|
30
พ.ย. ปืนแพ้คารัง3นัดติด! วูล์ฟส์ฯเจ๋งบุกอัดอาร์เซน่อล-เซ่นฮิเมเนซสลบคาสนาม
"ปืนใหญ่" เล่นได้สุดห่วยแพ้คาบ้านในลีก 3 เกมติด ล่าสุดพ่ายให้ วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-2 โดยเกมต้องหยุดไปนานถึง 10 นาที หลังเกิดเหตุปะทะรุนแรงระหว่าง ดาวิด ลุยซ์ ที่ขึ้นโขกไปชนหัว ราอูล ฮิเมเนซ จนร่วงลงมาสลบคาสนามและต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยด่วน ซึ่งชัยชนะของทัพหมาป่าทำให้ขึ้นไปอยู่อันดับ 6 ส่วน อาร์เซน่อล แพ้ไป 5 นัดจากการเล่น 10 เกม รั้งอันดับ 14 ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่สุดท้ายของคืนวันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน เป็นการพบกันระหว่าง อาร์เซน่อล ทีมอันดับ 14 รับการมาเยือนของ วูล์ฟแฮมป์ตัน ทีมอันดับ 11 โดยผลงานในลีกล่าสุดของทั้งสองทีมนั้น "ปืนใหญ่" ไม่ชนะมา 2เกมติดแล้วล่าสุดเสมอกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด 0-0 ส่วน "หมาป่า" เปิดบ้านเสมอกับ เซาธ์แฮมป์ตัน 1-1 เจ้าถิ่นของ มิเกล อาร์เตต้า เกมนี้วาง ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมย็อง เป็นหน้าเป้าโดยมี บูกาโย่ ซาก้า และวิลเลี่ยน เดินเกมทางริมเส้น ส่วนทีมเยือน วูล์ฟแฮมป์ตัน ของ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ ใช้หน้าเดี่ยวอย่าง ราอูล ฮิเมเนซ และให้ อดามา ตราโอเร่,ดาเนี่ยล โปเดนซ์ และ เปโดร เนโต้ เป็นตัวสนับสนุน เริ่มเกมมาได้แค่ 5 นาที ผู้ตัดสินต้องเป่าหยุดเกมหลัง ดาวิด ลุยซ์ ขึ้นโขกปะทะกับ ราอูล ฮิเมเนซ อย่างรุนแรงจนทั้งสองคนร่วงลงมานอนกับพื้น ซึ่งแม้ ลุยซ์ จะลุกขึ้นมาได้แต่บริเวณหน้าผากนั้นมีอาการแตก ขณะที่ ราอูล ฮิเมเนซ ยังไม่สามารถลุกขึ้นมาได้แต่มีอาการตอบสนอง ซึ่งทางฝั่ง นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ ไม่เสี่ยงโดยได้ส่ง ฟาบิโอ ซิลวา หัวหอกดาวโรจน์ลงไปเล่นแทน ซึ่งหลังเกมหยุดนานไปกว่า 10 นาที เกมกลับมาเล่นกันต่อ โดย ดาวิด ลุยซ์ แนวรับของปืนใหญ่กลับมาเล่นต่อได้โดยมีผ้าพันศรีษะไว้ นาที 28 โอกาสเข้าทำหนแรกของทีมเยือนกลายเป็นประตูขึ้นนำทันที หลัง อดามา ตราโอเร่ กระชากบอลถึงเส้นหลัง ก่อนเปิดมาให้ เลอันเดร์ เดนดองเคอร์ โขกไปชนคานอย่างจัง ก่อนบอลจะมาเข้าทาง เปโดร เนโต้ ตามซ้ำเข้าไปไม่พลาดให้ วูล์ฟแฮมป์ตัน บุกมานำอาร์เซน่อล 1-0 นาที 30 คีแรน เทียร์นี่ย์ ครอสบอลมาในกรอบ 6 หลา บอลจะถึง โอบาเมย็อง เข้าชาร์ทอยู่แล้วแต่โดน คอเนอร์ เคาดี้ สะกิดเปลี่ยนทางออกหลังหวุดหวิด และจากจังหวะเตะมุมในนาทีถัดมา อาร์เซน่อล มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 สำเร็จ วิลเลี่ยน เล่นสั้นจากมุมธงจ่ายให้ เบเยริน ก่อนบอลจะมาที่ วิลเลี่ยน