21
ธ.ค.
บรูโน่ควงแม็คโทมิเนย์เบิ้ล! แมนยูโคตรดุถล่มลีดส์ครึ่งโหล แซงขึ้นที่3

1ff4b58fc33bdf3a4a1cc4512f0533be.jpg

"ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โชว์ผลงานได้อย่างสุดยอดหลังเปิดรังไล่ถล่มน้องใหม่ ลีดส์ ยูไนเต็ด แบบสนุก 6-2 เกมนี้ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ และบรูโน่ แฟร์นันด์ส เหมาคนละสองประตูก่อนพาทีมเก็บสามแต้มสำคัญ แซงขึ้นรั้งอันดับ 3 ส่วน "ยูงทอง" แพ้เป็นเกมที่7 รั้งอันดับ 14 เหมือนเดิมในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม ที่ผ่านมา

สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด

"สงครามกุหลาบ" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านรับการมาเยือนของน้องใหม่ ลีดส์ ยูไนเต็ด นับเป็นครั้งแรกในรอบ 16 ปี

โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เกมนี้ส่ง แดเนี่ยล เจมส์ ลงตัวจริงปั้นเกมร่วมกับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส และมาร์คัส แรชฟอร์ด โดยมี อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ค้ำหน้าเป้า ส่วนทัพ "ยูงทอง" ของ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ยังยึดขุมกำลังชุดเดิมเป็นหลังวางทีเด็ดอย่าง ราฟินญ่า, โรดริโก้ โมเรโน่ และพาทริก แบมฟอร์ด

เขี่ยบอลมาแค่นาทีเศษๆ แมนฯยูไนเต็ด เป็นฝ่ายขึ้นนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว จากจังหวะตัดบอลได้ทางซ้ายของ ลุค ชอว์ บอลเข้ากลางมาให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ จ่ายใส่พานให้ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ วิ่งมาตะบันด้วยซ้ายแบบไม่จับบอลพุ่งเลียดติดไซด์เสียบมุมอย่างงดงาม

เกมรับของลีดส์ยังตั้งตัวไม่ทัน นาทีที่ 3 มาเสียให้ "ผีแดง" นำห่างเป็น 2-0 เป็นอีกครั้งที่แข้ง "ยูงทอง" ทำเสียบอลก่อนจะโดน มาร์กซิยาล ลากตัดเข้ากลางก่อนแทงทะลุคู่เซ็นเตอร์แบ็กของ ลีดส์ ให้ สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ สอดขึ้นมาแต่งด้วยขวาเข้าซ้ายซัดเปรี้ยงหนีมือ เมสลิเย่ร์ เข้าไป และเป็นประตูที่สองของ แม็คโทมิเนย์ ในเกมนี้มีลุ้นแฮตทริก

ลูกทีมของ บิเอลซ่า เริ่มตั้งเกมได้ นาทีที่ 7 เกือบได้ลุ้นตีไข่แตกหลัง วาน-บิสซาก้า จ่ายเข้ากลางพลาดไปโดน มาเตอุสซ์ คลิช ตัดบอลก่อนออกบอลเร็วขึ้นหน้าให้ พาทริก แบมฟอร์ด หลุดเข้าไป ทว่าเจ้าตัวแปบอลหลุดเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 19 ทัพยูงทองดีใจกันเก้อหลัง พาทริก แบมฟอร์ด วอลเลย์ด้วยซ้ายส่งบอลเข้าก้นตาข่ายไปแล้ว ทว่าผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อน

แต่กลายเป็นว่าเจ้าถิ่น "ผีแดง" มาได้ประตูที่สามนำห่าง จากจังหวะที่ ลุค อายลิ่ง แนวรับทีมเยือนสกัดบอลไปเข้าทาง บรูโน่ แฟร์นันด์ วิ่งมาอัดด้วยขวาพุ่งเลียดผ่านมือ อัลลัน เมสลิเย่ร์ เข้าไปให้ แมนฯยูไนเต็ด นำโด่งไป 3-0 แล้ว และเป็นประตูที่ 8ของจอมทัพชาวโปรตุกีสในฤดูกาลนี้อีกด้วย

