|
4
เม.ย. โชต้าลงมาเบิ้ล! ลิเวอร์พูลบุกยำอาร์เซน่อลแซงค้อนขึ้นที่5จี้ท็อปโฟร์2แต้ม
"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล โชว์ฟอร์มนอกรังสุดเฉียบหลังบุกถลุงเจ้าถิ่น อาร์เซน่อล ขาดลอย 3-0 โดยเกมนี้ ดีโอโก้ โชต้า ลงมาเป็นสำรองแต่ตะบันคนเดียวสองเม็ดช่วยให้ทีมเก็บสามแต้มมีเพิ่มเป็น 49 คะแนนเท่ากับเวสต์แฮมแต่ลูกได้เสียดีกว่าแซงขึ้นอันดับ 5 จี้ท็อปโฟร์อย่าง เชลซี แค่สองแต้มเท่านั้น ในบิ๊กแมตช์พรีเมียร์ลีก คืนวันเสาร์ที่ผ่านมา สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม "บิ๊กแมตช์" พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 3 เมษายน ที่ผ่านมา เจ้าบ้าน อาร์เซน่อล อันดับ 9 เปิดรังรับการมาเยือนของแชมป์เก่า ลิเวอร์พูล ที่รั้งอันดับ 7 โดยนัดแรกที่ แอนฟิลด์ "หงส์แดง" ไล่บดเอาชนะปืนใหญ่มาได้ 3-1 แมตช์นี้ มิเกล อาร์เตต้า บอสใหญ่อาร์เซน่อลไร้ กรานิต ชาคา, บูคาโย่ ซาก้า และเอมิล สมิธ โรว์ที่บาดเจ็บ แนวรุกส่ง มาร์ติน โอเดนการ์ด จอมทัพปั้นเกมร่วมกับ ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมย็อง และนิโกล่าส์ เปเป้ โดยทิ้ง อเลซ็องด์ ลากาแซตต์ เป็นหน้าเป้า ส่วนทางฝั่ง เจอร์เก้น คล็อปป์ ให้ ดีโอโก้ โชต้า และจอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม เป็นสำรองไปก่อน ส่ง เจมส์ มิลเนอร์ คุมกลางร่วมกับ ติอาโก้ อัลคันทาร่า โดยที่สามแนวรุกเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และซาดิโอ มาเน่ ออกสตาร์ทเกมครึ่งแรก นาที 12 "หงส์แดง" ได้ทักทายจากโอกาสยิงหนแรกหลัง เจมส์ มิลเนอร์ วิ่งมาซัดไกลแต่บอลหลุดกรอบออกไป อีกสองนาทีถัดมา ฟาบินโญ่ เก็บบอลได้จากแถวสองก่อนวิ่งมาหวดกว่า 25 หลาบอลพุ่งถากเสาออกไป กลายเป็น "หงส์แดง" ที่ครองบอลได้เหนือกว่าเจ้าถิ่น นาที 26 เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ครอสเข้าไปกลางประตูให้ ซาดิโอ มาเน่ ขวิดบอลไปแฉลบร็อบ โฮลดิ้ง ก่อนไปเข้ามือ แบรนด์ เลโน่ นาที 30 แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ตัดบอลได้ก่อนไหลขึ้นหน้าให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ดึงหลบ คาลัม แชมเบอร์ส แล้วซัดด้วยขวานอกกรอบบอลพุ่งหลุดเสาออกไปแบบได้เสียว นาที 33 เป็นโอกาสแรกของ "ปืนใหญ่" ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมย็อง ได้บอลทางซ้ายก่อนโยนมาเสาสองให้ นิโกล่าส์ เปเป้ เทกโขกแต่บอลเบาไปเข้ามือ อลีสซง เบ็คเกอร์ นาที 35 ลิเวอร์พูล ทิ้งโอกาสทองขึ้นนำไปก่อน จากจังหวะที่ เทรนท์ ตบย้อนหลังมาให้ เจมส์ มิลเนอร์ วิ่งมากดด้วยขวาบอลพุ่งหลุดกรอบออกไปอย่างน่าผิดหวัง นาที 44 มิเกล อาร์เตต้า ต้องเปลี่ยนตัวคนแรกหลัง คีแรน เทียร์นี่ย์ แบ็กซ้ายมีอาการเจ็บก่อนจะส่ง เซดริก โซอาเรส ลงไปเล่นแทน ครึ่งหลัง รูปเกมยังเหมือนเดิมเป็นทางฝั่ง "หงส์แดง" ที่ครองเกมได้เหนือกว่า ทว่าแทบหาโอกาสยิงหรือลุ้นได้น้อยครั้ง