|
20
ธ.ค. มินามิโนะซัดเปิดซิงพรีเมียร์! ฟีร์มีโน่-ซาลาห์เบิ้ลพาลิเวอร์พูลถล่มพาเลซยับยึดฝูงต่อ
ลิเวอร์พูล กลับมาคืนฟอร์มโหดอีกครั้งบุกถล่ม คริสตัล พาเลซ 7-0 โดยเกมนี้ ทาคูมิ มินามิโนะ ประเดิมลูกแรกในลีกได้สำเร็จ ส่วน โรแบร์โต้ ฟีร์มีร์โน่ ควง โม ซาลาห์ กดเบิ้ล พา "หงส์แดง" ยึดจ่าฝูงต่อไปพร้อมทำแต้มหนี สเปอร์ส รองฝูงเป็น 6 คะแนนชั่วคราว ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษคู่แรก ประจำวันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม 2563 ที่สนาม เซลเฮิร์ท พาร์ค เป็นการพบกันระหว่าง คริสตัล พาเลซ ทีมอันดับ 12 พบ ลิเวอร์พูล จ่าฝูง รอย ฮ็อดจ์สัน กุนซือ คริสตัล พาเลซ เกมนี้มีปัญหาการจัดทัพเมื่อไม่มี คริสติย็อง เบนเตเก้ ที่ติดโทษแบนจากการโดนใบแดง โดยคู่หน้าส่ง วีลฟรีด ซาฮา ลงล่าตาข่ายร่วมกับ จอร์แดน อายิว ขณะที่ ลิเวอร์พูล ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เกมนี้ตัดสินใจดร็อป โม ซาลาห์ ไว้ที่ม้านั่งสำรองแล้วให้โอกาสกับ ทาคูมิ มินามิโนะ ดาวเตะชาวญี่ปุ่นลงเป็นสามประสานในแนวรุกร่วมกับ ซาดิโอ มาเน่ ละ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ครึ่่งแรกเปิดฉากมาเพียง 2 นาที ลิเวอร์พูล ได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 ซาดิโอ มาเน่ จ่ายบอลยัดให้ ทาคูมิ มินามิโนะ ในเขตโทษ ก่อนจะกลับตัวตวัดยิงด้วยขวาส่งบอลเข้าประตูไป พร้อมกับเป็นประตูแรกของดาวเตะชาวญี่ปุ่นในศึกรีเมียร์ลีก หลังจากนั้น พาเลซ เริ่มตั้งเกมของตัวเองได้มีโอกาสขึงบุกใส่ได้ต่อเนื่อง นาทีที่ 28 จากจังกวะฟรีคิกทางฝั่งขวา เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์ เปิดเข้าเขตโทษให้ จอร์แดน อายิว ได้โขกเน้นๆแต่บอลไปตรงตัว อลีสซง เบ็คเกอร์ รับเข้าซองสบาย จากนั้น นาที 32 เจ้าถิ่นลุ้นต่อจากจังหวะเตะมุมทางฝั่งซ้าย เอเบเรชี่ เอเซ่ เปิดมาเข้าหัว เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์ ได้โหม่งแต่ก็ยังตรงตัว อลีสซง อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล ที่เกมเป็นรองมาได้ประตูนำห่าง 2-0 ในนาทีที่ 35 จากจังหวะที่ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ จัดยัดเข้าเขตโทษให้ ซาดิโอ มาเน่ แต่งแล้วซัดเรียดด้วยขวาบอลเสียบมุมเข้าไปอย่างสุดสวย เท่านั้นไม่พอท้ายครึ่งแรก นาทีที่ 44 สกอร์ไหลเป็น 3-0 จากจังหวะสวนกลลับเร็ว แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ครอสจากกราบซ้ายเข้าเขตโทษให้ โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ หลุดเดี่ยวเข้าเขตโทษแล้วยิงผ่านมือ บิเซนเต้ กวยต้า เข้าประตูไป ก่อนจะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้ ครึ่งหลังเกมดำเนินมาถึง นาทีที่ 52 "หงส์แดง" เปิดฉากบุกใส่ทันทีและมาได้ประตูนำ 4-0 เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เติมขึ้นมาทางกราบขวาแล้วไหลให้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน วิ่งมายิงเล่นทางโล่งๆหน้าเขตโทษส่งบอลเสียบเสาสองเข้าไป จากนั้น นาที 59 มินามิโนะ หวิดทำประตูที่สองของตัวเองในเกมนี้ เมื่อหลุดเดี่ยวมาซัดด้วยขวาโล่งๆแต่บอลไม่ตรงกรอบ แต่ถึงกระนั้น นาที่ 68 ทีมเยือนสกอร์ไหลเป็น 5-0 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จ่ายบอลให้ ฟีร์มีโน่ เกี่ยวบอลหลุดเข้าเขตโทษแล้วชิพข้าม บิเซนเต้ กไวต้า เข้าประตูไปอย่างเหนือชั้น ท้ายเกมนาที 81 โฌแอล มาติป โหม่งชงจากจังหวะเตะมุมให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้โขกเน้นๆตุงตาข่าย ให้ ลิเวอร์พูล นำเป็น 6-0 เท่านั้นไม่พอ ซาลาห์ มาใส่สกอร์ที่สองของตัวเองในเกมนี้จากจังหวะลากมาปั่นโค้งๆด้วยซ้ายบอลพุ่งเสียบสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างสวยงามให้สกอร์ไหลเป็น 7-0 เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม ลิเวอร์พูล บุกถล่ม คริสตัล พาเลซ 7-0 ยึดจ่าฝูงต่อไปพร้อมทำแต้มหนี สเปอร์ส รองฝูงเป็น 6 คะแนนชั่วคราว รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม คริสตัล พาเลซ (4-4-2) : บิเซนเต้ กไวต้า - เนธาเนี่ยล ไคลน์, ชีกู คูยาเต้ (เจมส์ ทอมกินส์ น.63), แกรี่ เคฮิลล์, พาทริก ฟาน อานโฮลท์ - เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์, ลูก้า มิลิโวเยวิช, เจมส์ แม็คอาร์เธอร์ (ไจโร รีดวัลด์), เอเบเรชี่ เอเซ่ (มิตชี่ บัตชัวยี่ น.69) - จอร์แดน อายิว, วิลฟรีด ซาฮา ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โฌแอล มาติป, ฟาบินโญ่, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม (เคอร์ติส โจนส์ น.69), นาบี เกอิต้า - ทาคูมิ มินามิโนะ, โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ (อเล็กซ์ อ็อกเหลด แชมเบอร์เลน น.75), ซาดิโอ มาเน่ (โมฮาเหม็ด ซาลาห์ น.57) |
|