|
6
พ.ย. "เปเป้" ทั้งยิงทั้งจ่าย!อาร์เซน่อลทัพสำรองเร่งเครื่องอัดแซงโมลด์ไม่ยั้งศึกยูโรปาลีก
นิโกล่าส์ เปเป้ ทั้งยิงทั้งจ่ายช่วย "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ที่จัดทัพสำรองลงสนามเปิดบ้านไล่ยิงแซง โมลด์ แบบไม่ไว้หน้า 4-1 พร้อมรับ 9 คะแนนเต็มจากชัยชนะ 3 นัดรวดยึดตำแหน่งจ่าฝูงกลุ่มต่อไปหายห่วง ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรปา ลีก (รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม บี) วันพฤหัสบดีที่ 5 พ.ย. ที่ผ่านมา ฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรปา ลีก (รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม บี) วันพฤหัสบดีที่ 5 พฤศจิกายน 2563 อาร์เซน่อล (อังกฤษ) 4 - 1 โมลด์ (นอร์เวย์) สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เริ่มเกม โมลด์ ทีมเยือนเป็นฝ่ายเขี่ยลูกเล่นก่อน ผ่านมาถึงนาทีที่ 3 อาร์เซน่อล ได้ลุ้นเปิดสกอร์เมื่อโจมตีขึ้นมาทางฝั่งขวา โจ วิลล็อค เปิดบอลยัดเข้าไปในเขตโทษและเป็น เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ วิ่งโฉบมาแหย่เท้าที่บอลหวังเปลี่ยนทางให้เข้าหากรอบประตูแต่โดนไม่ดีทำให้หลุดออกเสาไกลไปอย่างน่าเสียดาย 2 นาทีถัดมา ทัพปืนใหญ่เกือบได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะสวนกลับไวบอลมาอยู่ที่ นิโกล่าส์ เปเป้ พากระชากจี้เข้าหาเขตโทษโมลด์ก่อนจ่ายด้วยข้างเท้าด้านนอกให้ เอ็นเคเทียห์ หลุดเดี่ยวเข้าไปซัดเหน่งๆ แต่ดันไปติดเซฟปลายมือ อันเดรียส ลินเด้ นายด่านทีมเยือนที่โชว์ความนิ่งป้องกันไว้ได้ ผ่านพ้นมาถึงนาทีที่ 16 ดาวิด ลุยซ์ เปิดบอลยาวหวังไปให้ นิโกล่าส์ เปเป้ ที่ใช้ความเร็ววิ่งไปรับบอลแต่แรงเกินไป อันเดรียส ลินเด้ ผู้รักษาประตูโมลด์ออกมารับไว้ได้ไม่พลาด นาทีถัดมา โมลด์ ได้ลูกฟรีคิกทางฝั่งขวาระยะเกือบ 35 หลา มักนุส โวล์ฟฟ์ ไอเครม รับหน้าที่เปิดบอลลอยโด่งโค้งยัดเข้าไปในเขตโทษเจ้าถิ่น แบร์นด์ เลโน่ นายด่านปืนใหญ่ออกมาคว้าบอลไว้ได้โดยมีแข้งโมลด์กระโดดโหม่งแต่ช้ากว่าเลยกลายเป็นเข้าชนตัว เลโน่ ผู้ตัดสินเป่าให้เป็นลูกฟาวน์ นาทีที่ 22 เป็นโมลด์ที่ออกนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะเปิดบอลของ แบร์นด์ เลโน่ นายด่านอาร์เซน่อลแล้วถูกกองหลังทีมเยือนโขกสวนกลับมาบอลมาอยู่ที่ มาร์ติน เอลลิงเซ่น ได้ตั้งป้อมบรรจงปั่นด้วยเท้าซ้ายระยะประมาณ 25 หลาเกือบกลางกรอบเขตโทษบอลพุ่งโค้งก่อนมุดตกพื้นแล้วกระดอนเสียบโคนเสาเข้าไปอย่างสุดสวยหมดปัญญาของ เลโน่ จะป้องกันทำเอาเจ้าตัวถึงกับออกอาการหัวเสียเลยทีเดียว ทัพปืนใหญ่พยายามโหมเกมบุกหวังทวงประตูคืน