|
4
ธ.ค. "ลากาแซ็ตต์" โป้งเปิด!อาร์เซน่อลเฮ5นัดรวดหลังอัดราปิดยับศึกยูโรปาลีก
อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ ตะบันเปิดกล่องช่วย "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล เปิดบ้านไล่อัด ราปิด เวียนนา 4-1 ส่งผลให้ทัพปืนใหญ่ที่เข้ารอบไปแล้วทำสถิติคว้าชัย 5 นัดรวดรับ 15 แต้มเต็ม ในศึกฟุตบอล ยูโรปา ลีก (รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม บี) เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 3 ธ.ค. ที่ผ่านมา ปรีวิวฟุตบอลยูฟ่า ยูโรปา ลีก (รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม บี) วันพฤหัสบดีที่ 3 ธันวาคม 2563 อาร์เซน่อล (อังกฤษ) 4 - 1 ราปิด เวียนนา (ออสเตรีย) สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เกมนี้เปิดให้แฟนบอลเข้ามาชมและเชียร์ในสนามแต่ยังคงรักษามาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (social distancing) และมีการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้าสนาม รวมถึงให้ทุกคนใส่หน้ากากอนามัยป้องกันอีกด้วย นาทีที่ 8 อาร์เซน่อลเปิดเกมบุกละทักทายก่อน เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ หลุดขึ้นไปเปิดบอลสุดริมเส้นฝั่งซ้ายหวังให้ ลากาแซ็ตต์ แต่ถูกแข้งทีมเยือนเคลียร์ตัดหน้าเอาไว้ได้ก่อน แต่แล้วนาทีที่ 10 เจ้าบ้านขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะซัดไกลของ อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ แบบเต็มข้อด้วยเท้าขวา ระยะประมาณ 35 หลาบอลพุ่งส่ายก่อนมุมลงเสียบใต้คานอย่างสุดบรรยายเรียกเสียงฮือฮาของเหล่าแฟนบอลที่เข้ามาชมในสนามอย่างสนั่นหวั่นไหว สามนาทีถัดมาทัพปืนใหญ่หวิดเพิ่มสกอร์ นิโกล่าส์ เปเป้ กระชากบอลหลุดขึ้นไปทางริมเส้นฝั่งขวาก่อนเปิดด้วยเท่าซ้ายไปให้ ชโคดราน มุสตาฟี่ ได้ล้มตัวโขกไม่ถึง 10 หลาแต่เจ้าตัวดันบังคับทิศทางไม่ดีบอลหลุดออกข้างเสาไปอย่างน่าเสียดาย นาทีที่ 17 อาร์เซน่อล ได้ลูกฟรีคิดทางฝั่งขวา เปเป้ รับหน้าที่เปิดบอลยัดเข้าไปในกรอบเขตโทษแต่ไม่พ้นหัวแข้งทีมเยือนโขกเคลียร์ออกไปได้ นาทีถัดมาจากจังหวะเตะมุมทางฝั่งซ้ายเจ้าบ้านนำห่างเป็น 2-0 รีสส์ เนลสัน เปิดมาเข้าหัว ปาโบล มารี ที่เติมเกมขึ้นมาได้สะบัดโขกเหน่งๆ บอลพุ่งตกลงพื้นก่อนกระเด้งเสียงเสาเข้าไปตุงตาข่ายหมดปัญญาของ ริชาร์ด สเตรบิงเกอร์ นายด่านราปิดที่พยายามพุ่งสุดตัวจะรับไว้ได้ เลยมาถึงนาทีที่ 27 ทัพปืนโตพลาดได้ประตูที่สามไปอย่างน่าเสียดายเมื่อ รีสส์ เนลสัน ไหลบอลแบบถวายพานย้อนมาให้ อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ ได้ยืนเลือกมุมแปด้วยเท้าขวาเน้นๆ แต่บอลกลับไปชนเข้าที่โคนเสาอย่างจังก่อนกระเด้งออกไปอย่างน่าเสียดาย