ทีมเยือนยังพยายามอย่างหนักเพื่อหวังตีไข่แตกให้ได้อย่างเร็ว นาที 25 มาเตอุสซ์ คลิช ครอสบอลทางด้านขวามากลางประตูให้ พาทริก แบมฟอร์ด เบียดวาน-บิสซาก้าโขกบอลเหินคานออกไป

นาที 34 คาลวิน ฟิลลิปส์ เปิดเตะมุมเข้ามา สกอตต์ แม็คโทมิเนีย์ โขกบอลทิ้งไม่ดีไปเข้าทาง ราฟินญ่า ที่อยู่เสาไกลวอลเลย์ไม่จับบอลพุ่งแรงแต่ยังไปติดขา ดาบิด เด เคอา สกัดออกมาได้ แม้แจ็ค แฮร์ริสันจะพยายามตามซ้ำแต่โดนยกธงล้ำหน้าไปก่อน

และเป็นอีกครั้งเมื่อทีมเยือนทำไม่ได้ มาโดนเจ้าบ้าน "ผีแดง" หลอนเม็ดที่สี่ นำโด่งไป 4-0 อย่างเหลือเชื่อ ในนาทีที่ 38 บอลจากลูกคอนเนอร์ของ ลุค ชอว์ เปิดมาเสาแรกให้ มาร์กซิยาล โขกเช็ดไปเสาไกล ก่อนจะเป็น วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ สอดมาซ้ำด้วยขวาไม่ถึง 6 หลาเข้าไป

นาที 41 "ยูงทอง" มาตีไข่แตกสำเร็จบอลจากลูกเตะมุมของ ราฟินญ่า เปิดมาให้ เลียม คูเปอร์ เซ็นเตอร์แบ็กโขกหนีมือ เด เคอา ชนโคนเสาไกลเข้าไปให้ทีมเยือนไล่มาเป็น 1-4

ท้ายครึ่งแรก นาที 43 มาร์คัส แรชฟอร์ด หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษแต่จังหวะอัดด้วยขวาไปแฉลบแนวรับลีดส์ออกหลัง และไม่ถึงนาทีต่อมาบอลต่อเนื่องจากลูกเตะมุม แรชฟอร์ด เก็บบอลได้นอกกรอบก่อนโชว์สเต็ปดึงบอลแต่จังหวะอัดเลียดนั้นเบาไปเข้ามือ อัลลัน เมสลิเย่ร์

จบครึ่งแรก แมนฯยูไนเต็ด นำห่าง ลีดส์ ยูไนเต็ด 4-1

ครึ่งหลัง ยูงทอง เปลี่ยนสองคนรวด ส่ง ปาสกาล สเตราค์ และเจมี่ แชคเคิลตัน ลงมาเล่นแทน มาเตอุสซ์ คลิช และคาลวิน ฟิลลิปส์

และแค่นาที 47 "ผีแดง" เกือบได้ลุ้นเม็ดที่ห้าหลัง บรูโน่ แฟร์นันด์ส ผ่านบอลไปหน้ากรอบให้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล แตะบอลหลุดเข้าไปแต่ดันยิงหลุดกรอบออกไปอย่างน่าผิดหวัง

นาที 50 ลีดส์ ตอบโต้มาบ้าง โรดริโก้ โมเรโน่ ครอสบอลไปเสาไกลให้ ราฟินญ่า กระโดดแปเต็มแรงแต่ยังไม่ผ่านเซฟของ เด เคอา ปัดบอลลอยไปชนโคนเสาก่อนเคลียร์ออกหลังไปหวุดหวิด

