|
|
|
|
12
เม.ย. คาวานี่โขก-กรีนวู้ดสำรองทีเด็ด! แมนยูถอนแค้นรัวสเปอร์ส ยึดรองฝูงหนีจิ้งจอก7แต้ม
 ซน ฮึง-มิน แม้จะเป็นตัวแสบซัดให้เจ้าถิ่น สเปอร์ส ขึ้นนำไปก่อนในครึ่งแรก ทว่า "ผีแดง" งัดฟอร์มเด็ดรัวสามเม็ดรวดในครึ่งหลังบุกคว้าชัย 3-1 จาก เฟร็ด, เอดินสัน คาวานี่ และเมสัน กรีนวู้ด ให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ยึดรองจ่าฝูงแน่น มี 63 คะแนนตาม จ่าฝูง "เรือใบสีฟ้า" 11 คะแนนแต่แข่งน้อยกว่าหนึ่งนัด และทิ้งอันดับ 3 เลสเตอร์ ถึง 7 แต้ม ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่บิ๊กแมตช์ประจำวันอาทิตย์ที่ 11 เมษายน 2564 ที่สนาม ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม ระหว่าง สเปอร์ส ทีมอันดับ 7 ของตารางพบ แมนฯ ยูไนเต็ด รองจ่าฝูง สเปอร์ส ของกุนซือ โชเซ่ มูรินโญ่ พา ไก่เดือยทอง เก็บ 4 แต้มจาก 2 นัดล่าสุดในลีก เกมนี้จัดแนวรุกเต็บสูบนำโดน ซน ฮึงมิน ผนึกกำลังกับ ลูคัส มูร่า และ แฮร์รี่ เคน ขณะที่คู่เซ็นเตอร์ใช้ดาวรุ่งอย่าง โจ โรดอน คู่กับ เอริค ดายเออร์ ด้าน แมนฯยูไนเต็ด ของกุนซือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา พาทีมเก็บชัยได้ 2 นัดล่าสุด เกมนี้ไม่มีปัญหาการจัดทัพเพิ่มเติมแนวรุกนำโดย บรูโน่ แฟร์นันด์ส ประสานงานร่วมกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด, ปอล ป็อกบา โดยมี เอดินสัน คาวานี่ ลงล่าตาข่าย ส่วนผู้รักษาประตูยังใช้ ดีน เฮนเดอร์สัน ลงเฝ้าเสาก่อน เดบิด เด เคอา ครึ่งแรกเปิดฉากมาสองนาทีกลายเป็น สเปอร์ส ที่ได้ทักทายก่อนเมื่อ ซน ฮึง มิน จ่ายบอลให้ ลูคัส มูร่า ได้ซัดด้วยขวาบอลไปแฉลบ ลุค ชอว์ ออกหลังไป แต่แล้วนาทีที่ 34 เมื่อ ปอล ป็อกบา แทงบอลทะลุช่องอย่างสวยให้ เอดินสัน คาวานี่ เติมขึ้นมาตวัดยิงด้วยเท้าซ้าย บอลลอดตัว อูโก้ โยริส ตุงตาข่ายเรียบร้อย อย่างไรก็ตาม หลังผู้ตัดสินเช็กวีเออาร์ พบว่ามีจังหวะฟาวส์ก่อนหน้านี้ก่อน โดยผู้ตัดสินมอง สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ ไปทำฟาวส์ก่อน ด้วยการใช้มือไปฟาดใส่หน้า ซน ฮึง-มิน ทำให้ริบประตูไป สกอร์จึงยังเจ๊าอยู่ 0-0 นอกจากไม่ได้ประตูแล้ว แมนฯยูไนเต็ด ต้องมาเสียประตูอีกต่างหาก ในนาทีที่ 40 เมื่อสเปอร์ส เปิดเกมบุกขึ้นมา บอลเริ่มจาก โจวานี่ โล เซลโซ่ วางบอลเข้ากรอบเขตโทษให้ แฮร์รี่ เคน แปะบอลให้ ลูคัส มูร่า หลุดมาไปที่เสาแรก ก่อนเปิดย้อนมาเสาสองให้ ซน ฮึง-มิน วิ่งมายิงเบียดเสาไปอย่างยอดเยี่ยม ขยับสกอร์ให้เจ้าถิ่นขึ้นนำ 1-0 แทน แถมนาทีที่ 42 เอดินสัน คาวานี่ มาเสียใบเหลือง หลังออกอาการหงุดหงิด ที่ โจ โรดอน ทำเป็นแกล้งเจ็บ เลยไปเร่งดึงตัวขึ้นมา เลยต้องไปปะทะกับ เอริค ดายเออร์ เพิ่มอีกคน ผู้ตัดสินเลยควักใบเหลืองดับร้อนให้หัวหอกอุรุกวัยไป หลังจากนั้นทั้งสองทีมสู้กันอย่างคู่คี่สูสียังหาจังหวะจบสกอร์แบบจะแจ้งกันแทบไม่ได้ ทำให้หมดครึ่งแรก เป็น สเปอร์ส เปิดบ้านนำ แมนฯยูไนเต็ด