9
พ.ย.
เดอ บรอยน์บอดโทษ! ลิเวอร์พูลบุกเจ๊าแมนซิตี้สุดมันส์-เซ่นเจ็บเทรนท์

1b5ffc1399cb7250c32e9600d5ea8ae5.jpg

ลิเวอร์พูล ทวงจ่าฝูงคืนจากเลสเตอร์ไม่สำเร็จ หลังแค่บุกไปเสมอกับ แมนฯซิตี้ 1-1 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซัดจุดโทษให้ "หงส์แดง" นำก่อนที่ กาเบรียล เชซุส จะมาซัดตีเสมอ แบ่งแต้มกันไป ซึ่งเกมนี้ เควิน เดอ บรอยน์ ซัดจุดโทษพลาด ขณะที่ข่าวร้ายของลิเวอร์พูลต้องมาเสีย เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่บาดเจ็บ

สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม

"บิ๊กแมตช์" พรีเมียร์ลีก ประจำสัปดาห์ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา เจ้าถิ่น "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อันดับ 12 เปิดบ้านรับมือแชมป์เก่า ลิเวอร์พูล ที่หล่นมาอยู่อันดับ 4 ซึ่งก่อนเกมโดน "จิ้งจอกสยาม" แซงขึ้นนำเป็นจ่าฝูงไปก่อน หากเกมนี้ "หงส์แดง" บุกมาคว้าชัยจะแซงทั้ง เซาธ์แฮมป์ตัน, สเปอร์ส และเลสเตอร์ ซิตี้ กลับไปนั่งจ่าฝูงเหมือนเดิม

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เกมนี้ได้ กาเบรียล เชซุส กลับมายืนเป็นหน้าเป้าโดยมี ราฮีม สเตอร์ลิง และเฟร์ราน ตอร์เรส ทำเกมริมเส้น ขณะที่ฝั่ง เจอร์เก้น คล็อปป์ ส่งตัวรุกเต็มสูบ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ หน้าเป้า และให้ ซาดิโอ มาเน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และดีโอโก้โชต้า ปั้นเกมสนับสนุน

เปิดฉากมาแค่นาทีแรก "หงส์แดง" เกือบได้ลุ้นเลยหลัง เทรนท์ อาร์โนลด์ เปิดยาวให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ หลุดเดี่ยวเข้าไปแตะบอลหลบ เอแดร์ซอน แต่บอลไปแฉลบนายด่านชาวบราซิเลี่ยนก่อนออกหลังไปก่อน

นาที 12 ไคล์ วอล์คเกอร์ ไปฟาวล์กระแทกใส่ ซาดิโอ มาเน่ ในเขตโทษอย่างชัดเจน ผู้ตัดสิน เคร็ก พาวสัน เป่าเป็นจุดโทษทันทีโดยไม่ต้องใช้วีเออาร์ ก่อนที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จะซัดเข้าไปไม่พลาดให้ ลิเวอร์พูล บุกมานำ "เรือใบ" 1-0 และเป็นประตูที่ 8 ของสตาร์ทีมชาติอียิปต์นำดาวซัลโวร่วมกับ ซน ฮึง-มิน, เจมี่ วาร์ดี้, และโดมินิค คัลเวิร์ต-ลูวิน

นาที 25 "เรือใบสีฟ้า" พลาดโอกาสตีเสมออย่างน่าเสียดายหลัง เควิน เดอ บรอยน์ ครอสบอลผ่านหน้าปากประตูถึง ราฮีม สเตอร์ลิง แต่งบอลซัดไปติด อลีซง เบ็คเกอร์ ก่อนจังหวะสุดท้ายโดน โฌเอล มาติป เคลียร์ออกไป

แต่แล้ว นาที 31 แมนฯซิตี้ มาไล่ตีเสมอ "หงส์แดง" 1-1 สำเร็จ บอลจาก ไคล์ วอล์คเกอร์ แทงเข้ากลางให้ เควิน เดอ บรอยน์ ก่อนจ่ายเข้ากรอบให้ กาเบรียล เชซุส พลิกบอลหลบ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ เข้าไปจิ้มบอลผ่านมือ เอแดร์ซอน

อีกนาทีต่อมา เจ้าบ้านเกือบแซงขึ้นนำ อิลคาย กุนโดกัน จ่ายเข้ากลางให้ เทรนท์ เควิน เดอ บรอยน์ ตั้งป้อมซัดด้วยขวานอกกรอบเต็มแรงบอลพุ่งเฉียดเสาออกไปแบบได้เสียว

