|
7
ธ.ค. ซาลาห์ยิง1จ่าย1! ลิเวอร์พูลถล่มวูล์ฟส์ เฮ6นัดรวดในรัง ทำแต้มทาบฝูง
แชมป์เก่า ลิเวอร์พูล ไม่พลาดสามแต้มหลังงัดฟอร์มสุดเฉียบไล่ถลุง วูล์ฟแฮมป์ตัน ขาดลอย 4-0 ส่งผลให้ "หงส์แดง" มีแต้มทาบ สเปอร์ส ที่ 24 คะแนนทว่าลูกได้เสียเป็นรองทำให้ลูกทีมของมูรินโญ่นำจ่าฝูงต่ออีกวีก ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่สุดท้ายเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 6 ธันวาคม ที่ผ่านมา แชมป์เก่า ลิเวอร์พูล เปิดแอนฟิลด์รับการมาเยือนของ วูล์ฟแฮมป์ตัน โดยผลงานล่าสุดในลีกนั้น "หงส์แดง" บุกไปเสมอกับ ไบรท์ตัน 1-1 ส่วนทัพ "หมาป่า" บุกไปเอาชนะ อาร์เซน่อล 2-1 เจอร์เก้น คล็อปป์ ส่ง ควีวีน เคลเลเฮอร์ ลงเป็นมือหนึ่งแทน อลีสซง ที่บาดเจ็บเป็นเกมที่สองติดต่อกัน แต่เป็นนัดแรกในลีก แนวรุกดร็อป ดีโอโก้ โชต้า เป็นสำรองโดยใช้สามแนวรุกทั้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ ส่วนทีมเยือนของ วูล์ฟแฮมป์ตัน ชวดใช้งาน ราอูล ฮิมิเนซ ที่ได้รับบาดเจ็บจนพักยาว แนวรุกจัด อดามา ตราโอเร่, ดาเนี่ยล โปรเดนซ์ และเปโดร เนโต้ ช่วยกันล่าตาข่าย เริ่มเกมมาได้แค่ 3 นาทีแรก เนโก วิลเลี่ยม ไปเสียบ เปโดร เนโก้ จนโดนใบเหลือง และจากฟรีคิกนอกกรอบ รูเบน เนเวส ปั่นไปเสาไกลบอลเหินคานออกไปแบบได้เสียว นาที 12 เป็นโอกาสเข้าทำหนแรกของ "หงส์แดง" มาเน่ แทงบอลออกขวาให้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ครอสเร็วคืนมาให้ ซาดิโอ มาเน่ ตั้งหัวโขกแต่บอลแรงก่อนเหินหลุดกรอบออกไป "หมาป่า" ได้โอกาสส่องเข้ากรอบหนแรก และเกือบได้ลุ้นขึ้นนำในนาที 17 อดามา ตราโอเร่ เก็บบอลได้ในกรอบก่อนคืนให้ ดาเนี่ยล โปรเดนซ์ บรรจบชิพจะเสียบสามเหลี่ยมเสาไกลอยู่แล้วแต่ ควีวีน เคลเลเฮอร์ โชว์ซูเปอร์เซฟถอยหลังเหินปัดมือเดียวออกหลังไป อีกสามนาทีถัดมา ไอ้หนู เคลเลเฮอร์ ต้องออกแรงอีกหลัง ทัพหมาป่าสวนกลับขึ้นมาทางขวา อดาม่า ตราโอเร่ ครอสมาในกรอบ 6 หลาก่อนโดน เคลเลเฮอร์ พุ่งมาปัดบอลทำลายจังหวะออกข้างหวุดหวิด ทว่า นาที 24 กลายเป็น "หงส์แดง" ที่ชิงขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะของ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน วางบอลยาวจากเส้นกลางสนามมาหน้าประตู คอเนอร์ คัวดี้ กัปตันของวูล์ฟส์ฯพยายามพักอกให้เพื่อน แต่บอลห่างตัวโดน โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ฉกบอลเข้าไปยิงผ่านมือ รุย ปาตริซิโอ เป็นประตูที่ 9 ในซีซั่นนี้ของสตาร์ดังชาวอียิปต์ นาที 35 เจ้าบ้านมาได้ลุ้นจากฟรีคิกนอกกรอบกว่า 25 หลา แต่จังหวะนี่ โม ซาลาห์ ปั่นข้ามกำแพงทว่าบอลเบาไปเข้ามือ รุย ปาตริซิโอ นาที 44 ผู้ตัดสินเป่าให้จุดโทษแก่ทีมเยือนหลังเห็น มาเน่ เข้าบอลช้ากว่า คอเนอร์ คัวดี้ ที่ชิงเล่นบอลได้ก่อนล้มลงไป