29
เม.ย.
มาห์เรซฟรีคิกซัดชัย! แมนซิตี้รัว2เม็ดบุกอัดเปแอสเช10คน ชปล.ตัดเชือกยกแรก

47aa4f4c9d773bb6362500fa9f19653d.jpg

"เรือใบสีฟ้า" วาดฝันลุ้นเข้าชิงชนะเลิศเป็นหนแรกหลัง รอบตัดเชือกนัดแรกบุกไปคว้าชัยเหนือ เปแอสเช 2-1 ทั้งที่โดนเจ้าถิ่นนำไปก่อนในช่วง 45 นาทีแรก ทว่าครึ่งหลังมาได้ เควิน เดอ บรอยน์ และริยาด มาห์เรซ ตะบันฟรีคิกสุดสวยเป็นประตูชัยให้ทีม โดยเจ้าบ้านต้องเหลือ 10 คนหลัง อิดริสซ่า กาน่า เกย์ โดนไล่ออก ทำให้ แมนฯซิตี้ กุมความได้เปรียบมากกว่าก่อนกลับไปเล่นที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม ในวันอังคารหน้า

สนาม : ปาร์ค เดส์ แพร็งซ์

ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก เมื่อคืนวันพุธที่ 28 เมษายน ที่ผ่านมา เป็นการพบกันระหว่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง จากฝรั่งเศสที่ผ่าน แชมป์เก่า บาเยิร์น มิวนิค เข้ามาด้วยกฎประตูทีมเยือนหลังสกอร์รวมสองนัด เสมอกัน 3-3 โดยเกมนี้เปิด ปาร์ค เดส์ แพร็งซ์ รับมือเต็งแชมป์อย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งรอบ 8 ทีมที่แล้วผ่าน ดอร์ทมุนด์ มาด้วยประตูรวม 4-2

โดยคู่นี้เคยเจอกันล่าสุดคือรอบก่อนรองชนะเลิศ เมื่อปี 2016 ซึ่งเป็น "เรือใบสีฟ้า" บุกมายันเสมอได้ก่อน 2-2 ก่อนกลับไปเล่นในบ้านเบียดเอาชนะ 1-0 ผ่านเข้ารอบตัดเชือก

เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เปลี่ยน 4 ตำแหน่งจากเกมบุกชนะ เม็ตส์ 3-1 เกมนี้วาง คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ เป็นทีเด็ดล่าตาข่ายร่วมกับ เนย์มาร์ และอังเคล ดิ มาเรีย

ส่วนทางฝั่ง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เพิ่งพาทีมคว้าแชมป์ คาราบาว คัพ มาเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังเบียดเอาชนะ สเปอร์ส 1-0 เกมนี้เปลี่ยน 4 ตำแหน่งเหมือนกัน ดร็อป ราฮีม สเตอร์ลิง เป็นสำรองก่อน แล้วให้ ฟิล โฟเด้น, แบร์นาโด้ ซิลวา และริยาด มาห์เรซ ล่าตาข่าย โดยมี เควิน เดอ บรอยน์ บัญชาเกมแดนกลาง

เกมช่วง 10 นาทีแรก ทั้งสองฝ่ายยังเล่นกันอย่างระมัดระวัง แม้ทัพ "เรือใบสีฟ้า" พยายามเน้นครองบอลมากกว่าแต่ยังเจาะเข้าไปในพื้นที่อันตรายยังไม่ได้

เจ้าบ้านหลังตั้งเกมได้ นาที 13 โอกาสส่องหนแรกเกือบได้ลุ้นประตูเลย หลัง แวร์รัตติ ชิ่งต่อให้ เนย์มาร์ ลากตัดเข้าไปในกรอบแล้วซัดด้วยขวาเสาแรกแต่ยังไม่ผ่านมือ เอแดร์ซอน ที่ปัดออกไปได้

เปแอสเช ยังกดดันต่อเนื่อง อีกนาทีถัดมา อังเคล ดิ มาเรีย ลากตัดเข้ามาซัดด้วยซ้ายนอกกรอบแต่ยังไปติดบล็อค โรดรี้ ออกหลังไป

และจากจังหวะเตะมุมต่อเนื่อง ในนาที 15 ปารีส แซงต์-แชร์กแมง มาได้ประตูออกนำก่อน 1-0 อังเคล ดิ มาเรีย เปิดคอนเนอร์ด้วยซ้ายมาเสาแรก มาร์กินญอส หนีตัวประกบโฉบมาเช็ดบอลเสียบเสาไกลอย่างสวยงาม

นาที 21 "เรือใบสีฟ้า" เกือบได้ลุ้นตีเสมอ โรดรี วางบอลยาวตัดหลังให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา วิ่งไปสไลด์บอลดีดบอลเกือบเบียดเสาแรก แต่ยังดีที่ เกย์ลอร์ นาวาส ปิดมุมปัดชนเสาออกไปหวุดหวิด

กลายเป็นเจ้าถิ่นที่สร้างโอกาสได้ดีกว่า นาที 28 มาได้ลูกเตะมุมอีกครั้งทางด้านซ้าย คราวนี้ เนย์มาร์ เปิดไปเสาแรกให้ เลอันโดร ปาเรเดส ขึ้นโขกเสาแรกบอลหลุดกรอบออกไปแบบได้เสียว