นาที 65 สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ สกัดบอลจากลูกเตะมุมไปเข้าทาง ราฟินญ่า ตะบันด้วยซ้ายยัดเสาแรกแต่ ดาบิด เด เคอา ยังไม่ไว้ใจพุ่งปัดบอลออกไปได้ก่อน

จากนั้นอีกนาทีถัดมา กลายเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด มาได้ประตูนำห่างเป็น 5-1 บอลจาก สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ โชว์สเต็ปดึงบอลหลบแข้งยูงทองก่อนแทงบอลให้ แดเนี่ยล เจมส์ ฉกบอลก่อนแนวรับยูงทองเข้าไปซัดบอลลอดขา เมสลิเย่ร์ เข้าไป

เท่านั้นไม่พอ นาที 70 แอนโธนี่ เทย์เลอร์ ผู้ตัดสินเป่าให้จุดโทษ "ผีแดง" หลัง มาร์กซิยาล โดน ปาสกาล สเตราค์ เข้าฟาวล์ในเขต ก่อนจะเป็นหน้าที่ของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ซัดจุดโทษเข้าไปไม่พลาดให้ แมนฯยูไนเต็ด นำโด่งถึง 6-1 และเป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้

ทว่าลูกทีมของ บิเอลซ่า ไม่ยอมง่ายๆ มาที 73 ไล่มาห่างๆ 2-6 บอลจากแดนหลังวางยาวมาให้ ราฟินญ่า จับบอลก่อนให้ สจ๊วร์ต ดัลลัส ตั้งป้อมปั่นบอลเสียบสามเหลี่ยม ชนิดที่ ดาบิด เด เคอา หมดสิทธิ์ป้องกัน

ท้ายเกม แมนฯยูฯ เกือบได้ลุ้นประตูอีกทั้งโอกาสยิงของ เฟร็ด และเอดินสัน คาวานี่ ที่ลงมาเป็นสำรอง แต่บอลก็ยังไม่ผ่านมือ อัลลัน เมสลิเย่ร์

จบเกม แมนฯยูไนเต็ด เปิดบ้านไล่ถล่ม ลีดส์ ยูไนเต็ด ขาดลอย 6-2 คว้าสามแต้มสำคัญ พร้อมแซงขึ้นอันดับ 3 มี 26 คะแนน ตามหลังจ่าฝูง "หงส์แดง" 5 แต้ม แต่แข่งน้อยกว่าหนึ่งนัด ส่วน "ยูงทอง" รั้งอันดับ 14 เหมือนเดิม มี 17 คะแนน

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

แมนฯยูไนเต็ด (4-3-1-2) : ดาบิด เด เคอา - แอรอน วาน-บิสซาก้า, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, ลุค ชอว์ (อเล็กซ์ เตลลิส น.60) - เฟร็ด, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ - แดเนี่ยล เจมส์, บรูโน่ แฟร์นันด์ส (ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค น.71), มาร์คัส แรชฟอร์ด (เอดินสัน คาวานี่ น.71) - อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล

ผู้จัดการทีม : โอเล่ กุนนาร์ โซลชา

ลีดส์ ยูไนเต็ด (4-1-4-1) : อัลลัน เมสลิเย่ร์ - สจ๊วร์ต ดัลลัส, ลุค อายลิ่ง, เลียม คูเปอร์ (เลฟ เดวิส น.72), เอซกาน อลิโอสกี้ - คาลวิน ฟิลลิปส์ (ปาสกาล สเตราค์ น.46) - ราฟินญ่า, โรดริโก้ โมเรโน่, มาเตอุสซ์ คลิช (เจมี่ แชคเคิลตัน น.46), แจ็ค แฮร์ริสัน - พาทริก แบมฟอร์ด

ผู้จัดการทีม : มาร์เซโล่ บิเอลซ่า

ผู้ตัดสิน : แอนโธนี่ เทย์เลอร์

www.siamsport.co.th

© 2018-2024 Coreball.com All Rights Reserved.