ซึ่งแข้งหงส์แดงรุมท้วงเชิ้ตดำว่าเป็นจังหวะพุ่งของ คัวดี้ ก่อนจะเช็กจากทีมงานวีเออาร์ แล้ววิ่งไปดูจอ VAR ข้างสนามปรากฎว่าจังหวะที่ มาเน่ จะเข้าไปสกัดนั้นชักขาออกก่อนไม่มีการปะทะกับตัวของ คัวดี้ แต่อย่างใด ทำให้ เคร็ก พาวสัน กลับคำตัดสินไม่ให้จุดโทษแก่ทีมเยือน จบครึ่งแรก ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-0 กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง แค่นาที 47 ลิเวอร์พูล เกือบได้เม็ดที่สองนำห่างหลัง เฮนเดอร์สัน วางยาวไปในกรอบให้ ซาดิโอ มาเน่ กดด้วยขวาเต็มแรงแต่บอลก็ยังพุ่งไปเข้ามือ รุย ปาตริซิโอ นาที 52 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ วางยาวไปเสาไกลให้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แตะเลียดเข้ากลางให้ ซาดิโอ มาเน่ ได้ยิงอีกครั้งแต่ดันซัดหลุดกรอบออกไปอย่งน่าผิดหวัง นาที 58 สกอร์ของเจ้าบ้านนำห่างเป็น 2-0 จนได้ จากจังหวะสวนกลับขึ้นมา จอร์แดน เฮนเดอร์สัน จิ้มบอลทิ้งยาวไปให้ จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม ถึงหน้ากรอบก่อนปั่นโค้งๆ หนีมือปาตริซิโอเข้าไปอย่างสวยงาม นาที 68 ลิเวอร์พูล มาได้ประตูที่สามนำห่าง หลังบอลเล่นสั้นที่มุมธงทางด้านขวา เฮนเดอร์สัน จ่ายๆสั้นให้ ซาลาห์ ก่อนจะเปิดด้วยซ้ายเข้าไปในกรอบ 5 หลาให้ โฌเอล มาติ๊ป สอดมาโขกบอลตุงตาข่าย ส่งให้ "หงส์แดง" นำห่าง 3-0 เท่านั้นไม่พอ นาที 78 "หงส์แดง" มานำโด่งถึง 4-0 บอลครอสของ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เลียดไปหน้ากรอบถึง มาเน่ วิ่งมาซัดแต่บอลไปแฉลบขา เนลสัน เซเมโด้ กลายเป็นทำเข้าประตูตัวเอง จบเกม ลิเวอร์พูล ไล่ถล่มเอาชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน 4-0 เก็บสามแต้มมีเพิ่มเป็น 24 คะแนนเท่ากับ สเปอร์ส แต่ลูกได้เสียเป็นรองทัพไก่เลยรั้งแค่อันดับ 2 เท่านั้น รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ควีวีน เคลเลเฮอร์ - เนโก วิลเลี่ยมส์ (เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ น.68), โฌเอล มาติ๊ป, ฟาบินโญ่, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - เคอร์ติส โจนส์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (นาบี เกอิต้า น.81), จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ (ดีโอโก้ โชต้า น.73), ซาดิโอ มาเน่ ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์ วูล์ฟแฮมป์ตัน (4-3-3) : รุย ปาตริซิโอ - เนลสัน เซเมโด้, วิลลี่ โบลี่, คอเนอร์ คัวดี้, แฟร์นานโด มาร์ซาล - เลอันเดร์ เดนดองเคอร์, รูเบน เนเวส (ฟาบิโอ ซิลวา น.62), ชูเอา มูตินโญ่ - อดามา ตราโอเร่, ดาเนี่ยล โปรเดนซ์ (รายาน เอต-นูรี น.71), เปโดร เนโต้ (วิตินญ่า น.79) ผู้จัดการทีม : นูโน่ เอสปิริโต ซานโต ผู้ตัดสิน : เคร็ก พาวสัน |
|