อีกครั้งครอสบอลโด่งไปหน้าประตูให้ กาเบรียล มากัลเญส หนีตัวประกบเทกตัวโขกบอลเข้าไป นาที 34 ทัพหมาป่าโหมบุกเข้ามาและเกือบพลิกนำอีกครั้งหลัง ชูเอา มูตินโญ่ เปิดเตะมุมมาเสาไกลให้ เลอันเดร์ เดนดองเคอร์ โขกบอลลงพื้นแต่ยังไปเข้ามือ แบร์นด์ เลโน่ ที่ตามรับไว้ไม่กระฉอก นาที 42 "หมาป่า" มาแซงขึ้นนำ 2-1 อีกครั้ง จากจังหวะที่ อดาม่า ตราโอเร่ พาบอลขึ้นมาถึง เปโดร เนโต้ เลี้ยงเข้าไปซัดบอลเต็มแรงจน แบร์นด์ เลโน่ รับไว้ไม่อยู่ก่อนกระฉอกมาเข้าทาง ดาเนี่ยล โปเดนซ์ ตามซ้ำเข้าไปไม่เหลือ เข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 10 นาที อาร์เซน่อล ได้ลุ้นตีเสมอ นาที 45+1 หลัง แอร์-เอเมริค โอบาเมย็อง หลุดเข้าไปซัดมุมแคบแต่บอลเบาไปก่อนไปเข้ามือ รุย ปาตริซิโอ จบครึ่งแรก อาร์เซน่อล ตามหลัง วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-2 ครึ่งหลัง มิเกล อาร์เตต้า เปลี่ยนตัวคนแรกถอดเอา ดาวิด ลุยซ์ ออกก่อนส่ง ร็อบ โฮลดิ้งลงเล่นแทน นาที 59 เบเยริน ทำเสียบอลโดน ดาเนี่ยล โปเดนซ์ แย่งบอลก่อนกระชากเข้าไปในเขตโทษล็อคหนี ร็อบ โฮลดิ้ง แต่จังหวะซัดด้วยซ้ายไปติด เบเยริน ที่แก้ตัวตามมาบล็อคไว้ได้ทัน นาที 65 ปืนใหญ่ พลาดโอกาสตีเสมอหลัง วิลเลี่ยน ไหลไปที่ว่างให้ ซาก้า ถึงเส้นหลังก่อนครอสไปเข้าหัว ร็อบ โฮลดิ้ง โขกเหินคานออกไปชนิดหมดลุ้น เจ้าบ้านยังคงใช้โอกาสค่อนข้างเปลือง นาที 74 บูกาโย่ ซาก้า ครอสมาหน้าประตูบอลเลย โอบาเมย็อง ก่อนมาเข้าทาง รีสส์ เนลเซ่น ซัดเหินคานออกไป จยเกม อาร์เซน่อล พ่ายคาบ้านให้ วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-2 "หมาป่า" เก็บสามแต้มกระโดดขึ้นอันดับ 6 ของตารางทันทีหลังมี 17 คะแนน ส่วน "ปืนใหญ่" แพ้เกมที่ 5 ในลีก มี 13 คะแนนอยู่อันดับสุดท้าย รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม อาร์เซน่อล (4-2-3-1) : แบร์นด์ เลโน่ - เอ็คตอร์ เบเยริน, ดาวิด ลุยซ์ (ร็อบ โฮลดิ้ง น.46), กาเบรียล มากัลเญส, คีแรน เทียร์นี่ย์ - ดานี่ เซบายอส, กรานิต ชาคา (อเลซ็องดร์ ลากาแซตต์ น.81) - บูกาโย่ ซาก้า, โจ วิลล็อค, วิลเลี่ยน (รีสส์ เนลเซ่น น.65) - ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมย็อง ผู้จัดการทีม : มิเกล อาร์เตต้า วูล์ฟแฮมป์ตัน (4-2-3-1) : รุย ปาตริซิโอ - เนลซอน เซเมโด้, วิลลี่ โบลี่, คอเนอร์ เคาดี้, แฟร์นานโด มาร์ซาล - เลอันเดร์ เดนดองเคอร์, ชูเอา มูตินโญ่ - อดามา ตราโอเร่, ดาเนี่ยล โปเดนซ์ (รูเบน ดิอาซ น.70), เปโดร เนโต้ - ราอูล ฮิเมเนซ (ฟาบิโอ ซิลวา น.15) (แม็กซ์ คิลแมน น.78) ผู้จัดการทีม : นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ ผู้ตัดสิน : ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ |
|