|
3
ม.ค. ซน-เคนผนึกตะบันเป็นสถิติใหม่! สเปอร์สยำลีดส์ยับ พุ่งยึดที่3ของตาราง
"ไก่เดือยทอง" สเปอร์ส คืนฟอร์มเก่งหลังสะกดคำว่าชนะไม่เป็นมา 4 นัด ด้วยการเปิดรังถล่มยับ ลีดส์ ยูไนเต็ด 3-0 คู่หูนรกแตก ซน ฮึง-มิน กับ แฮร์รี่ เคน ช่วยกันซัดอีกแล้ว ก่อนปล่อยอีกโควต้าให้ โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ เก็บสามคะแนนทะยานกระโดดขึ้นมาอยู่อันดับ 3 ด้วยประตูได้เสียดีกว่า เลสเตอร์ และ เอฟเวอร์ตัน ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อ วันเสาร์ที่ 2 มกราคม ที่ผ่านมา ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันเสาร์ที่ 2 มกราคม 2564 สเปอร์ส 3-0 ลีดส์ ยูไนเต็ด สนาม : ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยม เกมพรีเมียร์ลีก ประจำวันเสาร์ที่ 2 มกราคม 64 เป็นที่ "ไก่เดือยทอง" สเปอร์ส เปิดท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยม ต้อนรับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ของ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า โดยเกมนี้ โชเซ่ มูรินโญ่ ยังไม่มี แกเร็ธ เบล กับ โจวานี่ โล เซลโซ่ ที่เจ็บ ส่วนผู้เล่นตัวหลัก ๆ ไม่ว่าจะเป็น ซน ฮึง-มิน กับ แฮร์รี่ เคน คู่หูจอมถล่มประตู รวมไปถึง อูโก้ โยริส, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ พร้อมลงสนาม ด้าน "ยูงทอง" ของ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ผู้จัดการทีมชาวอาร์เจนติน่า ได้ มาเตอุส คลิช หายบาดเจ็บกลับมาช่วยทีมในเกมนี้ ผนึกกำลังกับผู้เล่นจากเกมก่อน ไม่ว่าจะเป็น พาทริก แบมฟอร์ด รวมไปถึง ราฟินญ่า, โรดริโก้ และ แจ็ค แฮร์ริสัน ยังคงพร้อมบู๊ในเกมนี้ เริ่มเกมมา 4 นาที เป็นฝั่งผู้มาเยือนได้ยิงทักทายก่อน จากการเติมขึ้นมากดยิงด้วยเท้าซ้ายบริเวณกรอบเขตโทษของ เอซกาน อลิโอสกี้ แต่บอลพุ่งเข้าหน้าต่างแทน นาทีที่ 11 ลีดส์ ยูไนเต็ด ยังมาได้หวือหวากว่า แล้วก็ได้จบสกอร์อีกครั้ง จากการตวัดยิงระยะเผาขนของ มาเตอุส คลิช แต่เนื่องจากต้องเร่งยิงมากเกินไป เนื่องจากโดนแนวรับสเปอร์ส เร่งบีบ ทำให้ลูกยิงของ มาเตอุส คลิช โด่งข้ามคานไป 6 นาทีต่อมา เจ้าถิ่นมีโอกาสจะแจ้งครั้งแรก เมื่อ แฮร์รี่ เคน ตอกส้นให้ ซน ฮึง-มิน หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษ แต่หัวหอกชาวเกาหลี เลี้ยงบอลไม่ผ่านแนวรับลีดส์ แต่บอลจะกระดอนมาเข้าทางปืนของ แฮร์รี่ เคน วิ่งมากดด้วยเท้าซ้ายเต็มข้อ แต่บอลโด่งข้ามคานออกหลังไปแบบมีเสียว นาทีที่ 22 ทีมยูงทอง ทิ้งโอกาสทองได้ประตูไปอีกครั้ง เมื่อ ราฟินญ่า บรรจงเปิดด้วยซ้ายให้ พาทริก แบมฟอร์ด กระโดดโขกเหน่งๆคนเดียว ตรงระยะ 6 หลาหน้าประตู แต่ พาทริก แบมฟอร์ด โหม่งไม่ดีเอง บอลโด่งออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย นาทีที่ 27 แฟน ไก่เดือยทองได้เฮ เมื่อได้ลูกจุดโทษ จากจังหวะที่ แฮร์รี่ วิงค์ ดักบอลได้จากการจ่ายผิดพลาดของ อิลล็อง เมสลิเย่ร์ ก่อนจ่ายให้ สตีเว่น เบิร์กไวจ์น ในกรอบเขตโทษ แต่ เบิร์กไวจ์น ไปโดน เอซกาน อลิโอสกี้ ทำฟาวส์ล้มในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินรีเช็กวีเออาร์เพื่อความชัวร์ ก่อนยืนยันให้จุดโทษ สเปอร์ส ตามเดิม ก่อน นาทีที่ 29 แฮร์รี่ เคน จะรับหน้าที่สังหารไม่พลาด กดประตูที่ 10 ให้ตัวเอง พร้อมขยับสกอร์ให้ สเปอร์ส ขึ้นนำ ลีดส์ ยูไนเต็ด 1-0 นาทีที่ 40 ลีดส์ ยูไนเต็ด มีเสียวอีกครั้ง เมื่อ มาเตอุส คลิช ไหลบอลให้ แจ็ค แฮร์ริสัน ปั่นยิงด้วยเท้าซ้ายนอกกรอบเขตโทษ น้ำหนักบอลดีเยี่ยม แต่บอลไม่โค้งลง ทำให้เหินข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย แล้วก็โดนลงโทษทันที จากคู่หูเจ้าเก่า เมื่อ แฮร์รี่ เคน ได้บอลทางฝั่งขวาของกรอบเขตโทษ ก่อนเปิดโค้งให้ ซน ฮึง-มิน วิ่งโฉบมายิงที่เสาแรก ส่งบอลตุงตาข่ายไปอย่างหมดจด ทำประตูที่ 12 ให้ตัวเอง และ 100 ให้ไก่เดือยทอง รวมถึงเพิ่มแอสซิสต์ให้เพื่อนอย่าง แฮร์รี่ เคน เป็น 12 ครั้ง และเป็นประตูที่ 13 ที่ได้จากการประสานงานกันเองของคู่นี้อีกด้วย นับเป็นสถิติใหม่พรีเมียร์ลีกที่ไม่เคยมีคู่หูคู่ไหนช่วยกันทำได้มากเท่านี้มาก่อน ทำให้ สเปอร์ส ฉีกนำ 2-0 พร้อมหมดครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้ เริ่มครึ่งหลังมานาทีที่ 50 สเปอร์ส มาได้ประตูเพิ่มอย่างรวดเร็ว เมื่อได้ลูกเตะมุม ซน ฮึง-มิน เปิดไปที่เสาแรกให้ โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ วิ่งโฉบโหม่ง บอลแม้จะตรงตัว อิลล็อง เมสลิเย่ร์ แต่ด้วยความแรงของลูกบอล ทำให้นายทวาร ลีดส์ เซฟไม่อยู่ บอลปลื้นข้ามเส้นเป็นประตูให้ ไก่เดือยทอง นำห่างถึง 3-0 แล้ว นาทีที่ 72 แฮร์รี่ เคน เห็น อิลล็อง เมสลิเย่ร์ ออกมานอกเส้นเยอะ จึงตัดสินกดยิงบริเวณวงกลมครึ่งสนาม ยังดีที่น้ำหนักแรงเกินบอลจึงข้ามคานออกหลังไปแบบมีเสียว นาทีที่ 90 สเปอร์ส ต้องเหลือผู้เล่น 10 คน เมื่อ แมตต์ โดเฮอร์ตี้ โดนใบเหลืองใบที่สอง กลายเป็นใบแดงไล่ออกจากสนามไป ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ หมดเวลาจึงเป็น สเปอร์ส เปิดบ้านยำ ลีดส์ ไปอย่างสนุก 3-0 เก็บสามคะแนน คืนความมั่นหลังไม่ชนะใครมา 4 นัดติดได้สำเร็จ พร้อมทะยานกระโดดขึ้นมาอยู่อันดับ 3 ของตารางคะแนน ด้วยการมีแต้มที่ 29 คะแนน เท่ากับ เลสเตอร์ และ เอฟเวอร์ตัน แต่ประตูได้เสีย ลูกทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ ดีกว่าใครเพื่อน รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม สเปอร์ส (4-2-3-1) : อูโก้ โยริส - แมตต์ โดเฮอร์ตี้, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, เอริก ดายเออร์, เบน เดวิส - แฮร์รี่ วิงค์ (มุสซา ซิสโซโก้ น.76), ปิแอร์-เอมิล ฮอยจ์เบียร์ก - สตีเว่น เบิร์กไวจ์น, ต็องกี เอ็นดอมเบเล่ (ลูคัส มูร่า น.78), ซน ฮึง-มิน - แฮร์รี่ เคน (คาร์ลอส วินิซิอุส น.87) ลีดส์ ยูไนเต็ด (4-1-4-1) : อิลล็อง เมสลิเย่ร์ - สจ๊วร์ต ดัลลัส, ลุค อายลิ่ง, ปากาส สตรูยิช, เอซกาน อลิโอสกี้ (เจมี่ แชคเลตัน น.64) - คาลวิน ฟิลลิปส์ - ราฟินญ่า, โรดริโก้ (ปาโบล เอร์นันเดซ น.65), มาเตอุส คลิช, แจ็ค แฮร์ริสัน (เอียน โปเวด้า น.61) - พาทริก แบมฟอร์ด ผู้ตัดสิน : เดวิด คูท |
|