|
27
พ.ย. "วินิซิอุส" ยิง2จ่าย1!สเปอร์สเปิดรังยำใหญ่ใส่ลูโดโกเร็ตส์ไม่ยั้งศึกยูโรปาลีก
คาร์ลอส วินิซิอุส โชว์ฟอร์มสุดร้อนแรงยิงคนเดียวสองตุงแถมจ่ายให้เพื่อนหวดอีกตุงช่วย "ไก่เดือยทอง" สเปอร์ส เปิดบ้านไล่ถลุง ลูโดโกเร็ตส์ 4-0 คว้าสามแต้มสุดสำคัญเอาไว้ได้ ในศึกฟุตบอล ยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เจ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 พ.ย. ที่ผ่านมา ฟุตบอลยูฟ่า ยูโรปา ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม เจ วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน 2563 สเปอร์ส (อังกฤษ) 4 - 0 ลูโดโกเร็ตส์ (บัลแกเรีย) สนาม : ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม ก่อนเริ่มการแข่งขันได้มีการยืนไว้อาลัยแก่ ดีเอโก้ มาราโดน่า ตำนานนักเตะทีมชาติอาร์เจนตินา และ นาโปลี ผู้ล่วงลับในวัย 60 ปี เกมเคลื่อนมาถึงนาทีที่ 7 สเปอร์ส ได้ลูกฟรีคิกระยะประมาณ 30 หลากลางประตู แกเร็ธ เบล รับหน้าที่สังหารโดยวิ่งเข้ามาหวดไปติดกำแพงแต่ผู้ตัดสินเป่านกหวีดสเปอร์สได้เตะใหม่อีกครั้งเหตุ เคลาดิอู เคเซรู แข้งลูโดโกเร็ตส์กระโดดขึ้นบล็อกแล้วกางมือออกมาป้องกันแถมโดนใบเหลืองในจังหวะนี้ก่อนที่ แกเร็ธ เบล จะรับหน้าที่ยิงอีกครั้งบอลข้ามกำแพงหยุดออกข้างเสาไปอย่างน่าเสียดาย นาทีที่ 10 แกเร็ธ เบล ได้ขึ้นโขกจากลูกเปิดทางด้านข้างแต่ดูเหมือนจะโหนโหม่งทำให้บอลหลุดออกหลังไปไม่ได้ลุ้น นาทีต่อมาสเปอร์สได้ลูกฟรีคิกอีกครั้งระยะประมาณ 25 หลากลางประตูจากการที่ ต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล่ ถูก สเตฟ็อง บาฌิ ตัดฟาวน์ และเป็น แกเร็ธ เบล เจ้าเก่ารับหน้าที่ยิงเหมือนเคยบอลพุ่งไปติดกำแพงแข้งลูโดโกเร็ตส์หลุดออกหลังไปอีกครั้ง นาทีที่ 13 ยังคงเป็นทัพไก่เดือยทองที่โหมเกมบุกหวังขุดสกอร์แรก ลูคัส มูร่า เปิดบอลโด่งจากฝั่งขวาไปให้ คาร์ลอส วินิซิอุส ได้พักบอลลงแล้วหมุนตัวซัดทันทีแต่ดูเหมือนจะโดนไม่ดีบอลเหินข้ามคานออกไปอย่างน่าเสียดาย นาทีที่ 14 เดเล่ อัลลี่ ได้ตั้งป้อมส่องไกลกลางกรอบเขตโทษระยะประมาณ 25 หลาแบบไร้ตัวประกบ แต่เจ้าตัวกดไม่ลงบอลหลุดออกหลังไปไกล