นาทีที่ 30 เอนส์ลี่ย์ เมตแลนด์-นีลส์ พาบอลตะลุยลากจี้เข้าไปในเขตโทษราปิดก่อนจะเลือกแปด้วยเท้าซ้ายแต่กลับยิงใต้บอลทำเอาเหินข้มคานออกไปไกล นาทีที่ 36 ราปิด เวียนนา ได้ตอบโต้กลับมาบ้าง โคย่า คิตากาว่า กระชากบอลขึ้นไปทางฝั่งขวาก่อนเปิดโด่งไปเสาไกลแต่ถูก ชโคดราน มุสตาฟี่ โขกเคลียร์ออกไปได้ นาทีที่ 40 อาร์เซน่อล ได้ลูกฟรีคิกทางฝั่งขวาเกือบ 40 หลา รีสส์ เนลสัน เปิดยัดเข้าไปแต่ไม่ผ่านแข้งทีมเยือนที่ยืนดักและหวดเคลียร์ออกไปได้ นาทีที่ 42 โมฮัมเหม็ด เอลเนนี่ ไปตัดฟาวน์ด้านหลังใส่ โคย่า คิตากาว่า ท่านเปาชาวโรมาเนีย ราดู เปเตรสคู ควักใบเหลืองให้ เอลเนนี่ ทันทีเหตุไปหยุดโอกาส นาทีที่ 44 อาร์เซน่อล นำห่าง 3-0 รีสส์ เนลสัน ไหลบอลให้ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ วิ่งเข้าหวดจังๆ ไม่ถึง 10 หลาบอลไปติดมือ ริชาร์ด สเตรบิงเกอร์ นายด่านราปิดที่คว้าไว้ได้ในจังหวะแรกแต่ยังกระดอนมาเข้าทาง เอ็นเคเทียห์ ใช้หัวโหม่งซ้ำดาบสองเข้าไปไม่เหลือ จบครึ่งแรกอาร์เซน่อล โชว์ฟอร์มสุดร้อนแรงเปิดบ้านนำห่างไปถึง 3-0 มาลุ้นต่อครึ่งเวลาหลังนาทีที่ 48 ราปิด เวียนนา ตีไข่แตกไล่ตามมาเป็น 1-3 จากจังหวะหลุดเข้าไปซัดมุมแคบทางฝั่งขวาของ ยูซูป ดิเมียร์ แต่ถูก รูนาร์ รูนาร์สสัน ปัดไว้ได้ด้วยปลายมือแต่บอลดันมาเข้าทาง เคลวิน อราเซ่ ที่ยืนแปซ้ำจ่อๆ ถึงสองครั้งสองคราก็ยังไปติดบล็อกของ เซอัด โคลาซินัช และเหมือนโชคจะเข้าข้างราปิดบอลลอยโด่งมาเข้าทาง โคย่า คิตากาว่า ที่ยืนรออยู่แล้วเอี้ยวตัววอลเล่ย์ทันทีหนนี้ไม่มีพลาดบอลพุ่งเข้าไปกองก้นตาข่ายไม่เหลือ เหมือนบอลได้ใจ นาทีที่ 50 ราปิดได้ฟรีคิกระยะประมาณ 25 หลา ยูซูป ดิเมียร์ รับหน้าที่สังหารวิ่งเข้ามาปั่นโค้งอ้อมกำแพงแข้งปืนโตแต่น้ำหนักเบาเกินไปทำให้ รูนาร์สสัน ตามมารับไว้ได้ก่อนบอลจะผ่านเส้นประตู นาทีที่ 54 อาร์เซน่อล บุกกลับขึ้นมาบ้าง เอ็นเคเทียห์ แทงบอลตัดแผงหลังราปิดหวังให้ เปเป้ ที่วิ่งสอดขึ้นมาแต่น้ำหนักแรงเกินไปทำให้ไหลไปเข้ามือ สเตอบิงเกอร์ นายด่านราปิดคว้าไว้ได้ อาร์เซน่อล พลาดได้ประตูที่สี่ไปอย่างน่าเสียดาย นาทีที่ 58 นิโกล่าส์ เปเป้ เปิดบอลจากทางฝั่งขวาเลยไปถึง ลากาแซ็ตต์ ที่จัดบอลได้ในเขตโทษก่อนจะกดด้วยเท้าขวาโล่งๆ แต่ถูกปฏิเสธโดย ริชาร์ด สเตรบิงเกอร์ ที่พุ่งปัดไว้ได้สุดปลายมือ ต่อเนื่องนาทีถัดมาทัพปืนโตยังคงพลาดปิดสกอร์อีกครั้งจากจังหวะชุลมุนในกรอบเขตโทษราปิด เอนส์ลี่ย์ เมตแลนด์-นีลส์ ยิงไปติดเซฟ สเตรบิงเกอร์ ก่อนบอลกระดอนมาเข้าทาง เปเป้ ได้ซ้ำดาบสองจ่อๆ แต่ก็ยังไม่ผ่าน สเตรบิงเกอร์ ที่ลุกขึ้นมาปัดด้วยปลายมือไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ นาทีที่ 63 อาร์เซน่อล