|
13
พ.ย. "แม็กไกวร์โขกเปิด - คัลเวิร์ท-ลูวินยิงปิด"!อังกฤษโชว์แจ่มอุ่นอัดไอร์แลนด์นิ่มเกือก
แฮร์รี่ แม็กไกวร์ โหม่งเบิกร่อง ขณะที่ โดมินิค คัลเวิร์ท-ลูวิน ซัดจุดโทษปิดฝากล่องช่วย "สิงโตคำราม" อังกฤษ ที่โชว์ฟอร์มสุดแจ่มเปิดบ้านไล่อัด ไอร์แลนด์ ผู้มาเยือนไปอย่างสบายเท้า 3-0 ในศึกฟุตบอล กระชับมิตรทีมชาติ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 พ.ย. ที่ผ่านมา ฟุตบอล กระชับมิตรทีมชาติ วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน 2563 อังกฤษ 3 - 0 ไอร์แลนด์ สนาม : เวมบลีย์ สเตเดี้ยม เริ่มเกมครึ่งเวลาแรกมาถึงนาทีที่ 12 ไอร์แลนด์ ได้ลูกฟรีคิกบริเวณมุมกรอบเขตโทษฝั่งขวา คอเนอร์ เฮาริฮาน เปิดบอลโด่งด้วยเท้าซ้ายยัดเข้าไปในเขตโทษอังกฤษ นิค โพ๊พ นายด่านเจ้าถิ่นโดดออกมาชกบอลไว้ได้แต่ลูกนี้มีสัญญาณจากผู้ช่วยผู้ตัดสินให้เป็นลูกล้ำหน้าแข้งไอร์แลนด์ นาทีที่ 17 ทัพสิงโตคำรามเกือบได้ประตูขึ้นนำ บูคาโย่ ซาก้า ได้ซัดจ่อๆ ในกรอบเขตโทษแต่ไม่ผ่าน ดาร์เรน แรนดอล์ฟ ผู้รักษาประตูไอร์แลนด์ที่ปิดมุมดีป้องกันไว้ได้ แต่แล้วอังกฤษก็มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ในนาทีถัดมาจากจังหวะเปิดบอลทางฝั่งขวาบริเวณมุมกรอบเขตโทษของ แฮร์รี่ วิงค์ส เลยไปเข้าหัว แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่เติมขึ้นมาเบียดแย้งโหม่งเอาชนะ เชน ดัฟฟี่ กัปตันทีมไอร์แลนด์บอลพุ่งเสียบเบียดเสาเข้าไปอย่างสวยงาม นาทีที่ 27 อังกฤษ หวิดได้ประตูที่สองจากลูกเตะมุมทางฝั่งขวา เมสัน เมาท์ เปิดบอลมาเข้าหัว แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่ได้โขกเต็มๆ ระยะไม่ถึง 10 หลาแต่บอลพุ่งไปตรงตัว ดาร์เรน แรนดอล์ฟ ที่ผวาปัดออกไปได้เส้นยาแดงผ่าแปด ทัพสิงโตคำรามได้เฮลั่นอีกครั้งนาทีที่ 31 เมื่อออกนำห่าง 2-0 แจ็ค กรีลิช ส่งบอลให้ เจดอน ซานโช่ ทางฝั่งซ้ายก่อนที่ ซานโช่ จะโยกหลอกแล้วหวดเลียดด้วยเท้าขวาบอลพุ่งตรงเสียบมุมเบียดโคนเสาไกลเข้าไปอย่างสุดคม แรนดอล์ฟ นายด่านไอร์แลนด์พยายามพุ่งรับสุดปลายมือแต่ไม่ทัน เจ้าถิ่นยังคงทำเกมบุกอย่างต่อเนื่อง นาทีที่ 38 แจ็ค กรีลิช ส่งบอลให้ เจดอน ซานโช่ ทางฝั่งขวาก่อนที่ ซานโช่ จะโชว์ความเร็วกระชากพาบอลตัดขวางสนามจี้เข้าไปในกรอบเขตโทษแล้วตัดสินใจหวดด้วยเท้าซ้ายแต่กลับไปติด ไซรัส คริสตี้ ที่ตามมาล้มตัวบล็อกบอลเอาไว้ได้อย่างหวุดหวิดง นาทีที่ 45+2 เจดอน ซานโช่ เปิดบอลโด่งจากทางฝั่งขวายัดเข้าไปในกรอบเขตโทษแต่โดน ดาร์เรน แรนดอล์ฟ ชกบอลออกมาเข้าทาง เมสัน เมาท์ ได้ตั้งป้อมซัดเต็มๆ แต่ไปติดแข้งทีมเยือนก่อนกระดอนมาเข้าทาง แฮร์รี่ วิงค์ส ได้หวดซ้ำดาบสองอีกครั้งแต่ก็ได้แค่เสียวบอลหลุดออกข้างเสาไปอย่างน่าเสียดาย จบครึ่งแรกทีมชาติอังกฤษที่ครองเกมเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัดทำประตูนำ ไอร์แลนด์ อยู่ 2-0 มาลุ้นกันต่อในครึ่งเวลาหลัง อังกฤษเปลี่ยนตัวผู้รักษาประตูโดยถอด นิค โพ๊พ ออกแล้วส่ง ดีน เฮนเดอร์สัน ส่งมาเฝ้าเสาแทน นาทีที่ 