แต่แล้วความพยายามของสเปอร์สก็มาประสบความสำเร็จทำประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้นาทีที่ 16 จากจังหวะพยายามส่งบอลของ เดเล่ อัลลี่ แต่ไปติดขาแข้งทีมเยือนที่พยายามยื่นเท้าเข้ามาตัดบอลแต่เหมือนโชคจะเข้าข้างเจ้าถิ่นบอลกระดอนไปเข้าทาง เคลาดิอู เคเซรู ได้หลุดเดี่ยวเข้าไปเลือกมุมยิงเข้าไปไม่เหลือ "ทัพไก่เดือยทอง" ยังคงเดินเกมบุกอย่างต่อเนื่องนาทีที่ 21 เกือบได้ประตูที่สอง เดเล่ อัลลี่ จิ้มบอลให้ คาร์ลอส วินิซิอุส ตรงเส้นกรอบเขตโทษก่อนส่งย้อนคืนมาให้ แกเร็ธ เบล ได้บรรจงปั่นเน้นๆ แต่น้ำหนักยังแรงเกินไปบอลหลุดเฉียดคานไม่ถึงหลา ผ่านพ้นมาถึงนาทีที่ 34 สเปอร์สนำห่าง 2-0 เริ่มจากจังหวะใช้ความสามารถเฉพาะตัวของ ต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล่ ที่กระชากพากบอลแหวกและหลบผู้เล่นลูโดโกเร็ตส์ถึง 2 คนก่อนจะซัดหักข้อแถวกรอบเขตโทษระยะประมาณ 20 หลาบอลพุ่งทำท่าจะเสียบมุมแต่ยังไม่ผ่านมือ ปลาเมน อิลิเยฟ พุ่งปัดไว้ได้แต่บอลดันกระดอนไปเข้าทาง เดเล่ อัลลี่ ที่ตามมาเก็บแล้วหักข้อส่งต่อให้ คาร์ลอส วินิซิอุส ยิงเข้าไปจ่อๆ ไม่พลาด และนับเป็นประตูที่สองในเกมนี้ของ วินิซิอุส อีกด้วย นาที่ที่ 41 สเปอร์สที่โหมเกมบุกต่อเนื่องได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา แกเร็ธ เบล เปิดโด่งแรงเลยมาถึงเสาสอง แมตต์ โดเฮอร์ตี้ พยายามยื่นเท้าไปแหย่แต่แค่โดนปลายหัวเกือกบอลหลุดออกหลังไปหมดลุ้น จบครึ่งแรก สเปอร์ส ที่แทบพับสนามบุกแต่ฝ่ายเดียวเปิดบ้านนำ ลูโดโกเร็ตส์ 2-0 มาลุ้นกันต่อในครึ่งเวลาหลังเกมเคลื่อนมาถึงนาทีที่ 49 แฮร์รี่ วิงส์ เปิดบอลโด่งยัดเข้าไปในเขตโทษลูโดโกเร็ตส์แล้วเป็น เดเล่ อัลลี่ ที่โหม่งแต่น้ำหนักเบาเกินไปบอลลอยไปเข้ามือ ปลาเมน อิลิเยฟ รับไว้ไร้ปัญหา นาทีที่ 55 ลูโดโกเร็ตส์ ได้ฟรีคิกทางฝั่งขวา คิริล เดสโปดอฟ เปิดบอลโด่งไปทางเสาไกลแต่ก็ไม่มีเพื่อนร่วมทีมสอดขึ้นไปรับส่งผลให้บอลค่อยๆ ไหลออกหลังไปไม่ได้ลุ้น สองนาทีถัดมากสเปอร์สเกือบวกประตูที่สาม แมตต์ โดเฮอร์ตี้ โขกย้อนตั้งไปให้ แกเร็ธ เบล ได้เติมขึ้นมาแปจ่อๆ ทางเสาไกลแต่ไปติดเซฟของ ปลาเมน อิลิเยฟ ที่ออกมาปิดมุมดีและใช้มือปัดออกไปได้อย่างหวุดหวิด แต่แล้วนาทีที่ 63 สเปอร์ส นำห่างเป็น 3-0 จากลูกยิงมหัศจรรย์ของ แฮร์รี่ วิงส์ โดยเป็นจังหวะที่สเปอร์สได้ลูกทุ่มทางฝั่งซ้าย เบน เดวิส ทุ่มให้ แฮร์รี่ วิงส์ ที่เหลือบตามองเห็นว่าผู้รักษาประตูทีมเยือนออกมาห่างจากประตูพอสมควรจงตัดสินใจยิงไกลระยะเฉียด 40 หลาบอลพุ่งตรงเข้ากรอบประตูก่อนจะเสยคานบนมุดลงเข้าไปอย่างสวยงามทำเอา ปลาเมน อิลิเยฟ นายด่านลูโดโกเร็ตส์ ถึงกับเสียท่าลงไปนอนกองที่ก้นตาข่ายเพราะถอยไปรับบอลไม่ทัน นาทีที่ 65 ยังคงเป็นสเปอร์สที่พับสนามบุกแทบจะฝ่ายเดียวและได้ลุ้นอีกครั้ง เดเล่ อัลลี่ หลุดเข้าไปกดด้วยขวาทางฝั่งขวาแต่บอลไซต์ปลายหลุดเข้าข้างตาข่ายไปทำเอาเจ้าตัวถึงกับออกอาการสุดเสียดาย กระทั้งนาทีที่ 73 สเปอร์ส ได้ประตูนำขาด 4-0 จากจังหวะทำเกมสุดสวย เดเล่ อัลลี่ เปิดบอลจากด้านข้างฝั่งขวายัดไปให้ คาร์ลอส วินิซิอุส ที่ดึงบอลลงก่อนจะหมุนตัวส่งต่อไปให้ ลูคัส มูร่า ได้เลือกมุมแประยะไม่ถึง 10 หลา มูร่า ยิงสวนทางเข้าเสาไกลไม่เหลือซาก นาทีที่ 85 สเปอร์ส ยังมีโอกาสผลิตสกอร์ที่ห้า ฮาร์วี่ย์ ไวท์ ได้หวดตรงเส้นกรอบเขตโทษแต่บอลเจ้ากรรมดันไปเข้าข้างตาข่าย เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มจบเกม สเปอร์สเปิดบ้านไล่ยำใหญ่ใส่ ลูโดโกเร็ตส์ 4-0 เก็บสามแต้มสุดสำคัญเอาไว้ได้ รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม สเปอร์ส (4-2-3-1) : โจ ฮาร์ท (อัลฟี่ ไวท์แมน น.82) - ดาวินซอน ซานเชซ, จาเฟ็ด ทังกังก้า, แมตต์ โดเฮอร์ตี้, เบน เดวิส - ต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล่ (ปิแอร์ เอมิล ฮอยจ์เบิร์ก น.61), แฮร์รี่ วิงส์ - เดเล่ อัลลี่ (ฮาร์วี่ย์ ไวท์ น.82), ลูคัส มูร่า (เดน สการ์เล็ตต์ น.82), แกเร็ธ เบล (แจ็ค คล้าร์ก น.68) - คาร์ลอส วินิซิอุส เทรนเนอร์ : โชเซ่ มูรินโญ่ ลูโดโกเร็ตส์ (5-4-1) : ปลาเมน อิลิเยฟ - คอสมิน โมติ, โอลิวิเย่ร์ แวร์กดง, ดรากอส กริกอเร่, อันตัน เนดยัลคอฟ, จอร์แดน อิโกโก้ - สเตฟ็อง บาฌิ (อิวาน โยร์ดานอฟ น.90), อนิเคท แอนเดรียนานเตเนียน่า (เคาลี่ น.68), โดมินิค ยานคอฟ (ดิมิทาร์ มิทคอฟ), คิริล เดสโปดอฟ (เบอร์นาร์ด เต็คเปตีย์ น.64), เคลาดิอู เคเซรู (มาวิส ทีชิโบต้า น.68) เทรนเนอร์ : สตานิสลาฟ เกนเชฟ ผู้ตัดสิน : จอร์จี้ ครูอาชวิลี่ (จอร์เจีย) |
|