อยู่ 1-0 เริ่มครึ่งหลัง นาที 49 ผีแดงได้ลุ้นหลัง ลุค ชอว์ เปิดเข้าไปในกรอบให้ แอรอน วาน-บิสซาก้า สอดเข้ามาพยายามเปิดเข้ากลางแต่ลึกไปเข้าซอง อูโก้ โยริส อีกสามนาทีถัดมา ทีมเยือนได้เสียวอีกหลัง ปอล ป็อกบา ผ่านบอลมาให้ เอดินสัน คาวานี่ โฉบมาซัดเสาแรกแต่บอลถากเสาเข้าข้างตาข่ายอย่างน่าเสียดาย นาที 55 ป็อกบา วางบอลบอลลึกมาเสาไกลถึง แอรอน วาน-บิสซาก้า ก่อนหักเข้ากลางให้ สกอตต์ แม็คโทมิเน่ย์ ซัดเสาแรกแต่ยังไม่ผ่านมือ อูโก้ โยริช พุ่งปัดออกไปหวุดหวิด นาที 57 แมนฯยูไนเต็ด มาไล่ตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ จากจังหวะต่อบอลกันยอดเยี่ยม เฟร็ดชิ่งกับ บรูโน่ ก่อนห้องเครื่องบราซิเลี่ยนจะฝากให้ แรชฟอร์ด แล้ววิ่งไปรับบอลก่อนแทงทะลุให้ คาวานี่ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปซัดติดเซฟ อูโก้ โยริส ทว่าบอลกระดอนมาเข้าทาง เฟร็ด ตามซ้ำเสยเพดานตาข่ายเข้าไป เป็นประตูแรกในพรีเมียร์ลีกรอบ 2 ปีกว่าของห้องเครื่องทีมชาติบราซิล นาที 61 สเปอร์ส เกือบแซงขึ้นนำอีกครั้ง คราวนี้ แซร์ช โอริเย่ร์ เติมขึ้นมาซัดติดบล็อค บอลเลยมาเข้าทาง ซน ฮึง-มิน ดึงเข้าขวาซัดไปติดเซฟของ ดีน เฮนเดอร์สัน เกมแลกกันสนุกอีกสองนาทีต่อมา ทัพผีแดง ตอบโต้ขึ้นมาเกือบพลิกแซงขึ้นนำเหมือนกัน แอรอน วาน-บิสซาก้า ไหลให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส กดนอกกรอบแต่ก็ยังโดน โยริช ทุบออกไปอีก นาที 80 แมนฯยูไนเต็ด มาแซงนำเจ้าถิ่น 2-1 จนได้ จากจังหวะที่ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ไหลสั้นๆให้ เมสัน กรีนวู้ด ครอสบอลด้วยซ้ายสวยสุดไปหน้าปากประตูให้ เอดินสัน คาวานี่ พุ่งโขกเข้าไปอย่างสวยงาม ช่วงทดเจ็บ นาที 90+5 "ผีแดง" มานำโด่ง 3-1 จากจังหวะที่ ป็อกบา ไหลออกขวาให้ เมสัน กรีนวู้ด ซัดด้วยขวาเต็มแรงยัดเสาแรกเข้าไปอยางเด็ดขาด จบเกม แมนฯ ยูไนเต็ด บุกมาถอนแค้นเอาชนะ สเปอร์ส 3-1 คว้าสามแต้มมีเพิ่มเป็น 63 แต้มรั้งรองจ่าฝูงเหมือนเดิม โดยทิ้งอันดับสามอย่าง เลสเตอร์ ถึง 7 คะแนน ส่วนสเปอร์สรั้งอันดับ 7 มี 49 คะแนนตามพื้นที่ท็อปโฟร์ถึง 6 คะแนน รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม สเปอร์ส (4-2-3-1) : อูโก้ โยริส - แซร์ช โอริเย่ร์, โจ โรดอน, เอริค ดายเออร์, เซร์คิโอ เรกีลอน - ปิแอร์-เอมิล ฮอยจ์เบิร์ก, ต็องกี เอ็นดอมเบเล่ (เอริก ลาเมล่า น.78) - ลูคัส มูร่า (แกเร็ธ เบล น.82), โจวานี่ โล เซลโซ่ (มูสซ่า ซิสโซโก้ น.61), ซน ฮึง-มิน - แฮร์รี่ เคน แมนฯยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดีน เฮนเดอร์สัน - แอรอน วาน-บิสซาก้า, วิคตอร์ ลินเดเลิฟ, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, ลุค ชอว์ - สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, เฟร็ด - ปอล ป็อกบา, บรูโน่ แฟร์นันด์ส (เนมานย่า มาติช น.90), มาร์คัส แรชฟอร์ด (เมสัน กรีนวู้ด น.72) - เอดินสัน คาวานี่ |
|
