8
มี.ค.
แมนยูเจ๋งบุกหลอนจ่าฝูงแมนซิตี้ แซงจิ้งจอกขึ้นที่2ตามเรือ11แต้ม

3501373053b822c967920af2733a16cb.jpg

บรูโน่ แฟร์นันด์ส ซัดขึ้นนำตั้งแต่ไก่โห่ก่อนที่ ลูค ชอว์ จะโชว์ฟิตซัดฝังให้ "ผีแดง" บุกไปปราบจ่าฝูง แมนฯซิตี้ ถึงบ้าน 2-0 หยุดสถิติชนะรวดของเรือใบทุกรายการไว้ที่ 21 นัดติดต่อกัน พร้อมยึดรองจ่าฝูงคืนจาก เลสเตอร์ ซิตี้ มี 54 แต้ม ตามหลังจ่าฝูงซิตี้เหลือ 11 คะแนน ศึกพรีเมียร์ลีก "แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้" เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม

"บิ๊กแมตช์" พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม ที่ผ่านมา เป็นศึกแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์ ระหว่างจ่าฝูง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดรังรับการมาเยือนของเพื่อนบ้านอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 3 โดยผลงานล่าสุดของทั้งคู่นั้น "เรือใบสีฟ้า" ไล่ถล่ม วูล์ฟแฮมป์ตัน 4-1 ส่วนทางฝั่ง "ผีแดง" ทำได้แค่เสมอกับ คริสตัล พาเลซ 0-0

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า พาเรือใบสีฟ้าชนะรวดมา 21 เกมติดต่อกันทุกรายการ เกมนี้แทบไม่มีปัญหาในการจัดทัพแต่อย่างใดสามแนวรุกใช้ ริยาด มาห์เรซ, กาเบรียล เชซุส และ ราฮีม สเตอร์ลิง โดยมี เควิน เดอ บรอยน์ กัปตันทีมปั้นเกมร่วมกับ อิลคาย กุนโดกัน

ส่วนทางฝั่ง โอเล่ กุนนาร์ โซลชา บอสใหญ่ของผีแดง เสมอแบบไร้สกอร์ 0-0 มา 3 เกมติดทุกรายการ เกมนี้ให้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล กลับมาสตาร์ทเป็นตัวจริง และมี 3 แนวรุกอย่าง แดเนี่ยล เจมส์, บรูโน่ แฟร์นันด์ส และมาร์คัส แรชฟอร์ด สนับสนุนเชื่อมเกมรุก

เปิดฉากมาได้แค่ 34 วินาที "ผีแดง" มาได้ลูกที่จุดโทษอย่างรวดเร็ว หลัง กาเบรียล เชซุส ไปฟาวล์เตะข้างหลังใส่ มาร์กซิยาล ในกรอบ ผู้ตัดสินแอนโธนี่ เทย์เลอร์ ชี้เป็นจุดโทษทันทีโดยไม่เรียกดูวีเออาร์ ก่อนที่ บรูโน่ แฟร์นันด์ส จะซัดติดปลายมือ เอแดร์ซอน เข้าไปใน นาทีที่ 2 ให้ แมนฯยูไนเต็ด บุกมานำเรือใบสีฟ้า 1-0 และเป็นประตูที่ 16 ของห้องเครื่องชาวโปรตุกีสในซีซั่นนี้ ตามหลัง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ดาวซัลโวที่ทำไป 17 ประตูแค่ลูกเดียวเท่านั้น

เจ้าบ้านยังตั้งตัวไม่ติด นาที 4 เกือบเสียเม็ดที่สองให้ผีแดง หลังแนวรับเจ้าถิ่นเสียการครองบอลในกรอบก่อนโดน บรูโน่ แฟร์นันด์ส แย่งบอลให้ ลุค ชอว์ อัดด้วยขวาไม่ถึง 6 หลาแต่บอลพุ่งไปตรงตัว เอแดร์ซอน อย่างน่าเสียดาย

ลูกทีมของ เป๊ป เริ่มครองบอลได้มากขึ้น นาที 9 เป็นโอกาสยิงหนแรกหลัง มาห์เรซ จ่ายให้ อิลคาย กุนโดกัน ซัดด้วยขวานอกกรอบแต่บอลยังไปเข้ามือ ดีน เฮนเดอร์สันรับไว้ได้สบาย

นาที 16 เดอ บรอยน์ ทำเสียบอลแดนกลางโดน เฟร็ด ตัดไปได้ก่อนแทงขึนหน้าให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ตั้งป้อมซัดนอกกรอบด้วยขวาแต่ยังไม่ผ่านมือ เอแดร์ซอน

นาที 23 ราฮีม สเตอร์ลิง เลี้้ยงจี้เข้าไปในกรอบก่อนโดนขวางล้มลงไป ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไรให้เล่นต่อ ถัดมาอีกนาที โอเล็กซานเดร์ ซินเชนโก้ วิ่งมาซัดด้วยซ้ายนอกกรอบเต็มข้อ บอลพุ่งเป็นจรวดสุดแรงแต่ก็ยังโดน ดีน เฮนเดอร์สัน ปัดบอลออกไปได้

บอลสู้กันกลางสนาม แต่เป็นเจ้าถิ่นที่ยังครองบอลได้มากกว่า นาที 38 ได้โอกาสอีกครั้งจาก อิลคาย กุนโดกัน แต่จังหวะยิงซัดเบาไปเข้ามือ ดีน เฮนเดอร์สัน รับไว้ได้ไม่มีปัญหา

