|
8
พ.ค. นิวคาสเซิ่ลบุกถล่มโอกาสรอดสูง! เลสเตอร์แย่แผ่ว2นัดติดลุ้นตั๋วชปล.เหนื่อย
เลสเตอร์ ซิตี้ แผ่วสองเกมติดแล้ว หลังล่าสุดพ่ายคาบ้านให้ นิวคาสเซิ่ล 2-4 ส่งผลให้ "สาลิกาดง" ซิวสามแต้มล้ำค่าพุ่งขึ้นที่ 13 นัดหน้าขอแค่แต้มเดียวหรือฟูแล่มหากไม่ชนะจะอยู่รอดปลอดภัยทันที ส่วน "เดอะ ฟ็อกซ์" แม้จะรั้งอันดับ 3 แต่ไม่แน่เสียแล้วกับโควตาชปล.อีก 3 นัดสุดท้าย ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สนาม : คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันศุกร์ที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันในเกมที่ 35 เจ้าบ้าน เลสเตอร์ ซิตี้ อันดับ 3 เกมล่าสุดในลีกทำได้แค่บุกเสมอ เซาธ์แฮมป์ตัน 1-1 เกมนี้กลับมาเฝ้ารังรับการมาเยือนของ นิวคาสเซิ่ล อันดับ 17 ซึ่งเกมล่าสุดนั้นพ่ายคาบ้านให้ อาร์เซน่อล 0-2 เบรนแด้น ร็อดเจอร์ส บอสใหญ่ของทัพจิ้งจอก ต้องการสามแต้มเพื่อยึดอันดับ 3 ต่อไป เกมนี้เปลี่ยนแค่ตำแหน่งเดียวจากเกมที่แล้ว โดยส่ง ริคาร์โด้ เปเรยร่า แทน ลุค โธมัส ที่บาดเจ็บ โดยยังให้ เจมส์ แมดดิสัน ปั้นเกมรุกสนับสนุน เจมี่ วาร์ดี้ และเคลิชี่ อิเฮียนาโช่ ส่วน สตีฟ บรูซ กุนซือของทัพสาลิกาดงยังต้องพาทีมการันตีหนีตกชั้นต่อไป แมตช์นี้ฝากความหวังไว้ที่ คัลลั่ม วิลสัน, มิเกล อัลมิร่อน และอัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง เริ่มเกมมาแค่ 6 นาที จิ้งจอกสยาม ได้โอกาสทักทายก่อนเลยหลัง เจมส์ แมดดิสัน ชิ่งกับ เจมี่ วาร์ดี้ ก่อนบอลมาถึง แมดดิสัน แต่ยิงด้วยขวาเบาไปบอลพุ่งไปเข้ามือ มาร์ติน ดูบราฟก้า นาที 10 นิวคาสเซิ่ลมาได้ลุ้นฟรีคิกหลัง คัลลัม วิลสัน เรียกฟรีคิกได้นอกกรอบเยื้องทางด้านขวา ก่อนที่ แมตต์ ริตชี่ จะซัดบอลไปติดกำแพง นาที 16 นิวคาสเซิ่ล พลาดโอกาสขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย หลัง จาค็อบ เมอร์ฟี่ย์ แทงบอลขึ้นหน้าให้ คัลลัม วิลสัน หลุดเข้าไปก่อนปาดเลียดมาหน้าประตูให้ อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง เติมมายิงโล่งๆ แต่ยังโดน แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ออกมาขวางเซฟออกไปอย่างเหลือเชื่อ แต่กระนั้น "สาลิกาดง" มาบุกขึ้นนำไปก่อน 1-0 จนได้ จากความผิดพลาดของ คลาการ์ โซยุนคู ที่พยายามล็อคบอลหนี โจ วิลล็อค ก่อนโดนห้องเครื่องตัวยืมของอาร์เซน่อลฉกบอลเข้าไปซัดผ่านมือ แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล เข้าไปอย่างเฉียบขาด เป็นประตูที่ 5 ในลีกของดาวเตะวัย 21 ปี นาที 25 เลสเตอร์ มีโอกาสไล่ตีเสมออย่างทันควัน จากจังหวะที่ ยูริ ตีเลมันส์ เปิดฟรีคิกไปกลางประตูให้ เวสลี่ย์ โฟฟาน่า เทกตัวขึ้นโขกเต็มแรงแต่บอลก็ยังไปตรงตัว มาร์ติน ดูบราฟก้า เซฟออกไปหวุดหวิด สถานการณ์ของเจ้าบ้านแย่ลงไปอีก เมื่อนาที 34 มาเสียประตูที่สองให้ นิวคาสเซิ่ล บุกมานำห่าง 2-0 จากจังหวะลูกเตะมุมทางด้านขวา แมตต์ ริตชี่ เปิดโค้งมาในกรอบ 6 หลาสุุดแม่น พอล ดัมเมตต์ เทกตัวเอาชนะ โฟฟาน่า ก่อนโขกบอลเข้าประตูไปอย่างเด็ดขาด และเป็นประตูแรกของเจ้าตัวในรอบ 5 ปี นับจากที่เคยยิงใส่ "ผีแดง" เมื่อมกราคม 2016 "เดอะ ฟ็อกซ์" หลังเสียไปสองเม็ด โหมบุกอย่างหนัก นาที 36 ชวดได้ประตูตีไข่แตกไล่มาหลัง มาร์ค อัลไบรท์ตัน ครอสมาให้ เคลิชี่ อิเฮียนาโช่ ซัดไปติดเซฟของ มาร์ติน ดูบราฟก้า นาที 45 จิ้งจอกทิ้งโอกาสทองได้ประตูตีไข่แตกอีกครั้ง หลัง เจมส์ แมดดิสัน ดีดบอลต่อให้ เจมี่ วาร์ดี้ ยกบอลหนี เฟเดริกโก เฟร์นานเดซ ไปแล้วแต่จังหวะหลุดเดี่ยวเข้าไปยกบอลไม่ผ่านมือ มาร์ติน ดูบราฟก้า ที่กระโดดเซฟไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ จบครึ่งแรก เลสเตอร์ ซิตี้ ตามหลัง นิวคาสเซิ่ล 0-2 ครึ่งหลัง นาที 54 เจ้าบ้านมาได้ลุ้นจากฟรีคิกนอกกรอบ และเป็น เจมส์ แมดดิสัน ที่ปั่นบอลไปแฉลบกำแพงถากเสาแรกออกไปหวุดหวิด เจ้าบ้านเมื่อทำไม่ได้ ต้องมาเสียเม็ดที่สามในนาที 64 จากจังหวะสวนกลับ แมตต์ ริตชี่ วางบอลขึ้นหน้าให้ คัลลั่ม วิลสัน หลุดเดี่ยวเข้าไปก่อนกระชากหนี แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล แล้วแปเข้าไปง่ายให้ นิวคาสเซิ่ล บุกมานำขาดลอย 3-0 นาที 69 โอกาสตีไข่แตกเป็นของเจ้าบ้านอีกหน คราวนี้ มาร์ค อัลไบรท์ตัน ปาดมาเสาแรกให้ อาโยเซ่ เปเรซ วิ่งมาซัดเสาแรกแต่ก็ยังไม่ผ่าน มาร์ติน ดูบราฟก้า ที่พุ่งมาปัดบอลออกไป สถานการณ์เจ้าถิ่นแย่หนักลงไปอีก เมื่อมาเสียประตูที่สี่ให้ นิวคาสเซิ่ล จากจังหวะสวนกลับของทีมเยือนบอลมาถึง มิเกล อัลมิรอน แทงบอลยัดขึ้นหน้าให้ คัลลัม วิลสัน หลุดเข้าไปยิงผ่าน แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล ไปชนเสาก่อนบอลจะกระเด้งมาเข้าทาง วิลสัน ยิงซ้ำเข้าไปให้ "สาลิกาดง" บุกมานำโด่ง 4-0 และเป็นประตูที่สองของวัลสันในเกมนี้ มีลุ้นแฮตทริกอีกด้วย นาที 80 "จิ้งจอก" มาตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-4 สำเร็จ หลัง เจมี่ วาร์ดี้ ไหลบอลให้ อิเฮียนาโช่ ข้ามหลอก บอลเลยมาเข้าทาง มาร์ค อัลไบรท์ตัน ยิงเข้าไปไม่พลาด จากนั้น นาที 87 เลสเตอร์ ฮึดมาได้เม็ดที่สองไล่มาเป็น 2-4 จากความยอดเยี่ยมของ เคลิชี่ อิเฮียนาโช่ ที่ซัดเสาแรกแหวกแนวรับสาลิกาเบียดเสาเข้าไปอย่างสวยงาม แต่ช่วงเวลาที่เหลือเจ้าบ้านไล่ไม่ทัน จบเกม เลสเตอร์ ซิตี้ แพ้ยับเยินคาบ้านให้ นิวคาสเซิ่ล 2-4 ส่งผลให้ทัพของ เบรนแด้น ร็อดเจอร์ส เจอสถานการณ์กดดันกับโอกาสคว้าตั๋วไปเล่นแชมเปี้ยนส์ลีกซีซั่นหน้า เพราะแม้จะรั้งอันดับ 3 แต่ไม่ชนะมาสองนัดติด ทำให้โดน เชลซี อันดับ 4 ไล่จี้มาเหลือแค่ 2 คะแนน และมากกว่า "ขุนค้อน" อันดับห้าแค่ 5 แต้มเท่านั้น ส่วน "สาลิกาดง" โอกาสรอดตกชั้นมีสูงเหลือเกิน เพราะเก็บสามแต้มมีเพิ่มเป็น 39 คะแนน พุ่งรั้งอันดับ 13 ขอแค่แต้มเดียวจาก 3 นัดที่เหลือ หรือหากวันจันทร์นี้ ฟูแล่มไม่ชนะเบิร์นลี่ย์ จะการันตีอยู่รอดปลอดภัยในพรีเมียร์ลีกทันที รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม เลสเตอร์ ซิตี้ (3-4-1-2) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล - เวสลี่ย์ โฟฟาน่า, จอนนี่ อีแวนส์, คลาการ์ โซยุนคู - มาร์ค อัลไบรท์ตัน, วิลฟรีด เอ็นดิดี้ (อาโยเซ่ เปเรซ น.63), ยูริ ตีเลมันส์, ริคาร์โด้ เปเรยร่า (ลุค โธมัส น.69) - เจมส์ แมดดิสัน (นอมปาลิส เมนดี้ น.77) - เคลิชี่ อิเฮียนาโช่, เจมี่ วาร์ดี้ ผู้จัดการทีม : เบรนแด้น ร็อดเจอร์ส นิวคาสเซิ่ล (5-3-2) : มาร์ติน ดูบราฟก้า - ยาค็อบ เมอร์ฟี่, เอมิล คราฟธ์, เฟเดริกโก เฟร์นานเดซ, พอล ดัมเมตต์, แมตต์ ริตชี่ - โจ วิลล็อค (ฌอน ลองสตาฟฟ์ น.77), จอนโจ้ เชลวี่, อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง (โชลินตอน น.84) - คัลลั่ม วิลสัน, มิเกล อัลมิร่อน (เจฟฟ์ เฮนดริก น.88) ผู้จัดการทีม : สตีฟ บรูซ |
|