21
มี.ค.
เดอ บรอยน์ซัดปิด! แมนซิตี้เคี้ยวเอฟเวอร์ตัน ลิ่วตัดเชือก3ปีติดเอฟเอคัพ

Dbf9pP.jpg

"เรือใบสีฟ้า" ฟอร์มยังแข็งแกร่งหลังบุกไปอัดเจ้าบ้าน เอฟเวอร์ตัน ในช่วงท้ายเกม 2-0 จาก อิลคาย กุนโดกัน และเควิน เดอบรอยน์ ส่งผลให้ลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผ่านเข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศเป็นฤดูกาลที่ 3 ติดต่อกัน ในศึกเอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบ 8 ทีมสุดท้าย เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา

สนาม : กูดิสัน พาร์ค

ศึกฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 20 มีนาคม ที่ผ่านมา เป็นการพบกันของสองทีมจากพรีเมียร์ลีกระหว่าง เอฟเวอร์ตัน รับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยผลงานล่าสุดของทั้งคู่นั้น "ทอฟฟี่" แพ้คาบ้าน เบิร์นลี่ย์ 1-2 ส่วน "เรือใบสีฟ้า" ยังโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยม บุกชนะ ฟูแล่ม 3-0 ก่อนเชือด กลัดบัค 2-0 ลิ่ว 8 ทีมสุดท้ายยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

คาร์โล อันเชล็อตติ ประสบปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บกันเพียบ เกมนี้ต้องใช้ ชูเอา เวอร์จิเนีย นายด่านมือสามเฝ้าเสา ส่วนแนวรุกวางคู่หน้าเป็น โดมินิค คัลเวิร์ท-ลูวิน กับ ริชาร์ลิซอน

ส่วนฝั่ง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า สภาพทีมสมบูรณ์มีนักเตะให้ใช้งานได้หลากหลายเกมนี้ปรับทัพส่งสามประสานเป็น ฟิล โฟเด้น, กาเบรียล เชซุส และ ราฮีม สเตอร์ลิง

เริ่มเกมมาได้แค่ 3 นาทีแรก "เรือใบสีฟ้า" ได้ลุ้นจากฟรีคิกนอกกรอบ ฟิล โฟเด้น วิ่งมาตะบันด้วยขวาเต็มแรงบอลพุ่งได้ลุ้นก่อนไปติด เยร์รี่ มีน่า ออกหลัง

นาที 17 ราฮีม สเตอร์ลิง ลองอัดด้วยขวาจากนอกกรอบแต่บอลก็ไปเข้ามือ ชูเอา เวอร์จิเนีย รับไว้ได้ อีกสองนาทีถัดมาเจ้าบ้านได้ลุ้นหนแรกจากจังหวะที่ ริชาร์ลิซอน พยายามล้มตัวยิงจากด้านหลังแต่บอลเหินคานออกไป

นาที 28 เอฟเวอร์ตัน มาได้ลุ้นฟรีคิกจากนอกกรอบบ้าง ทว่า ริชาร์ลิซอน ที่รับหน้าที่วิ่งมาปั่นบอลเหินคานออกไปไกล อีกนาทีต่อมา "ซิตี้" ตอบโต้มาทันควัน แต่ สเตอร์ลิง ยิงไม่ดีพอหลุดกรอบออกไปเหมือนกัน

นาที 34 แนวรับซิตี้เกือบมาพลาดหลัง อังเดร โกเมส แทงบอลตัดแนวรับให้ คัลเวิร์ท-ลูวิน สปีดไปเกือบจะถึงบอลแล้วแต่โดน แซ็ค สเตฟเฟ่น นายด่านของเรือใบออกมาสกัดไม่ดีบอลหล่นในกรอบ แต่ยังดีที่ อายเมริค ลาปอร์กต์ เคลียร์ออกหลังออกไปได้ทัน

ท้ายเกม นาที 43 เอฟเวอร์ตันเกือบได้ลุ้นขึ้นนำหลังบอลจากลูกเตะมุม ลูก้าส์ ดีญ เปิดโค้งมาเสาแรกให้ เยร์รี่ มีน่า เช็ดไปเสาไกลจะเข้าอยู่แล้วแต่โดน โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ที่ยืนคุมเสาโขกทิ้งออกไปหวุดหวิด