เปลี่ยนผู้เล่นพร้อมกันถึงสามคนโดยส่ง ดานี่ เซบายอส ลงมาแทน โมฮัมเหม็ด เอลเนนี่, วิลเลี่ยน แทน รีสส์ เนลสัน และ เอมิล สมิธ โรว์ แทน อเล็กซองด์ ลากาแซ็ตต์ นาทีที่ 65 ทัพปืนใหญ่สร้างจังหวะและเกือบจบสกอร์ได้อีกครั้งจากการประสานงานสุดแจ่ม วิลเลี่ยน เตะบอลให้ เซบายอส จ่ายบอลทะลุแผงหลังราปิดไปถึง นิโกล่าส์ เปเป้ แล้วผ่านบอลไปให้ เอ็นเคเทียห์ ได้ล้มตัวแหย่เท้ายิงจ่อๆ แต่เจ้าตัวกลับเตะไม่โดนทำโอกาสหลุดลอยไปอย่างเหลือเชื่อ จนแล้วจนรอด นาทีที่ 66 เจ้าบ้านมาได้ประตูนำห่างเป็น 4-1 นิโกล่าส์ เปเป้ ตัดบอลจากความผิดพลาดของแข้งราปิดก่อนกระชาดจี้เข้าหากรอบเขตโทษแล้วไหลบอลออกขวาให้ เอนส์ลี่ย์ เมตแลนด์-นีลส์ หลุดเข้าไปหักข้อเปิดย้อนมาให้ อมิล สมิธ โรว์ ที่จุดนัดพบโดยวิ่งเข้าแปจ่อๆ ไม่พลาด นาทีที่ 75 ราปิด เวียนนา ได้ลุ้นทวงประตูที่สองคืนจากลูกเตะมุมที่โยนมาเข้าหัว ลีโอ จีร์อิมล์ ได้โขกทีเสาแรกแต่กดไม่ลงบอลหลุดออกข้างตาข่ายไปอย่างหวาดเสียว นาทีที่ 80 อาร์เซน่อล ได้ลูกฟรีคิกกลางกรอบเขตโทษระยะประมาณ 25 หลา เป็น ดานี่ เซบายอสวิ่งเข้ามาปั่นบอลโค้งข้ามกำแพงแข้งราปิดบอลทำท่าจะมุดใต้คานแต่ สเตรบิงเกอร์ ยังทะยานตัวปัดไว้ได้อย่างเหลือเชื่ออีกครั้ง นาทีถัดมาอาร์เซน่อล เปลี่ยน ฟอลาแรง บาโลกัน ลงมาแทน เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ เวลาที่เหลือ อาร์เซน่อล ยังคงพับสนามบุกอย่างหนักโดยไม่มีผ่อนแต่ทำประตูเพิ่มไม่ได้จบเกม ทัพปืนใหญ่แบบแข้งผสม เปิดบ้านไล่ถล่ม ราปิด เวียนนา ไป 4-1 ทั้งนี้ อาร์เซน่อล เก็บสถิติในรอบแบ่งกลุ่มคว้าชัย 5 นัดรวดรับ 15 แต้มเต็มพร้อมเข้ารอบแบบการันตีจบแชมป์กลุ่มอย่างสบายๆ รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม อาร์เซน่อล (4-2-3-1) : รูนาร์ รูนาร์สสัน - ชโคดราน มุสตาฟี่ (คัลลั่ม แชมเบอร์ส น.70), ปาโบล มารี, เซอัด โคลาซินัช, เซดริก โซอาเรส - โมฮัมเหม็ด เอลเนนี่ (ดานี่ เซบายอส น.63), เอนส์ลี่ย์ เมตแลนด์-นีลส์ - รีสส์ เนลสัน (วิลเลี่ยน น.63), เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ (ฟอลาแรง บาโลกัน น.81), นิโกล่าส์ เปเป้ - อเลซ็องดร์ ลากาแซ็ตต์ (เอมิล สมิธ โรว์ น.63) เทรนเนอร์ : มิเกล อาร์เตต้า ราปิด เวียนนา (3-5-1) : ริชาร์ด สเตรบิงเกอร์ - มักซิมิเลียน โฮฟมันน์ (มาเตโอ บารัช น.46), ลีโอ จีร์อิมล์, มาริโอ โชนน์เลทเนอร์ - ไลอ่อน ชคูสเตอร์, มาร์เคิ่ล ริดซ์เมียร์ (คริสโตฟ นาสมึลล์เนอร์ น.66) , ยูซูป ดิเมียร์, เคลวิน อราเซ่, มักซิมิเลียน อูลล์มันน์ (ธอร์สเท่น ชิค น.46) - เดนี่ เอลาร์ (ลูคัส สูล์ซบาเชอร์ น.78), โคย่า คิตากาว่า (เออร์คาน คาร่า น.66) เทรนเนอร์ : ดีทมาร์ คูห์เบาเออร์ ผู้ตัดสิน : ราดู เปเตรสคู (โรมาเนีย) |
|