|
22
พ.ย. ซนซัดเบิกร่อง! มูยิ้มร่า-สเปอร์สแกร่งน็อคแมนซิตี้แซงขึ้นนำจ่าฝูง
"ไก่เดือยทอง" ยังเดินหน้าคว้าชัย 4 เกมติดแถมทำสถิติไร้พ่ายในลีกเป็นเกมที่ 8 ติดต่อกันหลังเกมนี้เล่นได้ยอดเยี่ยมเปิดบ้านเอาชนะ แมนฯซิตี้ แบบสนุก 2-0 ซน ฮึง-มิน ซัดเม็ดแรงขึ้นนำดาวซัลโวลีกที่ 9 ประตู ก่อนที่ โจวานนี่ โล เซลโซ่ ที่ซัดปิดท้ายให้ทีมคว้าสามแต้ม แซงขึ้นไปรั้งจ่าฝูงของตารางชั่วคราว ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา สนาม : ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยม เกมบิ๊กแมตช์ พรีเมียร์ลีก เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา สเปอร์ส ทีมอันดับ 3 เปิดบ้านรับมือ แมนฯซิตี้ ทีมอันดับ 10 โดยฟอร์มล่าสุดนั้น "ไก่เดือยทอง" ฟอร์มยอดเยี่ยมไม่แพ้ในลีกมา 7 เกมติด นัดล่าสุดบุกไปเชือด เวสต์บรอมวิช 1-0 ขณะที่ "เรือใบสีฟ้า" ฟอร์มล่าสุดเปิดรังเจ๊ากับแชมป์เก่า ลิเวอร์พูล 1-1 โชเซ่ มูรินโญ่ เกมนี้ใช้ แฮร์รี่ เคน เป็นหน้าเป้า โดยมีสามประสานอย่าง ซน ฮึง-มิน, ต็องกี เอ็นดอมเบเล่ และ สตีเฟ่น เบิร์กไวน์ สนับสนุน ขณะที่ฝั่ง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จัดสามประสานเป็น ริยาด์ มาห์เรซ, กาเบรียล เชซุส และเฟร์ราน ตอร์เรส โดยมีเควิน เดอ บรอยน์ ปั้นเกม ครึ่งแรกเปิดฉากมาได้ไม่ถึง 2 นาที "เรือใบสีฟ้า" ได้ทักทายก่อนเลยหลัง เฟร์ราน ตอร์เรส ที่ฟอร์มกำลังคึกลากบอลตัดเข้าหน้ากรอบก่อนจะซัดด้วยซ้าย แต่บอลพุ่งไปเข้ามือ อูโก้ โยริส กระนั้น โอกาสยิงหนแรกของ สเปอร์ส กลายเป็นชิงขึ้นนำทัพเรือใบ 1-0 ทันที จากจังหวะเล่นฟรีคิกเร็วกลางสนาม ต็องกี เอ็นดอมเบเล่ ตักบอลข้ามแนวรับให้ ซน ฮึง-มิน หลุดเข้าไปก่อนจับบอลยิงเลียดลอดขา เอแดร์ซอน โมราเอส เข้าไป เป็นประตูที่ 9 ของหัวหอกทีมชาติเกาหลีใต้ ขึ้นนำดาวซัลโวเดี่ยวๆ นาทีที่ 9 ทีมเยือนพลาดโอกาสตีเสมอ หลัง เควิน เดอ บรอยน์ ได้ซัดจ่อๆไม่ถึง 6 หลาแต่บอลดันพุ่งไปชน กาเบรียล เชซุส ที่อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าอย่างน่าเสียดาย นาที 14 ซน ฮึง-มิน ปาดไปหน้ากรอบให้ แฮร์รี่ เคน ซัดบอลเข้าไปตุงตาข่าย แต่ไลน์แมนยกธงล้ำหน้า ซึ่งผู้ตัดสินเช็กจากวีเออาร์อีกครั้งก่อนจะยืนยันเป็นจังหวะล้ำหน้าของ เคน อีกนาทีถัดมา แมนฯซิตี้ ได้ลุ้นจากฟรีคิก เควิน เดอ บรอยน์ เปิดโค้งไปหน้ากรอบให้ โรดรี้ ขึ้นเทกโขกเต็มหัวแต่บอลยังไปตรงตัว อูโก้ โยริส นาที 27 อายเมอริก ลาป๊อร์ก รับบอลจาก กาเบรียล เชซุส ก่อนซัดเสียบมุมเข้าประตูไปแล้ว ทว่าแข้งเจ้าถิ่นพยายามฟ้องว่าเป็นจังหวะแฮนด์บอลของ กาเบรียล เชซุส ก่อนที่ ไมค์ ดีน จะวิ่งไปดูภาพจากจอ VAR ข้างสนามก่อนจะเป่าไม่ให้ประตูแก่ทีมเยือน เนื่องจากบอลไปโดนแขนของ กาเบรียล เชซุส ก่อนทำให้สกอร์ยังเป็น สเปอร์ส นำอยู่ 1-0 เหมือนเดิม นาที 40 โอกาสได้ลุ้นของ ซิตี้ อีกหน เฟร์ราน ตอร์เรส เลี้ยงเข้าไปซัดหน้ากรอบก่อนเจ้าตัวจะล้มลงไป ริยาด มาห์เรซ เก็บตกได้ก่อนยกบอลหลบไปโดนแข้งเจ้าถิ่น บอลปลิ้นมาเข้าทาง กาเบรียล เชซุส ซัดด้วยขวาเหินคานออกไปได้เสียว จบครึ่งแรก สเปอร์ส ขึ้นนำ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 ครึ่งหลัง นาที 51 แมนฯซิตี้ ได้ลุ้นตีเสมอหลัง โรดรี้ จ่ายขึ้นหน้าให้ เควิน เดอ บรอยน์ ซัดหน้ากรอบเขตโทษกว่า 20 หลาบอลพุ่งเลียดหลุดกรอบออกไปแบบได้เสียว นาที 65 มูรินโญ่ เปลี่ยนตัวคนแรกส่ง โจวานนี่ โล เซลโซ่ ลงมาเล่นแทน ตองกี เอ็นดอมเบเล่ และไม่ถึงนาทีถัดมา สเปอร์ส สวนกลับมาแล้วเป็นประตูนำห่างเรือใบสีฟ้า 2-0 ทันที บอลโต้กลับจาก โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ ฝากบอลเข้ากลางให้ แฮร์รี่ เคน กระชากขึ้นมาก่อนไหลออกซ้ายให้ โจวานนี่ โล เซลโซ่ ที่เพิ่งลงมาไม่กี่วินาทีสัมพัสบอลแรกหลุดเข้าไปซัดลอดขา เอแดร์ซอน ส่งบอลตุงตาข่าย นาที 83 บอลเซ็ตพีซของ "เรือใบสีฟ้า" เดอ บรอยน์ เปิดเข้ามา ราฮีม สเตอร์ลิง เก็บตกได้ในกรอบก่อนซัดด้วยซ้ายหลุดกรอบออกไป ช่วงทดเจ็บ นาที 90+1 เควิน เดอ บรอยน์ เปิดฟรีคิกเข้ามาให้ รูเบน ดิอาส โขกเน้นๆ แต่บอลยังโดน อูโก้ โยริส เซฟออกไปอย่างน่าเหลือเชื่อ จบเกม สเปอร์ส เอาชนะ แมนฯซิตี้ 2-0 คว้าสามแต้มแซงขึ้นไปรั้งจ่าฝูงก่อน รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม สเปอร์ส (4-2-3-1) : อูโก้ โยริส - แซร์ช โอริเย่ร์, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ (โจ โรดอน น.81), เอริก ดายเออร์, เซร์คิโอ เรกีล่อน - ปิแอร์ เอมิล ฮอยจ์เบิร์ก, มุสซ่า ซิสโซโก้ - ซน ฮึง-มิน, ต็องกี เอ็นดอมเบเล่ (โจวานนี่ โล เซลโซ่ น.65), สตีเฟ่น เบิร์กไวน์ (ลูคัส มูร่า น.73) - แฮร์รี่ เคน ผู้จัดการทีม : โชเซ่ มูรินโญ่ แมนฯซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส - ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, อายเมอริก ลาป๊อร์ก, ชูเอา กันเซโล่ - แบร์นาร์โด้ ซิลวา (ฟิล โฟเด้น น.72), โรดรี้, เควิน เดอ บรอยน์- เฟร์ราน ตอร์เรส, กาเบรียล เชซุส, ริยาด มาห์เรซ (ราฮีม สเตอร์ลิง น.72) ผู้จัดการทีม : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้ตัดสิน : ไมค์ ดีน |
|