นาทีที่ 30 ดานี่ เซบายอส จ่ายบอลทะลุช่องหวังให้ นิโกล่าส์ เปเป้ ที่หลุดกับดักล้ำหน้าและพยายามวิ่งเข้าไปรับบอลแต่ไม่ทันทำให้บอลหลุดออกหลังไปอีกครั้งกับจังหวะขาดๆ เกินๆ ของเจ้าถิ่น นาทีที่ 34 อาร์เซน่อลได้ลูกเตะมุม วิลเลี่ยน เปิดบอลไปเข้าหัว ชโคดราน มุสตาฟี่ ที่เติมขึ้นมาโขกแต่ดูเหมือนจะโดนไม่ดีทิศทางบอลเลยไปเสาไกลตกไปที่แข้งโมลด์หวดเคลียร์ออกไปพ้นเขตอันตราย "เดอะ กันเนอร์ส" ครองเกมได้มากกว่าและยังคงสร้างโอกาสจดสกอร์อย่างต่อเนื่องนาทีที่ 38 เป็น ชโคดราน มุสตาฟี่ ที่เติมขึ้นมาอีกครั้งล้มตัวพุ่งโขกเต็มหัวจากลูกเตะมุมที่เปิดโดย วิลเลี่ยน เจ้าเก่าแต่ทิศทางยังคงไม่ดีทำให้หลุดออกหลังไปเหมือนเคย นาทีที่ 43 อาร์เซน่อล ส่งบอลเข้าไปกองก้นตาข่ายทีมเยือนแต่กลับไม่ได้ประตูจากการเปิดบอลเลียดทางฝั่งซ้ายของ นิโกล่าส์ เปเป้ ที่ยัดเข้าไปในเขตโทษให้ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ได้ล้มตัวยิงจ่อๆ เข้าไปแต่มีสัญญาณจากผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงเป็นลูกล้ำหน้า แต่แล้วทัพปืนใหญ่มาตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จก่อนหมดเวลาครึ่งแรกนาทีที่ 45+1 จากจังหวะโต้กลับไวเป็น วิลเลี่ยน ตัดบอลได้ส่งก่อนต่อมาให้ กรานิต ชาคา แล้วส่งต่ออีกครั้งไปถึง เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ทางฝั่งขวาเจ้าตัวไม่รอช้าเปิดบอลหักข้อด้วยเท้าขวาหวังไปให้ โจ วิลล็อค ที่เตรียมวิ่งเข้ามาจุดนัดพบแต่มี คริสตอฟเฟอร์ เฮาเก้น กองหลังโมลด์วิ่งเข้ามาถึงบอลก่อนเพื่อตัดบอล แต่กลับถูก วิลล็อค เบียดล้มลงไปโดดบอลไหลเข้าประตูตัวเองไป แข้งโมลด์พยายามประท้วงว่า เฮาเก้น ถูกชนจากทางด้านหลังแต่ไม่เป็นผล ฮาลิล อูมุต เมเลอร์ เท่าเปาชาวตุรกียืนยันการเป็นประตูเหมือนเดิม จบครึ่งเวลาแรก อาร์เซน่อล ออกแรงเหนื่อยไล่ตามเสมอ โมลด์ อยู่ที่สกอร์ 1-1 กลับมาลุ้นกันต่อในครึ่งเวลาหลัง มาถึงนาทีที่ 54 อาร์เซน่อลพลาดได้ประตูขึ้นนำไปอย่างน่าเสียดายจากจังหวะเปิดบอลทางฝั่งขวาของ โจ วิลล็อค เป็น อันเดรียส ลินเด้ นายด่านโมลด์พยายามออกมาปัดแต่บอลกลับหลุดไปเข้าทาง เซอัด โคลาซินัช ที่ได้ยืนแประยะไม่ถึง 5 หลาแต่เจ้าตัวกลับเตะใต้บอลทำเอาข้ามคานออกไปแบบไม่เชื่อสายตาเพื่อนร่วมทีม ใบเหลืองของเกมนี้เกิดขึ้นนาทีที่ 58 เป็นของฝั่งเจ้าถิ่นโดย ดาวิด ลุยซ์ ใช้แขนขวาเข้าไปอัดที่่ท้องของ โอฮี โอมอยยวนโฟ ก่อนจะชิงแย้งโหม่งบอล ผู้ตัดสินเป่านกหวีดฟาวน์และคาดโทษ ลุยซ์ ทันทีโทฐานเจตนาใช้ความรุนแรงกับคู่ต่อสู้ อาร์เซน่อล ได้ประตูแซงนำ 2-1 จนได้ในนาทีที่ 62 จากจังหวะหน้ากรอบเขตโทษโมลด์ โดย กรานิต