จบครึ่งแรก ยังทำอะไรกันไม่ได้เสมอกันแบบไร้สกอร์ 0-0

ครึ่งหลัง นาที 57 เอฟเวอร์ตัน เกือบได้ลุ้นหลัง เยร์รี่ มีน่า โขกชงเข้ากลางให้ ริชาร์ลิซอน ง้างเท้าวอลเลย์แต่บอลหลุดเสาออกไปอย่างน่าผิดหวัง

อีกสองนาทีต่อมา ลูกทีมของ เป๊ป ทิ้งโอกาสขึ้นนำไปอีกคราวนี้ แฟร์นานดินโญ่ ปาดบอลจากซ้ายย้อนมาแถวสองให้ ราฮีม สเตอร์ลิง ซัดด้วยขวากำลังจะพุ่งเบียดเสาอยู่แล้วแต่ ชูเอา เวอร์จิเนีย โชว์เหนียวพุ่งปัดปลายมือออกไป

นาที 64 เรือใบสีฟ้า ส่ง ริยาด มาห์เรซ ลงไปปั้นเกมแทน แบร์นาร์โด้ ซิลวา

ทัพเรือใบสีฟ้ายังหาโอกาสขึ้นนำไม่ได้ นาที 79 ต้องส่ง เควิน เดอ บรอยน์ จอมทัพของทีมลงมาปั้นเกมแทน ราฮีม สเตอร์ลิง

นาที 83 ฟิล โฟเด้น ลองต้องป้อมซัดไกลจากนอกกรอบ บอลพุ่งเลียดแต่ยังไม่ผ่านมือ ชูเอา เวอร์จิเนีย

กระนั้นอีกนาทีต่อมา แมนฯซิตี้ มาพังประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ เควิน เดอ บรอยน์ แหวกบอลเข้ามาในกรอบก่อนล้มไปเข้าทาง อายเมริค ลาปอร์กต์ เติมมาซัดไปชนคาน แต่บอลตกใส่หน้า อิลคาย กุนโดกัน ตามโขกซ้ำเข้าไป

นาทีสุดท้าย "เรือใบสีฟ้า" มาได้ประตูนำห่าง 2-0 จากจังหวะแทงบอลเร็วของ โรดรี้ ให้ เควิน เดอ บรอยน์ หลุดเข้าไปซัดบอลผ่านมือไอ้หนู เวอร์จิเนีย นายด่านทอฟฟี่เข้าไปอย่างเฉียบขาด

ช่วงเวลาที่เหลือเจ้าบ้าน "ทอฟฟี่" ไม่สามารถทวงประตูคืนได้ จบเกม เอฟเวอร์ตัน พ่ายคาบ้านให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-2 ส่งให้ "เรือใบสีฟ้า" ทะยานเข้าไปเล่นรอบรองชนะเลิศ เป็นทีมที่สองต่อจาก เซาธ์แฮมป์ตัน

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เอฟเวอร์ตัน (5-3-2) : ชูเอา เวอร์จิเนีย - เชมัน โคลแมน, เมสัน โฮลเกท (อเล็กซ์ อิโวบี้ น.87), เยร์รี่ มีน่า, เบน ก็อดฟรีย์, ลูก้าส์ ดีญ - อัลลัน, อังเดร โกเมส, กิลฟี่ ซิเกิร์ดส์สัน - โดมินิค คัลเวิร์ท-ลูวิน, ริชาร์ลิซอน

ผู้จัดการทีม : คาร์โล อันเชล็อตติ

แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : แซ็ค สเตฟเฟ่น - ไคล์ วอร์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, อายเมริค ลาปอร์กต์, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ - แบร์นาร์โด้ ซิลวา (ริยาด มาห์เรซ น.64), แฟร์นันดินโญ่, อิลคาย กุนโดกัน (โรดรี้ น.89) - ฟิล โฟเด้น, กาเบรียล เชซุส, ราฮีม สเตอร์ลิง (เควิน เดอ บรอยน์ น.79)

ผู้จัดการทีม : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

www.siamsport.co.th

© 2018-2024 Coreball.com All Rights Reserved.