|
14
ม.ค. ไร้พ่าย14นัดติด! โฟเด้นกดชัย-แมนซิตี้หืดเฉือนไบรท์ตัน พุ่งขึ้นที่3ก่อน
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังทำผลงานได้สุดแจ่มยอดเยี่ยมหลังเปิดบ้านเอาชนะ ไบรท์ตัน 1-0 หวุดหวิดจากประตูชัยของ ฟิล โฟเด้น เก็บสามแต้มพร้อมแซงขึ้นไปรั้งอันดับ 3 ชั่วคราว และยืดสถิติไร้พ่ายเป็นเกมที่ 14 ติดต่อกันทุกรายการ นอกจากนี้ เควิน เดอ บรอยน์ ยังทำสถิติแอสซิสต์มากสุดตลอดกาลพรีเมียร์ลีกแซงหน้า เธียร์รี่ อองรี ไว้ที่ 75 แอสซิสต์ สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันพุธที่ 13 มกราคม ที่ผ่านมา เป็นการพบกันระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อันดับ 6 เปิดบ้านรับการมาเยือนของ ไบรท์ตัน ทีมอันดับ 17 เกมนี้หาก "เรือใบสีฟ้า" คว้าชัยได้จะขยับขึ้นไปรั้งอันดับ 3 ก่อนชั่วคราว เป๊ป กวาร์ดิโอล่า พาทีมไม่แพ้ใครมา 13 เกมติดทุกรายการ เกมนี้ได้ เอแดร์ซอน หายป่วยจากโควิดกลับมาเฝ้าเสา แนวรุกใช้สามประสานอย่าง ริยาด มาห์เรซ, เควิน เดอ บรอยน์ และฟิล โฟเด้น ส่วน เกรแฮม พ็อตเตอร์ นายใหญ่ไบรท์ตันส่ง เพอร์ซี่ เทา ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในลีกเกมแรกโดยทำเกมรุกร่วมกับ อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ และเลอันโดร ตรอสซาร์ เกมครึ่งแรก เจ้าบ้านบุกกดดันตั้งแต่ต้นเกม นาทีที่ 7 ฟิล โฟเด้น เก็บบอลก่อนไหลคืนหลังให้ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ซัดไปติดบล็อค นาที 13 ไบรท์ตันได้โอกาสยิงหนแรกหลัง เลอันโดร ตรอสซาร์ ฉีกไปเก็บบอลด้านซ้ายก่อนตักบอลเลยไปเสาสอง โยเอล เฟลท์มัน วิ่งตามมาเก็บก่อนหวดเปรี้ยงเหินโด่งไปแบบไม่มีลุ้น นาที 14 "ซิตี้" พลาดโอกาสทองขึ้นนำอย่างน่าเสียดายหลัง อิลคาย กุนโดกัน แทงบอลให้ เควิน เดอ บรอยน์ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปซัดติดขา โรเบิร์ต ซานเชซ นาที 19 ลูกทีมของ เกรแฮม พ็อตเตอร์ ไม่เกรงกลัวตอบโต้มาอีกครั้ง และยังเป็น เลอันโดร ตรอสซาร์ ที่ป่วนเกมรับเจ้าถิ่นเลี้ยงจี้เข้าเขตโทษก่อนปั่นด้วยขวาแต่บอลยังโค้งไม่พอหลุดกรอบออกไป ถัดมาอีกนาทีเดียว บอลต่อเนื่องจากลูกเตะมุมของ ฟิล โฟเด้น บอลเลยมาถึง เควิน เดอ บรอยน์ ที่อยู่เสาไกลตะบันด้วยขวาเต็มแรงแต่บอลพุ่งไปเข้ามือ โรเบิร์ต ซานเชซ นาที 26 เควิน เดอ บรอยน์ ตักบอลข้ามแนวรับทีมเยือนให้ ริยาด มาห์เรซ ใช้ความเร็ววิ่งไปเก็บบอลก่อนยิงมุมแคบหลุดกรอบอย่างน่าเสียดาย นาที 28 ไบรท์ตันมาเสียฟรีคิก 2 จังหวะในกรอบเขตโทษไม่ถึง 10 หลาหลังผู้ตัดสินมองว่า แดน เบิร์น ส่งบอลคืนให้ โรเบิร์ต ซานเชซ รับบอล ก่อนที่ แบร์นาร์โด้ ซิลวา จะเขี่ยให้ เควิน เดอ บรอยน์ ซัดเต็มแรงไปติดบล็อค บอลสวนกลับของ "เรือใบ" เกือบได้ลุ้นขึ้นนำหลัง นาที 40 เดอ บรอยน์ กระชากจากหน้าประตูขึ้นมาแล้วป้ายออกขวาให้ ฟิล โฟเด้น ก่อนคืนให้ เควิน เดอ บรอยน์ กระชากเข้าไปซัดมุมแคบแต่ยังติดเซฟของ โรเบิร์ต ซานเชซ ออกหลังอย่างน่าเสียดาย ช่วงท้ายครึ่งแรก นาที 44 แมนฯซิตี้ มาปลดล็อคพังประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้จากการประสานงานของ เควิน เดอ บรอยน์ จ่ายให้ ฟิล โฟเด้น จับบอลสัมพัสแรกแล้วตัดเข้ากลางหลุดเข้าไปซัดเลียดเบียดเสาแรกเข้าไปอย่างเฉียบขาด ส่วน เควิน เดอ บรอยน์ ทำสถิติแอสซิสต์มากสุดตลอดกาลพรีเมียร์ลีกเป็น 75 แอสซิสต์ แซงหน้าเธียร์รี่ อองรี ตำนานอาร์เซน่อลที่ทำไว้ 74 แอสซิสต์ จบครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นนำ ไบรท์ตัน 1-0 ครึ่งหลัง นาที 58 เจ้าบ้านเกือบได้ลุ้นเม็ดที่สองหลัง ชูเอา กานเซโล่ ตักบอลให้ ริยาด มาห์เรซ หลุดเข้าไปซัดด้วยซ้ายบอลพุ่งถากเสาสองออกไปแบบได้เสียว ไม่ถึงนาทีถัดมา "เรือใบสีฟ้า" ชวดได้ประตูอีกคราวนี้ มาห์เรซ จ่ายออกซ้ายให้ อิลคาย กุนโดกัน หลุดเข้าไปซัดติดเซฟของ โรเบิร์ต ซานเชซ แต่บอลยังไปเข้าทาง แบร์นาร์โด้ ซิลวา ม้วนหลบแล้วซัดด้วยซ้ายบอลพุ่งไปชนสามเหลี่ยมอย่างน่าเสียดาย นาที 77 ไบรท์ตันเกือบได้ลุ้นหลัง นีล โมเปย์ จะหลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับ เอแดร์ซอน อยู่แล้วแต่ยังดีที่ จอห์น สโตนส์ ยังเร็วเหยียดขาสไลด์บอลสกัดไว้ได้ทัน ช่วงทดเจ็บ นาที 90+2 เจ้าบ้านมาได้ลูกที่จุดโทษหลัง เดอ บรอยน์ โดน โรเบิร์ต ซานเชซ นายด่านไบรท์ตันรวบขา ผู่้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทว่า ราฮีม สเตอร์ลิง ดันยิงพลาดข้ามคานไปแบบน่าผิดหวัง จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านเอาชนะ ไบรท์ตัน 1-0 คว้าสามแต้มพร้อมแซงขึ้นไปรั้งอันดับ 3 ชั่วคราวมี 32 คะแนนเท่ากับ เลสเตอร์ และเอฟเวอร์ตัน แต่ลูกได้เสียดีกว่า แถมแข่งน้อยกว่าอีกหนึ่งเกม ส่วน ไบรท์ตัน แพ้เป็นเกมที่ 8 ของฤดูกาล ยังมีแค่ 14 คะแนนรั้งอันดับ 17 ของตารางเหมือนเดิม รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส - ชูเอา กานเซโล่, จอห์น สโตนส์, รูเบน ดิอ๊าส, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ - โรดรี เอร์นานเดซ, อิลคาย กุนโดกัน, แบร์นาร์โด้ ซิลวา - ริยาด มาห์เรซ (กาเบรียล เชซุส น.67), เควิน เดอ บรอยน์, ฟิล โฟเด้น (ราฮีม สเตอร์ลิง น.82) ผู้จัดการทีม : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ไบรท์ตัน (3-4-2-1) : โรเบิร์ต ซานเชซ - อดัม เว็บสเตอร์, ลูอิส ดังค์, แดน เบิร์น - โยเอล เฟลท์มัน, เบน ไวท์, ดาวี ปร็อปเปอร์ (โซลลี่ มาร์ช น.68), แบร์นาร์โด้ - เพอร์ซี่ เทา (นีล โมเปย์ น.68), อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ - เลอันโดร ตรอสซาร์ (เรด้า คาดร้า น.86) ผู้จัดการทีม : เกรแฮม พ็อตเตอร์ ผู้ตัดสิน : ดาร์เรน อิงแลนด์ |
|