ชาคา งัดบอลให้ โจ วิลล็อค หลุดเข้าไปเปิดบอลทางริมเส้นฝั่งขวาและเป็น เชริฟฟ์ ซินยาน แข้งทีมเยือนที่พยายามยื่นเท้าเข้ามาตัดบอลแต่ดันผิดเหลี่ยมทำให้เข้าประตูตัวเองไปอีกครั้ง เหมือนทัพปืนใหญ่จะได้ใจ นาทีที่ 69 ได้ประตูหนีห่างเป็น 3-1 เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ส่งต่อให้ บูกาโย่ ซาก้า ทางฝั่งขวาก่อน ซาก้า จะหักข้อเปิดบอลย้อนมาให้ นิโกล่าส์ เปเป้ ที่วิ่งเข้ามากดเน้นๆ บอลพุ่งอย่างจรวดเบียดโคนเสาเข้าไปอย่างสวยงาม นาทีที่ 72 โมลด์ ได้ลุ้นบ้างจาก มาร์ติน เอลลิงเซ่น ได้ตั้งป้อมกดเต็มข้อบริเวรฝั่งขวาของกรอบเขตโทษแต่ทิศทางไม่ดีเท่าไรบอลพุ่งไปตรงตัว แบร์นด์ เลโน่ รับเข้าซองไม่มีกระฉอก นาทีที่ 77 บูกาโย่ ซาก้า โดนใบเหลืองหลังไปตัดฟาวน์ใส่ เฮนรี่ วิงโก้ ที่มีโอกาสพลิกตัวหลุดเข้าไปเปิดบอลทางฝั่งขวา และนับเป็นใบเหลืองที่สองของเกมซึ่งเป็นของฝั่งอาร์เซน่อลทั้งหมด นาทีที่ 79 อาร์เซน่อล หวิดได้ประตูที่สี่เมื่อ โจ วิลล็อค เปิดบอลทางริมเส้นฝั่งซ้ายไปเข้าหัว เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ที่พุ่งโหม่เน้นๆ แต่บอลหลุดออกข้างโคนเสาไปไม่ถึงหลา นาทีถัดมา โจ วิลล็อค พลาดโอกาสบวกสกอร์เพิ่มให้เจ้าถิ่นเมื่อหลุดเดี่ยวเข้าไปซัดจ่อๆ แต่ดันไปติดเซฟด้วยเท้าของ อันเดรียส ลินเด้ นายด่านโมลด์ อาร์เซน่อล มาได้ประตูนำขาด 4-1 นาทีที่ 88 นิโกล่าส์ เปเป้ จ่ายบอลยัดไปให้ โจ วิลล็อค ที่วิ่งตัดหน้าแข้งโมลด์ก่อน วิลล็อค แตะบอลหนึ่งจังหวะแล้วกดด้วยเท้าขวาทันทีบอลพุ่งเสยเสียบใต้คานไม่เหลือซาก และนับเป็นประตูส่งท้ายของเกมนี้ จบเกม อาร์เซน่อล เร่งเครื่องรัวแซงใส่ โมลด์ ยับเยิน 4-1 ยังคงโชว์ฟอร์มสุดร้อนแรงต่อเนื่องรับ 9 แต้มเต็มจาก 3 นัดยึดตำแหน่งจ่าฝูงกลุ่มอย่างเหนียวแน่น รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม อาร์เซน่อล (4-4-2) : แบร์นด์ เลโน่ - ชโคดราน มุสตาฟี่, ดาวิด ลุยซ์, , เซอัด โคลาซินัช , เอนส์ลี่ย์ เมทแลนด์-ไนล (เซดริก โซอาเรส น.63) - วิลเลี่ยน (บูกาโย่ ซาก้า น.64), ดานี่ เซบายอส (โมฮาเหม็ด เอลเนนี น.80), กรานิต ชาคา (คีแรน เทียร์นี่ย์ น.80), นิโกล่าส์ เปเป้ - เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์, โจ วิลล็อค ผู้จัดการทีม : มิเกล อาร์เตต้า โมลด์ (4-3-3) : อันเดรียส ลินเด้ - เฮนรี่ วิงโก้, มาร์ติน บียอร์นบัค, สเตียน โรเด้ เกรเกอร์เซ่น, คริสตอฟเฟอร์ เฮาเก้น - เฟรดริก อาอูร์สเนส, มักนุส โวล์ฟฟ์ ไอเครม, เอสซาน ฮุสเซน - มาร์ติน เอลลิงเซ่น, โอฮี โอมอยยวนโฟ, มาทีส โบลลี่ ผู้จัดการทีม : เออร์ลิง โม ผู้ตัดสิน : ฮาลิล อูมุต เมเลอร์ (ตุรกี) |
|