่น 2019/20 : บุนเดสลีกา , เดเอฟเบ โพคาล , แชมเปี้ยนส์ลีก , สโมสรโลก

- เรอัล มาดริด ซีซั่น 2017/18 : สแปนิช ซูเปอร์คัพ , ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ , สโมสรโลก , แชมเปี้ยนส์ลีก

- เปแอสเช ซีซั่น 2014/15 , 2015/16 , 2017/18 :ลีกเอิง , เฟรนช์คัพ , เฟรนช์ลีกคัพ , เฟรนช์ซูเปอร์คัพ

-เรอัล มาดริด ซีซั่น 2016/17 :ยูฟ่าซูเปอร์คัพ ,สโมสรโลก , ลา ลีกา , โกปา เดล เรย์

- บาร์เซโลน่า ซีซั่น 2015/16 :ยูฟ่าซูเปอร์คัพ , สโมสรโลก , ลา ลีกา , โกปา เดล เรย์

- บาเยิร์น มิวนิค ซีซั่น 2012/13 :ซูเปอร์คัพเยอรมัน , บุนเดสลีกา , เดเอฟเบ โพคาล , แชมเปี้ยนส์ลีก

- เซลติก ซีซั่น 1966/67 : ยูโรเปี้ยนคัพ , ลีกสกอตต์ , สกอตติชคัพ , สกอตติชลีกคัพ

สยามกีฬา