46 แจ็ค กรีลิช ใช้ความสามารถเฉพาะตัวโยกหลอกแข้งไอร์แลนด์ทางฝั่งขวาในกรอบเขตโทษก่อนที่เจ้าตัวจะยิงแบบเล่นทางหวังเสียบเข้าโคนเสาไกลแต่บอลกลับเลยหลุดออกหลังไปนิดเดียว 4 นาทีต่อมา ทัพสิงโตคำรามเกือบได้ประตูที่สามจากจังหวะต่อบอลสุดเหนือชั้นทางฝั่งขวา แจ็ค กรีลิช กระชากตัดเข้ามาก่อนส่งให้ แฮร์รี่ วิงค์ส ได้หมุนตัวส่งต่อให้ บูคาโย่ ซาก้า ที่วิ่งสอดขึ้นมารับบอลแล้วหลุดเข้าไปดวลเดี่ยวกับ ดาร์เรน แรนดอล์ฟ นายด่านทีมเยือนแต่ ซาก้า กลับจิ้มบอลด้วยหัวเกือบเข้าข้างตาข่ายไปอย่างน่าเสียดาย นาทีที่ 56 อังกฤษ ออกนำห่างเป็น 3-0 เมื่อได้ลูกที่จุดโทษจากจังหวะกระชากบอลตัดเข้าไปในเขตโทษของ บูคาโย่ ซาก้า ก่อนจะถูก ไซรัส คริสตี้ ตัดฟาวน์ล้มลงทำให้ผู้ตัดสินชาวสเปนที่ยืนอยู่ใกล้เหตุการณ์ไม่รอช้าเป่านกหวีดและชี้มือไปที่จุดโทษทันที และเป็น โดมินิค คัลเวิร์ท-ลูวิน รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด นาทีที่ 61 ทัพสิงโตคำรามเปลี่ยนเอา ฟิล โฟเด้น ลงมาเล่นแทน แจ็ค กรีลิช ที่โชว์ผลงานได้อย่างโดดเด่นในเกมนี้ออกไปพัก นาทีที่ 63 อังกฤษส่ง แทมมี่ อับราฮัม ลงมาแทน โดมินิค คัลเวิร์ท-ลูวิน ที่มีชื่อจดสกอร์เม็ดที่สามในเกมนี้ นาทีที่ 66 เจ้าบ้านเกือบจบสกอร์ได้อีกครั้งเมื่อได้ลูกฟรีคิกทางฝั่งขวา บูคาโย่ ซาก้า เปิดบอลลอยโด่งโค้งมาเข้าหัว แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ได้โขกเช็ดเล่นทางแต่บอลกลับหลุดออกข้างเสาไปไม่ถึงหลา ผ่านมาถึงนาทีที่ 72 ไอร์แลนด์ ตอบโต้กลับมาบ้างและได้ลุ้นทำประตูตีไข่แตกเมื่อ อลัน บราวน์ หลุดเข้ามาซัดด้วยเท้าขวาในกรอบเขตโทษอังกฤษระยะไม่ถึง 10 หลาแต่ไม่ผ่าน ดีน เฮนเดอร์สัน ที่ป้องกันด้วยเท้าเคลียร์บอลออกไปพ้นเขตอันตราย นาทีที่ 88 อังกฤษ ยังได้โอกาสบวกสกอร์อีกครั้งเมื่อ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ที่เติมเกมขึ้นมาตลอดจากลูกเตะมุมและครั้งนี้ก็เช่นเดียวกันเจ้าตัวได้โขกเต็มๆ หัวแต่บอลไม่ตรงกรอบเลยออกข้ามคานไปไม่ถึงหลา เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มทีมชาติอังกฤษโชว์ฟอร์มสุดแจ่มเปิดบ้านเอาชนะ ไอร์แลนด์ ผู้มาเยือนไปอย่างสบายเกือก 3-0 รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม อังกฤษ (3-4-2-1) : นิค โพ๊พ (ดีน เฮนเดอร์สัน น.46) - แฮร์รี่ แม็กไกวร์, ไมเคิ่ล คีน, ไทโรน มิงส์ (เอนส์ลี่ย์ เมตแลนด์-ไนล์ส น.61) - รีซ เจมส์, แฮร์รี่ วิงค์ส, เมสัน เมาท์ (จู้ด เบลลิงแฮม น.73), บูคาโย่ ซาก้า - แจ็ค กรีลิช (ฟิล โฟเด้น น.61), เจดอน ซานโช่ - โดมินิค คัลเวิร์ท-ลูวิน (แทมมี่ อับราฮัม น.63) เทรนเนอร์ : แกเร็ธ เซาธ์เกต ไอร์แลนด์ (4-3-3) : ดาร์เรน แรนดอล์ฟ - คอลลั่ม โอดาวด่า, เชน ดัฟฟี่, จอห์น อีแกน, แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้ - เจฟฟ์ เฮนดริก, คอเนอร์ เฮาริฮาน, ไซรัส คริสตี้ - อลัน บราวน์, ดาริล ฮอร์แกน, อดัม ไอดาห์ เทรนเนอร์ : สตีเฟ่น เคนนี่ ผู้ตัดสิน : คาร์ลอส เดล เคอร์โร่ (สเปน) |
|