เนื่องจาก อาร์เซน่อล รับอย่างมีวินัยอย่างเหนียวแน่น ผ่านไปครบหนึ่งชั่วโมง เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องแก้เกมบ้างถอดเอา แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ออกแล้วส่ง ดีโอโก้ โชต้า ลงไปเล่นแทน นาที 61 ไอ้ปืนใหญ่เกือบได้ลุ้นขึ้นนำเหมือนกัน คราวนี้บอลขึ้นมาทางซ้าย โอบาเมย็อง ดึงจังหวะแล้วไหลให้ เซดริก โซอาเรส ก่อนฟูลแบ็กชาวโปรตุกีสจะอัดด้วยขวาเต็มแรง แต่บอลพุ่งไปเข้ามือ อลีสซง ที่รับไว้ไม่พลาด กระนั้น ความพยายามของ "หงส์แดง" มาสำเร็จผลจนได้ เมื่อบุกมานำเจ้าถิ่น 1-0 ในนาที 64 จากจังหวะที่ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ครอสบอลเข้ามาให้ ดีโอโก้ โชต้า ตัวสำรองที่เพิ่งลงมาสอดมาโขกผ่านมือ เลโน่ เข้าไปอย่างเด็ดขาด จากนั้นไม่กี่อึดใจ นาที 68 ลิเวอร์พูล พังตาข่ายหนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ ฟาบินโญ่ เปิดบอลขึ้นหน้า กาเบรียล มากัญเญส พยายามสกัดบอลไม่เต็มขา บอลไปเข้าทาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ฉกบอลเข้าไปยิงลอดขา แบรนด์ เลโน่ เป็นประตูที่ 18 แซงหน้าแฮร์รี่ เคน ขึ้นนำดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก เจ้าถิ่นรุกไม่ขึ้นเลย และนาที 82 มาเสียประตูที่สามให้หงส์แดง จากจังหวะที่ กาเบรียล มากัญเญส จ่ายบอลพลาดโดน ซาลาห์ ตัดบอลได้ก่อนปาดมาหน้าประตูให้ มาเน่ สะกิดต่อให้ ดีโอโก้ โชต้า วิ่งมาซัดบอลตุงตาข่ายแบบไม่จับ ให้ ลิเวอร์พูล บุกนำโด่ง 3-0 และเป็นประตูที่สองในเกมนี้ของดาวยิงชาวโปรตุกีส จบเกม ลิเวอร์พูล บุกเอาชนะ อาร์เซน่อล ขาดลอย 3-0 เก็บสามแต้ม มีเพิ่มเป็น 49 คะแนนเท่ากับเวสต์แฮมที่แข่งน้อยกว่า แต่ลูกได้เสียหงส์แดงดีกว่าจึงรั้งอันดับ 5 แทน ส่วนอาร์เซน่อลรั้งอันดับ 9 มี 42 คะแนนเหมือนเดม รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม อาร์เซน่อล (4-2-3-1) : แบรนด์ เลโน่ - คัลลั่ม แชมเบอร์ส, ร็อบ โฮลดิ้ง, กาเบรียล มากัญเญส, คีแรน เทียร์นี่ย์ (เซดริก โซอาเรส น.45+1) - โธมัส ปาร์เตย์, ดานี่ เซบายอส (โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ น.58) - นิโกล่าส์ เปเป้, มาร์ติน โอเดนการ์ด, ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมย็อง (กาเบรียล มาติเนลลี่ น.77) - อเลซ็องด์ ลากาแซตต์ ผู้จัดการทีม : มิเกล อาร์เตต้า ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เนธาเนี่ยล ฟิลลิปส์, โอซาน คาบัค (รีส วิลเลี่ยมส์ น.84), แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (ดีโอโก้ โชต้า น.60) - ติอาโก้ อัลคันทาร่า, ฟาบินโญ่, เจมส์ มิลเนอร์ - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ (จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม น.78), ซาดิโอ มาเน่ ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอตกินสัน |
|