นาที 40 เควิน เดอ บรอยน์ ครอสบอลจากด้านข้างไปติด โจ โกเมซ ในเขตโทษ ซึ่งแข้งเรือใบต่างวิ่งมาประท้วง เคร็ก พาวสัน ว่าโดนแขนโกเมซ ก่อนผู้ตัดสินจะวิ่งไปดูจอ VAR ข้างสนามแล้วกลับมาชี้ให้จุดโทษแต่เจ้าถิ่น ทว่า เควิน เดอ บรอยน์ ดันยิงพลาดซัดด้วยขวาส่งบอลหลุดเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย สกอร์ยังเสมอกัน 1-1

เกมยังแลกกันสนุก นาที 44 ซาดิโอ มาเน่ ได้บอลหลุดเข้าไปในกรอบก่อนไหลให้ ซาลาห์ แล้วจ่ายสั้นให้ เทรนท์ วิ่งอ้อมหลังเข้าไปซัดด้วยขวามุมแคบ บอลพุ่งไปติดเซฟ เอแดร์ซอน แม้จะทำหลุดแต่ยังตามไปตะครุบไว้ได้ทัน

จบครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เสมอกับ ลิเวอร์พูล 1-1

กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง แค่เปิดฉากมาก็แลกกันสนุก นาที 48 แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน พยายามครอสไปหน้าปากประตูบอลเกือบถึง ฟีร์มีโน่ แต่เอแดร์ซอนออกมาตัดรับไว้ได้ และจากบอลสวนกลับของ "ซิตี้" บอลขึ้นมาถึง เควิน เดอ บรอยน์ ครอสแรงไปหน้าประตูจะถึง กาเบรียล เชซุส อยู่แล้วแต่โดน อลีสซง ออกมาตัดบอลได้เช่นกัน

นาที 50 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปั่นบอลด้วยซ้ายหน้ากรอบบอลแฉลบจน เอแดร์ซอน ต้องออกมาทุบ ก่อนจะไปเข้าทาง ดีโอโก้ โชต้า ในเขตโทษ แต่งบอลแล้วซัดด้วยซ้ายแต่ยิงไม่ดีบอลเบาไปเข้ามือ เอแดร์ซอน อีกครั้ง

นาที 55 โอกาสของ "เรือใบ" บ้าง คราวนี้ เฟร์ราน ตอร์เรส ตักบอลข้ามแนวรับให้ กาเบรียล เชซุส วิ่งสอดเข้ามาเทกตัวโขกเหน่งๆ แต่โหม่งบอลถากเสาแรกออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 59 เจอร์เก้น คล็อปป์ เปลี่ยนตัวคนแรกส่ง เซอร์ดาน ชากิรี่ ลงไปเล่นแทน โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ก่อนอีกสองนาทีถัดมา เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แก้เกมบ้างส่ง แบร์นาร์โด้ ซิลวา ไปเล่นแทน เฟร์ราน ตอร์เรส

นาที 62 ข่าวร้ายของ "หงส์แดง" เมื่อต้องเสีย เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่บาดเจ็บกล้ามเนื้อจนเล่นต่อไม่ไหว ต้องส่ง เจมส์ มิลเนอร์ ลงเล่นแทน

ช่วงท้ายเกม ทั้งสองทีมหาโอกาสเข้าทำค่อนข้างยาก ขณะที่ฝนกก็ยังตกไม่มีหยุด ก่อนจบเกมกินกันไม่ลง แมนฯ ซิตี้ เสมอกับ ลิเวอร์พูล 1-1 แบ่งแต้มกันไป ทำให้ "เรือใบสีฟ้า" มีแต้มเพิ่มเป็น 12 คะแนนจากการเล่นแค่ 7 นัด รั้งอันดับ 11 ส่วน "หงส์แดง" แซงนักบุญขึ้นมารั้งอันดับ 3 มี 17 คะแนนเท่ากับ สเปอร์ส แต่ลูกได้เสียเป็นรอง โดยตามหลังจ่าฝูง เลสเตอร์ ซิตี้ แค่คะแนนเดียว

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

แมนฯซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส - ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, อายเมอริก ลาป๊อร์ก, ชูเอา กันเซโล่ - เควิน เดอ บรอยน์, โรดรี้, อิลคาย กุนโดกัน - ราฮีม สเตอร์ลิง, กาเบรียล เชซุส, เฟร์ราน ตอร์เรส

ผู้จัดการทีม : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

ลิเวอร์พูล (4-2-3-1) : อลีซง เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โฌเอล มาติ๊ป, โจ โกเมซ, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม - ดีโอโก้ โชต้า, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ - โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่

ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์

ผู้ตัดสิน : เคร็ก พาวสัน

www.siamsport.co.th

© 2018-2024 Coreball.com All Rights Reserved.