|
3
ธ.ค. หมากโอกาสเพียบ-ไล่เฟร็ด! ปารีสถอนแค้นบุกอัดแมนยู10คนลุ้นเข้ารอบนัดสุดท้าย
ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ถอนแค้นสำเร็จหลังบุกมาเอาชนะ แมนฯยูไนเต็ด ถึงโอลด์ แทรฟฟอร์ด 3-1 โดยเกมนี้ "ผีแดง" ต้องเหลือแค่ 10 คนหลัง เฟร็ด โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม แถมมาร์คัส แรชฟอร์ดต้องมาเจ็บเพิ่มอีก ส่งผลให้ปารีสฯมี 9คะแนนเท่ากับ แมนฯยูไนเต็ด และไลป์ซิก ต้องไปลุ้นเข้ารอบในเกมสุดท้าย ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก คืนวันพุธที่ผ่านมา สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด ฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม เมื่อคืนวันพุธที่ 2 ธันวาคม ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันนัดที่ 5 กลุ่ม เอช ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยุไนเต็ด ที่มี 9 คะแนน รับการมาเยือนของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ทีมี 6 คะแนน เกมนี้หาก "ผีแดง" ไม่แพ้จะการันตีผ่านเข้าไปเล่นในรอบน็อคเอาท์ทันที เปิดฉากมาได้แค่ 7 นาทีแรก กลายเป็น "เปแอสเช" ที่บุกมาขึ้นนำผีแดง 1-0 จากจังหวะเล่นกันของ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ลากตัดจากขวาชิ่งกับ เนย์มาร์ ก่อนที่ เอ็มบั๊ปเป้ จะกดด้วยขวานอกกรอบไปติดบล็อค วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ บอลกระดอนไปเข้าทางปืน เนย์มาร์ ซัดด้วยขวามุมแคบแฉลบขา ดาบิด เด เคอา เข้าไป เกมรุกของทีมเยือนบุกได้น้ำได้เนื้อกว่า นาทีที่ 10 อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ กดด้วยขวานอกกรอบเต็มแรงบอลพุ่งไปติดเซฟของ ดาบิด เด เคอา ปัดพ้นอันตรายอย่างหวุดหวิด นาที 15 โอกาสยิงครั้งแรกของ "ผีแดง" มาร์คัส แรชฟอร์ด กระชากตัดเข้ากลางก่อนซัดหน้าประตูด้วยซ้ายแต่ไร้น้ำหนักเบาไปเข้ามือ เคย์เลอร์ นาบาส นาที 22 เกมเริ่มระอุขึ้นหลัง เฟร็ด เอาหัวไปชนหน้า เลอันโดร ปาเรเดส จนแข้งปารีสล้มลงไป ก่อนผู้ตัดสินจะเช็กกับห้องวีเออาร์ แล้ววิ่งไปดูภาพจากจอข้างสนาม ก่อนกลับมาควักใบเหลืองให้ เฟร็ด ซึ่งผู้ตัดสินอาจมองว่าไม่ชัดเจนเพียงพอจะเป็นใบแดงไล่ออกจากสนาม นาที 26 "ผีแดง" ได้ลุ้นอีกหลัง บรูโน่ แฟร์นันด์ส เปิดเตะมุมมากลางประตูให้ สกอตต์ แม็คโทมิเน่ย์ เทกตัวโขกแต่บอลเบาไปเข้ามือ เคย์เลอร์ นาบาส กระทั่ง นาที 32 แมนฯ ยูไนเต็ด มาพังประตูตีเสมอไล่มาเป็น 1-1 สำเร็จ บอลเริ่มจาก อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ลากเข้ามาซัดด้วยขวาติดเซฟ นาบาส บอลไปเข้าทาง วาน-บิสซาก้า ตบคืนหลังมาให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด วิ่งมาอัดด้วยขวาแบบไม่จับ บอลพุ่งไปแฉลบ ดานิโล เปเรยร่า เปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเองไป เป็นเครดิตยิงประตูของ แรชฟอร์ด นาที 34 เปแอสเช ได้ลุ้นแซงขึ้นนำอีกหน หลัง คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ได้บอลในกรอบก่อนพยายามปั่นด้วยขวาแต่ยังดีที่ติดบล็อค วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ หลุดกรอบออกไป จบครึ่งแรก แมนฯ ยูไนเต็ด เสมอกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง 1-1 นาที 49 "ผีแดง" พลาดโอกาสขึ้นนำเปแอสเช หลังบอลสวนกลับ เอดินสัน คาวานี่ ชิ่งให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด หลุดเข้าไปก่อนปาดเลียดมาหน้าประตูให้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล วิ่งมายิงโล่งๆแต่เจ้าตัวดันบอลเหินคานออกไปอย่างน่าผิดหวัง นาที 57 โอกาสของเจ้าบ้านมาอีกครั้ง หลังบอลโต้กลับจากหน้าปากประตูตัวเอง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล แทงบอลให้ เอดินสัน คาวานี่ กระชากหลุดเข้าไปก่อนบรรจงชิพบอลข้ามหัว เคย์เลอร์ นาบาส แต่บอลไปชนคาน กระดอนมาเข้าทาง บรูโน่ แฟร์นันด์ส แปะสั้นๆเข้ากลางให้ มาร์กซิยาล วิ่งมาอัดด้วยขวาไปติดบล็อคอย่างน่าเสียดาย นาที 68 เปแอสเช โต้ขึ้นมาถึงหน้าปากประตูผีแดง เนย์มาร์ ไหลออกซ้ายให้ มิตเชล บัคเกอร์ ตัวสำรองวิ่งมาซัดไปติดขา เด เคอา ออกหลังหวุดหวิด และจากจังหวะเตะมุมในนาทีถัดมา เปแอสเช แซงขึ้นนำเจ้าบ้านอีกครั้งเป็น 2-1 บอลต่อเนื่องจากลูกเตะมุม อันเดร์ เอร์เรร่า ซัดจากแถวสองเข้าไป บอลชุลมุนก่อนมาเข้าทาง มาร์กินญอส ซึ่งอยู่ตำแหน่งไม่ล้ำหน้าจิ้มบอลผ่านตัว เด เคอา เข้าไป นาที 70 สถานการณ์ของ แมนฯยูไนเต็ด แย่ลงไปอีกเมื่อต้องมาเหลือแค่ 10 คน หลัง เฟร็ด มาโดนใบเหลืองที่สอง เมื่อเข้าไปเสียบ เอร์เรร่า จนกลายเป็นใบแดงถูกไล่ออกจากสนาม อีกทั้ง นาที 72 มาร์คัส แรชฟอร์ด มีอาการเจ็บอีกก่อนจะเล่นต่อไม่ไหวจน โซลชา ต้องส่ง ปอล ป็อกบา ลงมาเล่นแทน ช่วงทดเจ็บ นาที 90+1 เปแอสเช มาได้ประตูปิดกล่อง 3-1 จากจังหวะที่ ราฟินญ่า หลุดเข้าไปก่อนหักเข้ามาให้ เนย์มาร์ ยิงโล่งๆ ผ่าน เด เคอา เข้าไป และเป็นประตูที่สองในเกมนี้ของดาวเตะทีมชาติบราซิล จบเกม ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ถอนแค้นได้สำเร็จบุกมาคว้าชัยเหนือ แมนฯยูไนเต็ด 3-1 ทำให้มี 9 คะแนนเท่ากับ "ปีศาจแดง" และไลป์ซิก โดยเกมนัดสุดท้ายของต้องลุ้นเข้ารอบเพื่อหา 2 ทีมผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้าย รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม แมนฯ ยูไนเต็ด (4-3-1-2) : ดาบิด เด เคอา - อารอน วาน-บิสซาก้า (โอเดียน อิกาโล่ น.90), วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, อเล็กซ์ เตลลิส - เฟร็ด (ใบแดง น.70), สกอตต์ แม็คโทมิเน่ย์ - มาร์คัส แรชฟอร์ด (ปอล ป็อกบา น.74), บรูโน่ แฟร์นันด์ส, อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล (เมสัน กรีนวู้ด น.79) - เอดินสัน คาวานี่ (ดอนนี่ ฟาน เดอ เบ็ค น.79) เทรนเนอร์ : โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (4-3-3) : เคย์เลอร์ นาบาส - อเลสซานโดร ฟลอเรนซี่ (ธิโล เคห์เรอร์ น.78), มาร์กินญอส , อับบู ดิยัลโล่ (อิดริสซ่า เกย์ น.90), เพรสแนล คิมเพมเบ้ - เลอันโดร ปาเรเดส (อันเดร์ เอร์เรร่า น.65), มาร์โก แวร์รัตติ (ราฟินญ่า น.78), ดานิโล เปเรยร่า - คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้, มอยเซ่ คีน (มิตเชล บัคเกอร์ น.65), เนย์มาร์ เทรนเนอร์ : โธมัส ทูเคิ่ล ผู้ตัดสิน : ดานิเอเล่ ออร์ซาโต้ (อิตาลี) |
|