นาที 32 เปแอสเช เกือบเสียท่าหลัง เกย์ลอร์ นาวาส ออกบอลพลาดโดน ฟิล โฟเด้น ตัดบอลได้ทางด้านซ้ายกระชากมาถึงเส้นหลังแล้วเปิดไปเสาไกลให้ ริยาด มาห์เรซ วิ่งมาโขก บอลกำลังจะถึงหัว แบร์นาร์โด้ ซิลวา ซ้ำไม่ถึง 6 หลาอยู่แล้ว แต่ เลอันโดร ปาเรเดส ยังกระโดดสกัดบอลปาดหน้าเคลียร์พ้นอันตรายออกไปได้

นาที 42 บอลสวนกลับของ เรือใบสีฟ้า เกือบได้ลุ้นตีเสมอหลัง แบร์นาโด้ ซิลวา หลุดไปทางซ้ายแล้วหักมาให้ ฟิล โฟเด้น อัดด้วยซ้ายกลางประตูแต่บอลพุ่งไปตรงตัว เกย์ลอร์ นาวาส ปัดบอลออกหลังเป็นเตะมุม

จบครึ่งแรก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ขึ้นนำ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0

กลับมาบู๊กันต่อในครึ่งหลัง นาที 56 ปารีสฯ ชวดได้ประตูที่สองนำห่างหลัง คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ โยกหนีจอห์น สโตนส์ ถึงเส้นหลังแล้วปาดเลียดมาในกรอบ 6 หลา มาร์โก แวร์รัตติ พุ่งสไลด์ชาร์ทไม่ถึงบอล ก่อนไปโดน ไคล์ วอล์คเกอร์ สกัดออกหลัง และจากลูกเตะมุมได้เสียวต่อเนื่องหลัง เนย์มาร์ เปิดมาถึง อังเคล ดิ มาเรีย โขกบอลหลุดกรอบออกไป

นาที 61 ทัพเรือใบได้เสียวบ้าง คราวนี้ ริยาด มาห์เรซ ตักบอลเข้ามา เปรสแนล คิมเปมเบ้ โขกสกัดไม่พ้นอันตราย บอลย้อนมาเข้าทาง เควิน เดอ บรอยน์ ตวัดตีลังกาเหินคานออกไป

กระนั้น นาที 64 แมนฯ ซิตี้ มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 สำเร็จ จากจังหวะที่ เควิน เดอ บรอยน์ พยายามเปิดบอลหยอดเข้าไปในกรอบ 6 หลาทางเสาไกล จอห์น สโตนส์ พุ่งตามเข้ามาแต่ไม่ถึง กลายเป็นบอลตกพื้นเบียดเสาเข้าไป

นาที 71 กลายเป็น "เรือใบสีฟ้า" ที่พลิกแซงขึ้นนำ 2-1 จากจังหวะที่ ฟิล โฟเด้น เรียกฟรีคิกได้นอกกรอบกลางประตู และเป็น ริยาด มาห์เรซ ที่วิ่งมาปั่นบอลทะลุกำแพงผ่านมือ นาวาส เสียบตาข่ายอย่างสวยงาม

นาที 77 สถานการณ์ของเจ้าบ้านแย่ลงไปอีก เมื่อต้องมาเหลือแค่ 10 คน หลัง อิดริสซ่า กาน่า เกย์ ห้องเครื่องตัวรับเปแอสเชไปพุ่งเสียบใส่ อิลคาย กุนโดกัน จากข้างหลังอย่างน่าเกลียด เฟลิกซ์ ไบรช์ เชิ้ตดำจากเยอรมันเดินมาแจกใบแดงโดยตรงไล่ออกสนามทันที

นาที 87 ลูกทีมของเป๊ป เกือบได้ลุ้นเม็ดสาม หลัง ฟิล โฟเด้น หลุดเข้าเดี่ยวเข้าไปก่อนวิ่งเบียดแนวรับแล้วอัดด้วยซ้ายแต่บอลก็ยังไม่ห่างตัว นาวาส รับเข้ามือไว้ได้

ช่วงเวลาที่เหลือเจ้าบ้านไม่สามารถทวงประตูตีเสมอได้ จบเกม แมนฯ ซิตี้ บุกมาแซงเอาชนะ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 2-1 ตุนความได้เปรียบก่อนกลับไปเล่นที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม ในวันอังคารหน้า

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (4-2-3-1) : เกย์ลอร์ นาวาส - อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่, มาร์กินญอส, เปรสแนล คิมเปมเบ้, มิตเชล บักเกอร์ - อิดริสซ่า กาน่า เกย์ (ใบแดง น.77), เลอันโดร ปาเรเดส (อันเดร เอร์เรร่า น.83) - อังเคล ดิ มาเรีย (ดานิโล เปเรยร่า น.80), มาร์โก แวร์รัตติ, เนย์มาร์ - คิลิยัน เอ็มบั๊ปเป้

เทรนเนอร์ : เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่

แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส - ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอ๊าส, จอห์น สโตนส์, ชูเอา กานเซโล่ (โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ น.61) - โรดรี เอร์นานเดซ, อิลคาย กุนโดกัน, เควิน เดอ บรอยน์ - ริยาด มาห์เรซ, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, ฟิล โฟเด้น

เทรนเนอร์ : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

ผู้ตัดสิน : เฟลิกซ์ ไบรช์ (เยอรมัน)

www.siamsport.co.th

© 2018-2024 Coreball.com All Rights Reserved.