18
ม.ค.
แมนยูเหนียวยึดจ่าฝูงต่อ! ลิเวอร์พูลเจาะไม่เข้าแค่เจ๊าเพิ่มสถิติไร้ชัย4นัดติด

63b7a6b7aea02b53f5f0ea38a22fc211.jpg

"หงส์แดง" เจาะแนวรับ "ผีแดง" ไม่เข้าเสมอกันไปแบบไร้สกอร์ 0-0 ส่งผลให้ แมนฯยูไนเต็ด มีเพิ่มอีกหนึ่งคะแนนเป็น 37 แต้มรั้งจ่าฝูงต่อ ส่วน ลิเวอร์พูล ไม่ชนะในเกมลีกนัดที่ 4 ติดต่อกันรั้งอันดับ 3 มี 34 คะแนน และหากคู่ดึก "เรือใบสีฟ้า" เก็บสามแต้มได้จะทำให้พวกเขาหล่นไปรั้งอันดับ 4 ทันที ในเกมแดงเดือด พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

สนาม : แอนฟิลด์

ซูเปอร์บิ๊กแมตช์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 17 มกราคมที่ผ่านมาเป็นศึก "แดงเดือด" ของสองทีมหัวตาราง แชมป์เก่าและรองจ่าฝูง ลิเวอร์พูล เปิดแอนฟิลด์รับคู่ปรับตลอดกาลอย่าง แมนฯยูไนเต็ด ทีมนำจ่าฝูง

โดย 10 เกมหลังสุดทุกรายการที่ทั้งคู่เจอกันนั้น "ผีแดง" คว้าชัยเหนือ "หงส์แดง" ได้แค่ครั้งเดียวคือเมื่อปี 2018 ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด ส่วนเกมล่าสุดที่ทัพอสูรแดงบุกมาคว้าชัยนั้นต้องย้อนไปในเกมลีกเมื่อ วันที่ 17 มกราคม 2016 หรือวันนี้เมื่อ 5 ปีที่แล้วจะการซัดประตูชัยของ เวย์น รูนี่ย์

เจอร์เก้น คล็อปป์ เพิ่งจะพาทีมคว้าชัยในเกมเอฟเอ คัพ ล่าสุดหลังไล่ตบเด็ก แอสตัน วิลล่า 4-1 ทว่าก่อนหน้านั้นในลีกพวกเขาไม่ชนะมา 3 เกมติด การจัดตัวในวันนี้พร้อมส่งสามหน้าอันตรายทั้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรเบอร์โต้ ฟิร์มิโน่ และซาดิโอ มาเน่ ส่วนแดนกลางส่ง เซอร์ ชากิรี่ ปั้นเกมร่วมกับ ติอาโก้ และจอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม ส่วน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กัปตันทีมถอยลงไปเล่นเซ็นเตอร์แบ็ก

ด้าน โอเล่ กุนนาร์ โซลชา นายใหญ่ของ "ผีแดง" ผลงานยอดเยี่ยมมากไร้พ่ายในลีกมา 11 เกมติดแล้วล่าสุดบุกไปทุบ เบิร์นลี่ย์ 1-0 จนขึ้นรั้งตำแหน่งจ่าฝูงของลีกเป็นหนแรก เกมนี้มาเต็มสูบ ปอล ป็อกบา และบรูโน่ แฟร์นันด์ส นำทัพร่วมกับ มาร์คัส แรชฟอร์ด โดยทิ้ง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล เป็นหน้าเป้า

ออกสตาร์ทครึ่งแรก เป็นเจ้าบ้านที่ครองเกมได้มากกว่า นาทีที่ 3 แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน กึ่งยิงกึ่งผ่านไปหน้ากรอบแต่บอลลึกไปเข้าข้างตาข่ายแบบได้เสียว

ผ่านไป 10 นาทีแรก รูปเกมยังคงสูสี ต่างฝ่ายต่างระมัดระวังเล่นกันอย่างรัดกุม

นาที 14 โรเบอร์โต้ ฟิร์มิโน่ ได้โอกาสซัดแต่ไปติดบล็อค แม็กไกวร์ บอลมาเข้าทาง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แต่ซัดบอลเหินคานไปแบบหมดลุ้น

เกมของเจ้าบ้านยังวูบวาบมากกว่า และใกล้เคียงกับการได้ประตูขึ้นเรื่อยๆ นาที 17 ชากิรี่ แทงบอลลึกให้ ซาดิโอ มาเน่ วิ่งไปเก็บบอลก่อนตบคืนหลังให้ ฟีร์มิโน่ วิ่งมาซัดด้วยซ้ายหลุดกรอบไปอีก

ยังเป็น "หงส์แดง" ที่กดดันเข้าใส่อย่างหนัก นาที 22 ฟีร์มีโน่ ได้โอกาสยิงอีกแต่ยังไปติดบล็อค กระดอนมาเข้าเท้า ซาลาห์ ตะบันด้วยซ้ายนอกกรอบก็ยังเหินไปอีก อีก 2 นาทีถัดมา เซอร์ดาน ชากิรี่ ลองตั้งป้อมอัดนอกกรอบบ้าง แต่ก็ยังกดไม่ลงลอยโด่งออกไปไกล

