15
มี.ค.
หงส์ยิ้ม! ลากาแซตต์ฮีโร่-อาร์เซน่อลทุบสเปอร์ส10คน มูเซ็งซนเจ็บอีก

6a45d14c9d2c372e33160c64669f81bc.jpg

อเลซ็องดร์ ลากาแซตต์ กลายเป็นฮีโร่หลังเรียกจุดโทษก่อนลุกมาซัดประตูชัยให้ อาร์เซน่อล แซงเอาชนะ สเปอร์ส 2-1 เกมนี้ทัพไก่ต้องเหลือแค่ 10 คน หลัง เอริก ลาเมล่า ซึ่งซัดประตูให้ทีมขึ้นนำโดนใบแดงถูกไล่ออก แถมต้องเซ่นอาการเจ็บของ ซน ฮึง-มิน อีก ทำให้ไอ้ปืนใหญ่ยังอยู่อันดับ 10 เหมือนเดิมมี 41 แต้มส่วน "ไก่เดือยทอง" ชวดโอกาสไล่จี้ท็อปโฟร์รั้งที่ 7 มี 45 แต้มเท่าเดิม ในเกมนอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 14 มีนาคม ที่ผ่านมา เป็นศึกนอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้แมตช์ระหว่าง อาร์เซน่อล อันดับ 10 เปิดบ้านรับการมาเยือนของคู่ปรับอย่าง สเปอร์ส อันดับ 7

มิเกล อาร์เตต้า พาทีมไม่แพ้มา 4 นัดติดทุกรายการ เกมที่แล้วในลีกบุกไปเสมอกับ เบิร์นลี่ย์ 1-1 เกมนี้ดร็อป โอบาเมย็อง เป็นสำรองแล้วส่ง อเลซ็องดร์ ลากาแซตต์ เป็นหน้าเป้าโดยมี บูคาโย่ ซาก้า, โอเดนการ์ด และ เอมิล สมิธ โรว์ ปั้นเกมรุกสนับสนุน

ส่วน โชเซ่ มูรินโญ่ พาทัพไก่เดือยทองชนะมา 5 นัดรวดทุกรายการ เกมนี้ "น้ามู" เปลี่ยนแค่ตำแหน่งเดียวจากเกมถล่ม คริสตัล พาเลซ 4-1 ส่วนแนวรุกยังเป็นชุดเดิม แกเรธ เบล, ลูคัส มูร่า, ซน ฮึง-มิน และ แฮร์รี่ เคน ยืนหน้าเป้า

ออกสตาร์ทมาช่วง 10 นาทีแรกเป็น "ไอ้ปืนใหญ่" ขึงเกมรุกบุกใส่สเปอร์ส ทว่าจังหวะสุดท้ายยังไม่ผ่านแนวรับไก่ที่ยังช่วยกันได้ดี

นาที 14 เป็นโอกาสยิงหนแรกของเกม กรานิต ชาก้า ตั้งป้อมซัดไกลนอกกรอบแต่บอลเหินออกไปไกล อีก 2 นาทีถัดมา อาร์เซน่อล น่าจะได้ประตูขึ้นนำ คราวนี้เป็น เอมิล สมิธ โรว์ ปั่นด้วยขวานอกกรอบบอลโค้งผ่านมือ อูโก้ โยริส ไปแล้วแต่ไปชนคานอย่างน่าเสียดาย

นาที 19 เป็นข่าวร้ายของ สเปอร์ส เมื่อ ซน ฮึง-มิน เล่นต่อไม่ไหวหลังมีอาการบาดเจ็บที่แฮมสตริง ก่อนที่ มูรินโญ่ จะส่ง เอริก ลาเมล่า ลงมาเล่นแทน

เกมรุกของเจ้าบ้านยังหวือหวา นาที 26 สมิธ โรว์ ผ่านให้ อเลซ็องดร์ ลากาแซตต์ วิ่งมาอัดด้วยขวาบอลผ่านหน้าประตูไปอย่างน่าผิดหวัง

ทว่า นาที 33 โอกาสแรกของ "ไก่เดือยทอง" ก็กลายเป็นประตูขึ้นนำอาร์เซน่อล 1-0 ทันทีบอลจาก เบล ข้ามมาซ้ายให้ เรกีล่อน แปจังหวะเดียวเข้ากลางให้ ลูคัส มูร่า แปะจังหวะเดียวให้ เอริก ลาเมล่า ไขว้ยิงด้วยซ้ายบอลลอดขา โธมัส ปาร์เตย์ พุ่งเสียบเสาไกลอย่างเหนือชั้น

นาที 37 ปืนใหญ่พลาดโอกาสตีเสมอหลัง เอมิล สมิธ โรว์ พาบอลถึงเส้นหลังแล้วหักมาให้ ลากาแซตต์ วิ่งข้ามบอลมาถึง เซดริก โซอาเรส วิ่งมาซัดด้วยขวาบอลพุ่งไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย

แต่แล้ว นาที 44 ทัพปืนใหญ่มาไล่ตีเสมอ 1-1 สำเร็จ บอลขึ้นทาง คีแรน เทียร์นี่ย์ ครอสมากลางประตูถึง มาร์ติน โอเดนการ์ด ยิงไปแฉลบขา โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ เปลี่ยนทางเสียบมุมเข้าไปชนิดที่ อูโก้ โยริส พุ่งปัดไม่ทัน เป็นประตูแรกในพรีเมียร์ลีก และยิงได้สองนัดติดต่อกันหลังเพิ่งยิงได้ในเกมยูโรปาลีกเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา

จบครึ่งแรก อาร์เซน่อล เสมอ สเปอร์ส 1-1

ครึ่งหลัง มิเกล อาร์เตต้า เปลี่ยนตัวส่ง นิโกล่าส์ เปเป้ ลงไปเล่นแทน บูคาโย่ ซาก้า ที่มีอาการเจ็บ

นาที 56 เจ้าบ้านเกือบได้แซงขึ้นนำหลัง โอเดนการ์ด จ่ายให้ อเลซ็องดร์ ลากาแซตต์ พลิกตัวซัดด้วยขวานอกกรอบแต่บอลพุ่งไปเข้ามือ อูโก้ โยริส

นาที 64 อาร์เซน่อล มาได้ลูกที่จุดโทษหลัง ดาวินซอน ซานเชซ เข้าไปเสียบใส่ อเลซ็องดร์ ลากาแซตต์ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที พร้อมกับวีเออาร์ยืนยันเป็นจุดโทษก่อนที่ ลากาแซตต์ จะซัดเข้าไปไม่พลาดให้ ปืนใหญ่ แซงขึ้นนำ 2-1

นาที 76 สเปอร์ส ต้องเหลือแค่ 10 คนหลัง เอริก ลาเมล่า ไปเจตนาใช้มือฟาดที่หน้า คีแรน เทียร์นี่ย์ จนไมเคิ่ล โอลิเวอร์แจกใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงถูกไล่ออกจากสนาม

นาที 83 แฮร์รี่ เคน พุ่งโขกส่งบอลเข้าก้นตาข่ายไปแล้ว แต่ผู้ตัดสินเป่าเป็นล้ำหน้าไปก่อนทำให้ สเปอร์ส ชวดได้ประตูตีเสมออย่างน่าเสียดาย

นาที 89 ทีมเยือนชวดได้ประตูตีเจ๊าอีกหลัง แฮร์รี่ เคน ยิงฟรีคิกไปชนเสา แม้ ดาวินซอน ซานเชซ จะโขกซ้ำแต่ยังไปติดบล็อค กาเบรียล มากัลเญส ช่วยเซฟไม่ให้ปืนต้องเสียประตู

จบเกม อาร์เซน่อล พลิกแซงเอาชนะ สเปอร์ส 2-1 เก็บสามแต้มสำคัญ แต่ยังอยู่อันดับ 10 เหมือนเดิมมี 41 แต้มเท่ากับ แอสตัน วิลล่า แต่ลูกได้เสียเป็นรองสิงห์ผงาด ส่วน "ไก่เดือยทอง" ชวดโอกาสไล่จี้ท็อปโฟร์ รั้งอันดับ 7 มี 45 แต้มเท่าเดิม

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

อาร์เซน่อล (4-2-3-1) : แบรนด์ เลโน่ - เซดริก โซอาเรส, กาเบรียล มากัลเญส, ดาวิด ลุยซ์, คีแรน เทียร์นี่ย์ - โธมัส ปาร์เตย์, กรานิต ชาก้า - บูคาโย่ ซาก้า (นิโกล่าส์ เปเป้ น.46), โอเดนการ์ด, เอมิล สมิธ โรว์ (วิลเลี่ยน น.77) - อเลซ็องดร์ ลากาแซตต์ (โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ น.88)

ผู้จัดการทีม : มิเกล อาร์เตต้า

สเปอร์ส (4-2-3-1) : อูโก้ โยริส - แมตต์ โดเฮอร์ตี้, ดาวินซอน ซานเชซ, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, เซร์คิโอ เรกีล่อน - ปิแอร์-เอมิล ฮอยจ์เบิร์ก, ต็องกี เอ็นดอมเบเล่ (เดเล่ อัลลี่ น.62) - แกเรธ เบล (มูสซ่า ซิสโซโก้ น.57), ลูคัส มูร่า, ซน ฮึง-มิน (เอริก ลาเมล่า น.19) - แฮร์รี่ เคน

ผู้จัดการทีม : โชเซ่ มูรินโญ่

ผู้ตัดสิน : ไมเคิ่ล โอลิเวอร์

www.siamsport.co.th

© 2018-2024 Coreball.com All Rights Reserved.