นาที 43 เรือใบสีฟ้ามาได้ลุ้นจากฟรีคิกไม่ถึง 30 หลาหน้ากรอบ ก่อนเควิน เดอ บรอยน์ ปั่นข้ามกำแพงไปติดปลายมือ เฮนเดอร์สัน ออกหลัง

ช่วงทดเจ็บ นาที 45+1 ซิตี้หวิดได้ลุ้นตีเสมอ คราวนี้ ริยาด มาห์เรซ หลุดมาทางขวาแล้วอัดเปรี้ยงบอลพุ่งเลียด แม้ว่า กาเบรียล เชซุส จะพุ่งมาสไลด์เข้าชาร์จแต่บอลก็พุ่งถากเสาออกไป

จบครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตามหลังเพื่อนบ้าน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-1

ครึ่งหลัง เริ่มมาได้แค่นาที 48 เจ้าบ้านเรือใบสีฟ้าหวิดได้ลูกตีเสมอหลัง กาเบรียล เชซุส แปะบอลคืนหลังให้ โรดรี้ ปั่นเลยเส้น 18 หลาในกรอบบอลพุ่งไปชนสามเหลี่ยมออกหลังอย่างน่าเสียดาย

เมื่อตีเสมอไม่ได้ อีกสองนาทีถัดมามาเสียเม็ดที่สองให้ "ผีแดง" จากจังหวะที่ ดีน เฮนเดอร์สัน ออกบอลให้ ลุค ชอว์ พาบอลจากครึ่งสนามขึ้นมาเองก่อนทำชิ่งกับ แรชฟอร์ด แล้ววิ่งไปรับบอล ก่อนซัดด้วยซ้ายบอลพุ่งเลียดแหวกผู้เล่นเจ้าถิ่นเสียบเสาไกลเข้าไปชนิดที่ เอแดร์ซอน ได้แต่ยืนมองให้ แมนฯยูไนเต็ด บุกมานำห่าง 2-0

นาที 59 ลูกทีมของ โซลชา สวนกลับมาอีกทีและได้ลุ้นเม็ดที่สามจากจังหวะที่ บรูโน่ แฟร์นันด์ส เปิดบอลไปแฉลบหัว ดิอ๊าซ บอลลอยโด่งไปเสาไกลถึง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาลพุ่งโขกแต่น้ำหนักบอลเบาไปก่อนเข้ามือนายด่านเรือใบ

อีกนาทีต่อมา เจ้าบ้านได้ลุ้นตีไข่แตกหลังบอลต่อเนื่องจากลูกเตะมุม ริยาด มาห์เรซ เก็บอลได้ก่อนซัดด้วยซ้ายบอลพุ่งหลุดกรอบออกไปแบบได้เสียว

นาที 69 แมนฯ ยูไนเต็ด ทิ้งโอกาสทองที่จะได้ลูกที่สามนำห่างหลัง แม็คโทมิเน่ย์เสียหลักล้มหน้ากรอบแต่บอลทะลุไปเข้าทาง มาร์กซิยาล หลุดเดี่ยวเข้าไปก่อนซัดไปติดเซฟของ เอแดร์ซอน อย่างน่าผิดหวัง

นาที 75 แมนฯซิตี้ ชวดได้ประตูตีไข่แตกอีก หลัง เดอ บรอยน์ จ่ายเลียดมาให้ ฟิล โฟเด้น ตัวสำรองที่เพิ่งลงมาซัดด้วยซ้ายหลุดกรอบไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 85 เจ้าถิ่นเซ็ตเกมขึ้นมาได้ลุ้นอีกครั้ง คราวนี้ เควิน เดอ บรอยน์ ครอสบอลข้ามหัว วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ มาให้ ราฮีม สเตอร์ลิง ขึ้นโขกหลุดกรอบออกไปอย่างน่าผิดหวัง

จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พ่ายคาบ้านให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-2 ส่งผลให้ "เรือใบสีฟ้า" แพ้ในลีกหนแรกในรอบ 20 เกม และหยุดสถิติชนะ 21 นัดติดต่อกันทุกรายการพร้อมส่งให้ "ผีแดง" ยังไร้พ่ายนอกบ้าน พร้อมยึดรองจ่าฝูงคืนจาก เลสเตอร์ ซิตี้ มี 54 แต้มตามหลังจ่าฝูงเรือใบที่มี 65 แต้ม เหลือ 11 คะแนน

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

แมนฯซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส - ชูเอา กานเซโล่ (ไคล์ วอล์คเกอร์ น.65), จอห์น สโตนส์, รูเบน ดิอาส, โอเล็กซานเดร์ ซินเชนโก้ - เควิน เดอ บรอยน์, โรดรี้,อิลคาย กุนโดกัน - ริยาด มาห์เรซ, กาเบรียล เชซุส (ฟิล โฟเด้น น.70), ราฮีม สเตอร์ลิง

ผู้จัดการทีม : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

แมนฯยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดีน เฮนเดอร์สัน - อารอน วาน-บิสซาก้า, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, ลุค ชอว์ - สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, เฟร็ด - แดเนี่ยล เจมส์,บรูโน่ แฟร์นันด์ส (แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ น.90+3), มาร์คัส แรชฟอร์ด (เมสัน กรีนวู้ด น.73) - อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล (เนมานย่า มาติช น.88)

ผู้จัดการทีม : โอเล่ กุนนาร์ โซลชา

ผู้ตัดสิน : แอนโธนี่ เทย์เลอร์

www.siamsport.co.th

© 2018-2024 Coreball.com All Rights Reserved.