|
27
ธ.ค. แมนซิตี้แย่ไม่เลิกพ่าย3ใน4เกม! บุกแพ้เลสเตอร์ โดนสเปอร์สแซงร่วงที่ 3
เกิดอะไรขึ้นกับ "เรือใบสีฟ้า" หลังต้องพบกับความพ่ายแพ้เป็นัดที่ 3 ในรอบ 4 เกม หลังล่าสุดยังเล่นได้แย่สุดๆ บุกไปพ่ายเจ้าถิ่นเลสเตอร์ ซิตี้ 1-2 แถม ฟาเบียน เดลฟ์ ยังโดนใบแดงไล่ออกท้ายเกม ส่งผลให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ร่วงไปอยู่อันดับ 3 หลังสเปอร์สซิวชัยขึ้นแซงรองจ่าฝูงแทน ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดบ็อกซิ่ง เดย์ คืนวันพุธที่ผ่านมา สนาม: คิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม, (เลสเตอร์เชียร์) "จิ้งจอกสีน้ำเงิน" เลสเตอร์ ซิตี้ เพิ่งบุกไปเชือด เชลซี มาได้อย่างยอดเยี่ยม 1-0 ในลีกนัดล่าสุด โดยเกมนี้ไม่มี ดาเนียล อมาร์ตีย์ กองกลางตัวรับวัย 24 ปี ชาวกานา ที่มีอาการบาดเจ็บข้อเท้า ต้องพักยาว สามประสานแดนหน้าส่ง มาร์ค อัลไบรท์ตัน, เจมี่ วาร์ดี้ และ เจมส์ แม็ดดิสัน ลงล่าตาข่าย ทางด้าน "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แชมป์เก่าเพิ่งพลาดท่าเปิดบ้านพ่ายให้กับ คริสตัล พาเลซ แบบพลิกล็อคด้วยสกอร์ 2-3 ต้องขาดผู้เล่นหลายรายทีเดียวไล่ตั้งแต่ แฟร์นานดินโญ่, แว็งซ็องต์ ก็อมปานี, เคลาดิโอ บราโว่ และ แบ็งฌาแม็ง เมนดี้ ที่ไม่สมบูรณ์ ในแดนกลางได้ เควิน เดอ บรอยน์ กลับมาลงเล่นเป็นตัวจริงผนึกกำลังร่วมกับ อิลคาย กุนโดกัน และ แบร์นาโด้ ซิลวา ส่วนแดนหน้าได้ เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" ดาวยิงตัวเก่งชาวอาร์เจนไตน์ กลับมาล่าตาข่าย พร้อมได้ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง กับ เลรอย ซาเน่ ทำเกมตามริมเส้นทั้งสองข้าง ออกสตาร์ทครึ่งแรกมาได้แค่ 14 นาที แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นนำก่อน 1-0 อย่างรวดเร็วจากจังหวะที่ เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์ จ่ายกระแทกขึ้นหน้าให้ เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" แตะบอลขึ้นหน้าให้ แบร์นาร์โด ซิลวา หลุดเดี่ยวขึ้นไปจับบอลแล้วยิงด้วยซ้ายจากกลางกรอบเขตโทษ บอลเสียบมุมขวาเข้าไป ห้านาทีต่อมา เลสเตอร์ ซิตี้ ตามตีเสมอ 1-1 ได้ทันควัน เมื่อ เจมี่ วาร์ดี้ โยนจากทางซ้ายข้ามไปเสาสองให้ มาร์ค อัลไบรท์ตัน วิ่งสอดมาโหม่งจ่อๆ กดลงพื้นบอลย้อนศรเสียบเสาแรกเข้าไปอย่างงดงาม ทัพเรือใบ ได้ลุ้นในนาทีที่ 23 เมื่อ แบร์นาร์โด ซิลวา จ่ายให้กับ เควิน เดอ บรอยน์ ซัดด้วยขวาจากนอกเขตโทษ แต่ไม่ผ่านมือของ แคสเปอร์ ชไมเคิล นายทวารเลสเตอร์ เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 39 โอกาสของเลสเตอร์ เมื่อ เจมี่ วาร์ดี้ กดด้วยซ้ายในกรอบเขตโทษด้านซ้ายติดเซฟของ เอแดร์ซง นายทวารชาวบราซิลของแมนฯซิตี้ นาทีต่อมา เจ้าถิ่นได้ลุ้นอีก มาร์ค อัลไบรท์ตัน จ่ายให้กับ เจมส์ แม็ดดิสัน ซัดด้วยซ้ายจากทางกรอบเขตโทษด้านซ้ายไม่ผ่านมือของ เอแดร์ซง นายด่านของเรือใบสีฟ้า หมดครึ่งแรกเสมอกันอยู่ 1-1 กลับมาบู๊กันต่อในครึ่งเวลาหลังได้ 7 นาที เลสเตอร์ ซิตี้ ได้โอกาสก่อน เมื่อ เจมส์ แม็ดดิสัน กดด้วยขวาจากนอกเขตโทษ บอลเฉี่ยวเสาขวาไป กระเถิบมานาทีที่ 68 แมนฯซิตี้ ได้โอกาสลุ้นจากจังหวะที่ อิลคาย กุนโดกัน จ่ายให้กับ เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" หวดด้วยซ้ายจากนอกเขตโทษ บอลไม่ตรงกรอบ จากนั้นนาทีที่ 73 เรือใบสีฟ้า ได้ลุ้นอีกครั้ง เมื่อ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง จ่ายให้กับ ฟาเบียน เดลฟ์ สับด้วยขวาจากนอกเขตโทษ ไปติดเซฟของ แคสเปอร์ ชไมเคิล นายทวารของเลสเตอร์ ท้ายเกมนาทีที่ 81 เลสเตอร์ ซิตี้ พลิกแซง 2-1 เมื่อได้ลูกเตะมุมทางด้านขวา มาร์ค อัลไบรท์ตัน โยนเข้ากลางมาที่เสาแรก เลรอย ซาเน่ โหม่งสกัดมาเข้าทางของ ริคาร์โด้ เปเรยร่า แบ็คขวาที่เติมมาสูง จับแล้วหวดด้วยขวาจากบริเวณริมเส้นกรอบเขตโทษด้านขวา บอลพุ่งแหวกอากาศเสียบเสาซ้ายเข้าไปอย่างสวยงาม ถัดมาสองนาที แมนฯซิตี้ ส่ง ริยาด มาห์เรซ ปีกตัวเก่งลงมาเจอกับทีมเก่า แล้วถอด แบร์นาร์โด ซิลวา ออก ท้ายเกมนาทีที่ 89 แมนฯซิตี้ เหลือผู้เล่นแค่ 10 คน เมื่อ ฟาเบียน เดลฟ์ แบ็คซ้ายไปเสียบสกัดใส่ ริคาร์โด้ เปเรยร่า จนคว่ำ ผู้ตัดสินไม่รอช้า ชักใบแดงไล่ เดลฟ์ ออกไปทันที เวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันไม่ได้อีก จบเกม เลสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านเชือด แมนฯซิตี้ ไปสนุก 2-1 ส่งผลให้ เรือใบสีฟ้า ปราชัยสองนัดติดต่อกัน ตกมาอยู่อันดับสามของตารางคะแนน มีแต้มตามหลัง ลิเวอร์พูล จ่าฝูงถึง 7 คะแนนแล้ว รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม เลสเตอร์: แคสเปอร์ ชไมเคิล - ริคาร์โด้ เปเรยร่า, เวส มอร์แกน (กัปตันทีม), แฮร์รี่ แม็คไกวร์, เบน ชิลเวลล์ - ฮัมซ่า ชูดิวรี่ (เดมาไร เกรย์ น.63), น็อมปาลิส เมนดี้, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ - มาร์ค อัลไบรท์ตัน, เจมี่ วาร์ดี้ (ชินจิ โอกาซากิ น.88), เจมส์ แม็ดดิสัน (แดนนี่ ซิมป์สัน น.78) สำรองไม่ได้ใช้: แดนนี่ วอร์ด (ผู้รักษาประตู) - จอนนี่ อีแวนส์, บีเซนเต้ อีบอร์ร่า, ราชิด เกซซาล แมนฯซิตี้: เอแดร์ซง - ดานีโล่, จอห์น สโตนส์, เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์, ฟาเบียน เดลฟ์ - เควิน เดอ บรอยน์ (ดาบิด ซิลบา น.70), อิลคาย กุนโดกัน, แบร์นาโด ซิลวา (ริยาด มาห์เรซ น.83) - ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน", เลรอย ซาเน่ สำรองไม่ได้ใช้: อารียาเน็ต มูริช (ผู้รักษาประตู) - ไคล์ วอล์คเกอร์, โอเล็คซานเดอร์ ซินเชนโก้, ฟิล โฟเด้น, นิโคลัส โอตาเมนดี้ ใบแดง: ฟาเบียน เดลฟ์ น.89 ผู้ตัดสิน: ไมค์ ดีน |
|