|
7
มิ.ย. เฮนโด้รีเทิร์นบอดโทษ! กัปตันแรชฟอร์ดซัดชัยพาอังกฤษอุ่นส่งท้ายเฉือนโรมาเนีย
![]() "สิงโตคำราม" ลงลับแข้งนัดสุดท้ายก่อนเบียดเอาชนะ โรมาเนีย หวุดหวิด 1-0 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่วันนี้สวมปลอกแขนกัปตันทีมซัดจุดโทษเป็นประตูชัย พาทีมชนะ 6 นัดติด ด้าน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กลับมาลงสนามในรอบ 106 วันนับแต่เดือนกุมภาฯ และเกือบพังประตูได้แต่ดันยิงจุดโทษพลาด ซึ่ง อังกฤษ จะมีคิวเปิดสนามเกมแรก ยูโร 2020 พบกับ โครเอเชีย ในวันที่ 13 มิ.ย.นี้ สนาม : ริเวอร์ไซด์ สเตเดี้ยม, มิดเดิ้ลสโบรช์ ฟุตบอลอุ่นเครื่องทีมชาติ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 6 มิถุนายน ที่ผ่านมา อังกฤษ ลงลับแข้งนัดสุดท้ายพบกับ โรมาเนีย ที่ไม่ได้เข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายของ ยูโร 2020 ที่จะเปิดสนามในวันศุกร์ที่ 11 มิ.ย.นี้ แกเร็ธ เซาธ์เกต พา "สิงโตคำราม" คว้าชัยมา 5 นัดรวด เกมนี้ปรับเปลี่ยนผู้เล่นจากเกมที่เอาชนะ ออสเตรีย 1-0 สามแนวรุกใช้ มาร์คัส แรชฟอร์ด, โดมินิค คัลเวิร์ท-เลวิน และ เจดอน ซานโช่ โดยมี แจ็ค กรีลิช และเจมส์ วอร์ด-เพราส์ ขับเคลื่อนเกมแดนกลาง ส่วนคู่เซ็นเตอร์แบ็กใช้ เบน ไวท์ กับ ไทโรน มิงส์ ทางด้าน มิเรล ราดอย กุนซือทัพโรมาเนีย ผลงานล่าสุดแพ้มา 3 นัดติด เกมนี้ยังปรับเปลี่ยนผู้เล่นลองระบบเพื่อเตรียมพร้อมไว้ทำศึกคัดบอลโลกในเดือนกันยายนนี้ โดยมีทีเด็ดในแนวรุกอย่าง อังเดรจ์ อีวาน, เดนิส อลีเบค และ คอสแตนติน พอน-อเล็กซานดรู เปิดฉากครึ่งแรก กลายเป็น โรมาเนีย ที่ได้ลุ้นก่อน นาทีที่ 3 บอลต่อเนื่องจากลูกเตะมุม อเล็กซานดรู พอน เปิดเข้ามาก่อนจังหวะสุดท้าย เดนนิส อลิเบค จะซัดด้วยซ้ายหลุดกรอบออกไป จากนั้นนาทีที่ 8 คาลวิน ฟิลลิปส์ ลองส่องนอกกรอบแต่บอลก็เหินออกไปไกล อีกสองนาทีต่อมา ทัพผีดิบได้ส่องเข้ากรอบหนแรกเป็น กาโมร่า ครอสมาให้ ราซวาน มาริน ซัดบอลแต่ยังไม่ผ่านมือ แซม จอห์นสตัน นาที 11 เจดอน ซานโช่ เลี้ยงจี้ตัดเข้ากลางหน้ากรอบก่อนจะอัดด้วยซ้ายแต่บอลเหินสูงออกไปไกล "สิงโตคำราม" เริ่มคุมเกมและครองบอลได้มากขึ้น นาที 23 ได้โอกาสลุ้นอีกครั้ง คราวนี้ เจดอน ซานโช่ หักบอลเข้ากรอบมาให้ เบน ก็อดฟรี่ย์ แนวรับจากเอฟเวอร์ตันที่เติมสูงก่อนจะซัดด้วยซ้ายหลุดกรอบไปอีก นาที 32 ลูกทีมของ เซาธ์เกต หวิดได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะหยอดฟรีคิกเข้าไปของ เจมส์ วอร์ด-เพราส์ ให้ โดมินิค คัลเวิร์ท-เลวิน เทกขึ้นโขกบอลผ่านมือนายด่านโรมาเนียไปแล้วแต่ไปชนคานอย่างน่าเสียดาย อังกฤษ โหมบุกอย่างหนัก นาที 37 ลุค ชอว์ ผ่านให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ยิงไปติดเซฟของ ฟลอริน นิต้า อีกนาทีถัดมา แจ็ค กรีลิช แทงให้ เจดอน ซานโช่่ ดึงเข้าขวาก่อนปั่นหนีมือนายด่านผีดิบไปแล้วแต่บอลพุ่งไปชนคานอย่างน่าเสียดายอีกหน บุกเพลินๆ ทัพสิงโตเกือบโดนเหมือนกันหลัง โรมาเนีย ได้บอลสวนกลับขึ้นมาทางขวา เดอัน โซเรสคู