|
19
เม.ย. ในรอบ52ปี! อิเฮียนาโช่ฮีโร่-เลสเตอร์เขี่ยเซาธ์แฮมป์ตัน ลิ่วชิงฯเอฟเอคัพดวลเชลซี
เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ กลายเป็นฮีโร่ หลังซัดประตูชัยให้ เลสเตอร์ ซิตี้ เอาชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 1-0 ในเกมรอบตัดเชือก เอฟเอ คัพ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้ "จิ้งจอกสยาม" ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 52 ปีหลังเคยทำได้เมื่อปี 1969 โดยจะเข้าไปพบกับ เชลซี ที่เวมบลีย์ วันที่ 15 พฤษภาคม ขณะที่ ธนวัฒน์ ซึ้งจิตรถาวร แข้งเลือดไทยเกมนี้ไร้ชื่อสำรองข้างสนามต้องรอโอกาสต่อไป สนาม : เวมบลีย์ สเตเดี้ยม (สนามกลาง) ศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบรองชนะเลิศ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมา ที่สนาม เวมบลี่ย์ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่ผ่าน แมนฯยูไนเต็ด ในรอบ 8 ทีม เข้ามาพบกับ เซาธ์แฮมป์ตัน ที่ผ่านบอร์นมัธเข้ามา ผู้ชนะคู่นี้จะเข้าไปชิงชนะเลิศกับ เชลซี ในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ ซึ่งเกมวันนี้ แฟนบอลได้รับอนุญาตให้เข้ามาชมเกมได้เป็นครั้งแรกจำนวน 4,000 คน ซึ่งถือเป็นการทดลองก่อนที่ อังกฤษ จะเปิดให้แฟนกีฬาได้เข้าชมเกมในสนามอย่างเป็นทางการช่วงกลางเดือนพฤษภาคมนี้ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส พาเลสเตอร์เข้ามาเล่นในรอบตัดเชือกเป็นหนแรกในรอบ 39 ปี เกมนี้วาง เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ยืนล่าตาข่ายคู่กับ เจมี่ วาร์ดี้ โดยมี อาโยเซ่ เปเรซ ยืนหน้าต่ำ ขณะที่เจ้า "กัน" ธนวัฒน์ ซึ้งจิตรถาวร แข้งเลือดไทยไม่มีชื่อแม้ตัวสำรองข้างสนาม ส่วนทางฝั่ง ราล์ฟ ฮาเซนฮึทเทิ่ล กุนซือนักบุญเกมนี้ฝากความหวังพังประตูไว้ที่ แดนนี่ อิงส์ และนาธาน เร้ดมอนด์ ที่ยืนจับคู่แดนหน้า เปิดฉากมาได้แค่ 4 นาที ทัพจิ้งจอกเกือบได้ลุ้นขึ้นนำหลัง ยูริ ตีเลมันส์ แทงบอลออกซ้ายให้ อาโยเซ เปเรซ ปั่นด้วยขวาแต่บอลหลุดกรอบออกไป อีกนาทีถัดมา อิบราฮิมา ดิยัลโล่ พุ่งเข้าไปเสียบใส่ เจมี่ วาร์ดี้ อย่างน่าเกลียด ผู้ตัดสินชูใบเหลืองแจกเป็นคนแรกของเกม นาที 27 เกมรุกของจิ้งจอกได้สวนกลับขึ้นมาและเกือบได้เสียวหลัง เจมี่ วาร์ดี้ ชิ่งออกซ้ายให้ อาโยเซ่ เปเรซ พยายามครอสไปเสาไกลให้ อิเฮียนาโช่ โขกแต่บอลสูงออกหลังไป อีกครั้งที่ เลสเตอร์ เกือบพังประตูขึ้นนำ จากจังหวะสวนกลับเร็ว นาที 34 ยูริ ตีเลมันส์ แทงบอลทะลุช่องอย่างสวยให้ เจมี่ วาร์ดี้ ควบบอลหนี ยานนิค เวสเตอร์การ์ด ก่อนจะพยายามชิพบอลข้ามหัว เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ แต่บอลไปหลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย ทั้งสองทีมยังเล่นกันระมัดระวัง ทว่า เลสเตอร์ มีโอกาสตอบโต้และสวนมาทีได้ลุ้นกว่า ก่อนที่จบครึ่งแรก ยังทำอะไรไม่ได้เสมอกัน 0-0 ชนิดที่ยังยิงไม่ตรงกรอบเลยสักครั้ง กลับมาบู๊ต่อในครึ่งหลัง นาที 55 เลสเตอร์ ซิตี้ มาพังประตูออกนำจนได้ 1-0 บอลจาก ริคาร์โด้ เปเรยร่า จ่ายบอลขนานเส้นขึ้นหน้าให้ เจมี่ วาร์ดี้ ใช้ความเร็วควบพาบอลเข้าไปก่อนปาดมาเสาแรกให้ เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ซัดจังหวะแรกไปติด เวสเตอร์การ์ด ก่อนที่บอลจะมาเข้าทาง อิเฮียนาโช่ ซ้ำด้วยซ้ายอีกครั้งเข้าไปไม่เหลือ นาที 61 "นักบุญ" เกือบได้ลุ้นบ้างหลัง เช อดัมส์ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมาได้ซัดไปติดบล็อคแนวรับจิ้งจอก บอลกระดอนมาเข้าทาง อิบราฮิมา ดิยัลโล่ ซัดเหินคานออกไป อีกสามนาทีต่อมา ดิยัลโล่ ได้โอกาสอีกครั้งแต่วอลเลย์ข้ามคานออกไปอีก นาที 77 เลสเตอร์ เกือบบวกสกอร์ที่สองนำห่าง หลัง อิเฮียนาโช่ พาบอลเข้ามากลางประตูก่อนไหลออกซ้าย ให้ เจมส์ แมดดิสัน ตัวสำรองซัดด้วยซ้ายเหินคานออกไป อีกสองนาทีต่อมา แมดดิสัน มีโอกาสทองอีกครั้งหลัง ก่อนตั้งป้อมซัดไกลจากนอกกรอบบอลพุ่งแรงก่อนถากเสาสองออกไปแบบได้เสียว จบเกม เลสเตอร์ เบียดเอาชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน หวุดหวิด 1-0 คว้าตั๋วเข้าไปเล่นในรอบชิงชนะเลิศ โดยจะพบกับ เชลซี ในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม เลสเตอร์ (3-4-1-2) : คาสเปอร์ ชไมเคิ่ล - ซากลาร์ โซยุนชู, จอนนี่ อีแวนส์, เวสลี่ย์ โฟฟาน่า - ริคาร์โด้ เปเรยร่า (มาร์ค อัลไบรท์ตัน น.60), ยูริ ตีเลมันส์, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้, ติโมธี คาสตาญ - อาโยเซ่ เปเรซ (เจมส์ แมดดิสัน น.69) - เคเลชี่ อิเฮียนาโช่, เจมี่ วาร์ดี้ ผู้จัดการทีม : เบรนแดน ร็อดเจอร์ส เซาธ์แฮมป์ตัน (4-4-2) : เฟรเซอร์ ฟอร์สเตอร์ - ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส (เนธาน เตลล่า น.85), ยาน เบดนาเร็ค, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, ไรอัน เบอร์ทรานด์ (โมฮาเหม็ด ซาลิซู น.85) - มูสซ่า เฌเนโป (ธีโอ วัลค็อตต์ น.73), เจมส์ วอร์ด-เพร้าส์, อิบราฮิมา ดิยัลโล่, สจ๊วร์ต อาร์มสตรอง - แดนนี่ อิงส์, นาธาน เร้ดมอนด์ (เช อดัมส์ น.59) ผู้จัดการทีม : ราล์ฟ ฮาเซนฮึทเทิ่ล |
|