"เดอะ ฟ็อกซ์" แม้สกอร์จะเป็นรองในช่วง 45 นาทีแรก ทว่าครึ่งหลังงัดฟอร์มเด็ดซัลโวสามเม็ดรวดบุกมาแซงเอาชนะ เบรนท์ฟอร์ด 3-1 เจมส์ แมดดิสัน ทั้งยิงและจ่าย ก่อนพาทีมตีตั๋วเข้าไปเล่นในรอบ 5 ได้สำเร็จ โดยจะกลับไปเล่นใน คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยมรับการมาเยือนของ ไบรท์ตัน ในเกม เอฟเอ คัพ รอบ 4 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

สนาม : เบรนท์ฟอร์ด คอมมิวนิตี้ สเตเดี้ยม

ฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบ 4 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 24 มกราคมที่ผ่านมา เป็นการพบกันระหว่าง เบรนท์ฟอร์ด จากแชมเปี้ยนชิพ รับการมาเยือนของ เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมหัวตารางจากพรีเมียร์ลีก คู่นี้ทีมใดชนะจะเข้าไปเล่นในรอบ 5 รับการมาเยือนของ ไบรท์ตัน ช่วงวันที่ 8-11 กุมภาพันธ์นี้

เปิดฉากครึ่งแรก นาทีที่ 3 "จิ้งจอกสยาม" ทีมเยือนได้ทักทายก่อนเลยหลัง เซนกิซ อุนเดอร์ อัดด้วยซ้ายมุมแคบแต่ยังไปติดเซฟของ ลุค แดเนี่ยลส์

กระนั้นถัดมา นาทีที่ 6 กลายเป็นเจ้าบ้านเบรนท์ฟอร์ดได้ประตูขึ้นนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว หลังบอลจากลูกเตะมุมทางด้านขวาเปิดมาเสาแรกให้ มาร์คุส ฟอร์สส์ ขึ้นโขกไปแฉลบ นอมปาลิส เมนดี้ อยู่ในกรอบไม่ถึง 3 หลา ก่อนที่ มาดส์ โซเรนเซ่น แนวรับเจ้าบ้านจะโฉบมาจิ้มด้วยขวาผ่านตัว แดนนี่ วอร์ด เข้าไป

หลังเสียประตู เลสเตอร์ พยายามบุกอย่างหนักเพื่อทวงประตูตีเสมอ นาที 10 อโยเซ่ เปเรซ ซัดด้วยขวาไปติดบล็อคอีก ถัดมาอีกสองนาที ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ รับลูกจ่ายของลุค โธมัส แต่ก็ยังซัดไปติดบล็อค อีธาน พินน็อค แนวรับเจ้าถิ่นอีกหน

นาที 21 อโยเซ่ เปเรซ เรียกฟรีคิกได้นอกกรอบ แต่เจมส์ แมดดิสัน ปั่่นบอลออกไปแบบไม่ได้เสียว

นาที 34 ทีเด็ดทีขาดของเบรนท์ฟอร์ดได้ลุ้นกว่า และเกือบทิ้งห่างบอลจากคอนเนอร์ด้านขวา วิตาลี่ ยาเนลต์ เปิดลึกมาเสาไกลให้ ทาริค โฟซู แปด้วยขวาแต่ยังโดน แดนนี่ วอร์ด ปัดออกหลัง

ท้ายเกมนาที 44 สกอร์ของเจ้าบ้านเกือบได้เม็ดที่สองนำห่างหลังได้ฟรีคิกหน้ากรอบ ซามาน ก็อดดอส วิ่งมาปั่นข้ามกำแพงไปแล้วบอลเกือบหมุดใต้คานแต่ยังดีที่ แดนนี่ วอร์ด ปัดข้ามคานออกหลังหวุดหวิด

จบครึ่งแรก เบรนท์ฟอร์ด ขึ้นนำ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-0