ลากบอลขึ้นมาก่อนให้ อังเดรจ์ อีวาน แล้วคืนให้ โซเรสคู สอดเข้ามาซัดเสาแรกในกรอบ แต่ยังดีที่บอลพุ่งไปติดขาของ แซม จอห์นสตัน เซฟช่วยอังกฤษไม่ให้เสียประตูไว้ได้ จบครึ่งแรก อังกฤษ ทำอะไรไม่ได้เสมอกับ โรมาเนีย 0-0 ครึ่งหลัง แกเร็ธ เซาธ์เกต นายใหญ่ของอังกฤษ ส่ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ลงสนามที่บาดเจ็บกับต้นสังกัดตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ หรือ 106 วันนับแต่เกมพบกับ เอฟเวอร์ตัน โดยลงมาเล่นแทน คาลวิน ฟิลลิปส์ นาที 47 ทัพทรีไลออนส์เกือบได้ลุ้นหลัง เจมส์ วอร์ด-เพราส์ เปิดฟรีคิกทางด้านซ้ายเข้าไปในกรอบให้ โดมินิค คัลเวิร์ท-เลวิน โฉบมายิงระยะเผาขนแต่บอลไปโดนหน้าขาทำให้น้ำหนักเบาไปเข้ามือ ฟลอริน นิต้า นาที 62 อังกฤษ ชวดได้ประตูขึ้นนำอีกหลัง โดมินิค คัลเวิร์ท-เลวิน โขกบอลจังหวะเช็ดให้กัปตัน มาร์คัส แรชฟอร์ด ควบบอลจากครึ่งสนามโซโล่เดี่ยวเข้าไปซัดบอลหลุดเสาไกลออกไปอย่างน่าเสียดาย นาที 67 สิงโตคำรามมาได้ลูกที่จุดโทษหลัง แจ็ค กรีลิช โดน ติเบรู กาปูซ่า แนวรับผีดิบที่เพิ่งลงมาแค่นาทีเดียวดึงล้มในเขตโทษ ก่อนที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด จะฉลองกัปตันทีมด้วยการยิงจุดโทษเข้าไปไม่พลาดให้ อังกฤษ ขึ้นนำโรมาเนีย 1-0 นาที 74 อังกฤษ เกือบพลาดท่าโดนตีเสมอหลัง อเล็กซานดรู ซิซัลดาอู ซัดจังหวะแรกไปติดจอห์นสตันก่อนบอลจะไปเข้าทาง อังเดรจ์ อีวาน ซ้ำจ่อๆ เสาแรกแต่ก็ยังซัดไปติดเซฟของ แซม จอห์นสตัน ที่พุ่งไปออกไปได้อย่างเหลือเชื่อ จากนั้นอีกสามนาทีต่อมา สิงโตคำรามมาได้จุดโทษที่สองเมื่อ วลัด คิริเคส กระโดดไปอัด โดมินิค คัลเวิร์ท-เลวิน ล้มลงในเขตโทษผู้ตัดสินเป่าเป็นจุดโทษทันที ทว่า จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่ร้างสนามไปนานอาสาซัดจุดโทษแต่ยิงไม่ดีโดน ฟลอริน นิต้า พุ่งถูกทางปัดออกไปได้ ทำให้อังกฤษยังนำอยู่แค่เม็ดเดียว จบเกม อังกฤษ อุ่นเครื่องส่งท้ายด้วยการเบียดเอาชนะ โรมาเนีย 1-0 โดยทัพทรี ไลออนส์ จะเปิดสนามนัดแรกในศึก ยูโร 2020 พบกับทีมชาติ โครเอเชีย ในวันที่ 13 มิ.ย.นี้ รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม อังกฤษ (4-3-3) : แซม จอห์นสตัน - เบน ก็อดฟรี่ย์, เบน ไวท์, ไทโรน มิงส์, ลุค ชอว์ (คีแรน ทริพเพียร์ น.75)- เจมส์ วอร์ด-เพราส์ (เดแคลน ไรซ์ น.65), คาลวิน ฟิลลิปส์ (จอร์แดน เฮนเดอร์สัน น.46), แจ็ค กรีลิช - มาร์คัส แรชฟอร์ด (เจสซี่ ลินการ์ด น.75), โดมินิค คัลเวิร์ท-เลวิน (โอลลี่ วัตคิ้นส์ น.82), เจดอน ซานโช่ (จู๊ด เบลลิงแฮม น.65) เทรนเนอร์ : แกเร็ธ เซาธ์เกต โรมาเนีย (4-2-3-1) : ฟลอริน นิต้า - เดอัน โซเรสคู (ติเบรู กาปูซ่า น.66), วลัด คิริเคส, โยนุต เนเดลเซียรู (อาเดรียน รุส น.84), มาริโอ มาคิโก้ เปาลินโญ่ - นิโคเล สตานชู, ราซวาน มาริน, อเล็กซานดรู ซิซัลดาอู (คอนสแตนติน บูเดสคู น.80) - อังเดรจ์ อีวาน, เดนิส อลีเบค (ยานิส ฮาจี้ น.66), คอสแตนติน อเล็กซานดรู พอน (อเล็กซานดรู บาลูต้า น.80) เทรนเนอร์ : มิเรล ราดอย |
|