นาที 34 "ผีแดง" ได้โอกาสลุ้นหนแรกจากฟรีคิกนอกกรอบกว่า 25 หลา และเป็น บรูโน่ แฟร์นันด์ส ปั่นบอลข้ามกำแพงไปแล้วแต่ติดไซด์โค้งถากเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย

ไม่ถึงนาทีต่อมา "หงส์แดง" สวนกลับขึ้นมาทางซ้าย โม ซาลาห์ ตะลุยเลี้ยงตัดเข้ากลางในกรอบก่อนบอลเลยมาเข้าทาง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ยิงไม่ดีพอบอลพุ่งไปเข้ามือ ดาบิด เด เคอา นับเป็นการยิงเข้ากรอบหนแรกของเกมในวันนี้

จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ที่มีโอกาสมากกว่าแต่ไม่สามารถเจาะแนวรับของ แมนฯยูไนเต็ด ได้ยังเสมอกัน 0-0

กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง "หงส์แดง" ยังคงตั้งหน้าตั้งตาบุกเข้าใส่และครองบอลได้ดีกว่า

นาที 58 แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ครอสบอลแรงจากซ้ายมาเสาไกลบอลกำลังจะถึง โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ง้างเท้ามายิงแล้วแต่ไปโดน แฮร์รี่ แม็คไกว์ร จิ้มบอลออกหลังหวุดหวิด

เกมผ่านไปครบหนึ่งชั่วโมง โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ แก้เกมด้วยการถอดเอา อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ออกแล้วส่ง เอดินสัน คาวานี่ ลงเล่นแทน

นาที 62 หงส์แดงกดดันต่อเนื่องคราวนี้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ แต่งเข้าซ้ายก่อนพยายามยิงเสาแรกแต่บอลไปแฉลบขา แม็กไกวร์ ออกหลังไปอีก

อีกสามนาทีต่อมา เป็นโอกาสยิงเข้ากรอบครั้งแรกของ "ผีแดง" บอลตอบโต้จากเฟร็ดแทงขึ้นหน้าให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส เลี้ยงเข้าไปซัดหน้ากรอบแต่บอลพุ่งไปเข้ามือ อลีสซง เบ็คเกอร์

นาที 75 ผีแดงชวดขึ้นนำเจ้าถิ่นอย่างน่าเสียดาย หลังบอลสวนกลับของ แรชฟอร์ด ขึ้นมาทางซ้ายก่อนเลี้ยงจี้เข้ากรอบแล้วให้ ลุค ชอว์ ที่วิ่งอ้อมหลังปาดเลียดให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส แปด้วยขวาแต่ยังไปติดขาของ อลีสซง เบ็คเกอร์

นาที 78 "หงส์แดง" ก็เกือบเป็นฝ่ายชิงขึ้นนำไปก่อนเช่นกัน คราวนี้เป็น ติอาโก้ อัลคันทาร่า พลิกตัวหลบก่อนซัดเต็มแรงนอกกรอบบอลพุ่งแรง แต่ยังไม่ผ่านมือ ดาบิด เด เคอา พุ่งปัดออกไปได้

นาที 83 ผีแดงเกือบได้ลุ้นประตูอีก แอรอน วาน-บิสซาก้า กระชากขึ้นมาแล้วให้ ปอล ป็อกบา กดด้วยขวามุมแคบแต่ยังไปติดมืออลีสซงเซฟออกไป

ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมไม่สามารถยิงประตูกันได้ จบเกม ลิเวอร์พูล ทำได้แค่เสมอกับ แมนฯยูไนเต็ด 0-0 แบ่งแต้มกันไป ทำให้ "ผีแดง" ยังครองตำแหน่งจ่าฝูงเหมือนเดิม

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - เซอร์ดาน ชากิรี่ (เคอร์ติส โจนส์ น.76), ติอาโก้ อัลคันทาร่า, จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม (เจมส์ มิลเนอร์ น.89) - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ (ดิว็อค โอริกี้ น.85), ซาดิโอ มาเน่

ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์

แมนฯยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา - แอรอน วาน-บิสซาก้า, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, แฮร์รี่ แม็คไกว์ร, ลุค ชอว์ - สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, เฟร็ด - มาร์คัส แรชฟอร์ด, บรูโน่ แฟร์นันด์ส (เมสัน กรีนวู้ด น.90), ปอล ป็อกบา - อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล (เอดินสัน คาวานี่ น.61)

ผู้จัดการทีม : โอเล่ กุนนาร์ โซลชา

ผู้ตัดสิน : พอล เทียร์นี่ย์

www.siamsport.co.th

© 2018-2024 Coreball.com All Rights Reserved.