ครึ่งหลังเขี่ยบอลมาได้แค่นาทีเดียว น.46 "เดอะ ฟ็อกซ์" มาไล่ตีเสมอ 1-1 สำเร็จ จากจังหวะที่แข้งเจ้าถิ่นทำเสียบอล โดน เจมส์ แมดดิสัน เลี้ยงจี้หน้ากรอบก่อนดีดออกขวาให้ เซนกิซ อุนเดอร์ วิ่งมาปั่นด้วยซ้ายหนีมือนายด่านเจ้าถิ่นเข้าไปอย่างสวยงาม

นาที 50 เลสเตอร์ เกือบพลิกแซงขึ้นนำหลัง อโยเซ่ เปเรซ กดด้วยขวาเต็มข้อแต่บอลพุ่งไปตรงตัว ลุค แดเนี่ยลส์ ปัดออกหลัง

กระนั้นอีกนาทีถัดมา ทัพจิ้งจอกมาได้ลูกที่จุดโทษเมื่อ ทาริค โฟซู ไปดึง ยูริ ตีเลมันส์ ในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันทีก่อนที่ ตีเลมันส์ จะลุกขึ้นมาสังหารเข้าไปไม่พลาดให้ เลสเตอร์ บุกมานำเบรนท์ฟอร์ด 2-1

นาที 63 เลสเตอร์ ทิ้งโอกาสได้ประตูที่สามนำห่าง ตีเลมันน์ ตักบอลโด่งข้ามแนวรับให้ ริคาร์โด้ เปเรยร่า ควบขึ้นไปถึงเส้นหลังแล้วปาดเข้ากลางมาให้ อุนเดอร์ วิ่งมาแปด้วยซ้ายเหินคานออกไปอย่างน่าเสียดาย

จนแล้วจนรอดเจ้าบ้านมาเสียเม็ดที่สามจนได้ นาที 71 บอลจาก อุนเดอร์ แทงออกซ้ายให้ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ซัดไปติดเซฟของ ลุค แดเนี่ยลส์ ก่อนมาเข้าทาง เจมส์ แมดดิสัน ตามมาซ้ำเข้าไปไม่พลาดให้ เลสเตอร์ ซิตี้ บุกมานำห่าง 3-1

ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีสกอร์เพิ่มเติม จบเกม เลสเตอร์ ซิตี้ โชว์ฟอร์มเด็ดในครึ่งหลังแซงกลับมาเอาชนะ เบรนท์ฟอร์ด 3-1 ผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 5 ต่อไป โดยจะกลับไปเล่นที่ คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ ไบรท์ตัน ในช่วงวันที่ 8-11 กุมภาพันธ์นี้

รายชื่่อผู้เล่นทั้งสองทีม

เบรนท์ฟอร์ด (4-2-3-1) : ลุค แดเนี่ยลส์ - มาดส์ ราสมุสเซ่น, อีธาน พินน็อค, มาดส์ โซเรนเซ่น, ฟินลี่ย์ สตีเว่นส์ - ซามาน ก็อดดอส (อเล็กซ์ กิลเบิร์ต น.79), วิตาลี่ ยาเนลต์ (มาเทียส เยนเซ่น น.64) - แซร์จี้ กานญอส (อารอน เพรสส์ลี่ย์ น.64), แยน ซามบูเร็ค (แม็กซ์เวลล์ เฮย์การ์ธ น.84), ทาริค โฟซู - มาร์คุส ฟอร์สส์

ผู้จัดการทีม : โธมัส แฟร้งค์

เลสเตอร์ (4-2-3-1) : แดนนี่ วอร์ด - ริคาร์โด้ เปเรยร่า (ทิโมธี่ กาสตานเญ่ น.70), ซากลาร์ โซยุนชู, แดเนี่ยล อมาร์ตีย์, ลุค โธมัส - นอมปาลิส เมนดี้ (วิลเฟรด เอ็นดิดี้ น.70), ยูริ ตีเลมันส์ - เซนกิซ อุนเดอร์, เจมส์ แมดดิสัน, ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ - อโยเซ่ เปเรซ (มาร์ค อัลไบรท์ตัน น.81)

ผู้จัดการทีม : เบรนแดน ร็อดเจอร์ส

www.siamsport.co.th