|
29
ต.ค. แวร์เนอร์แจ่ม-พูลิซิชซัดปิด! เชลซีบุกถล่มคราสโนดาร์ เฮแรกชปล.
"สิงห์บลูส์" คว้าชัยชนะเกมแรก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ได้แล้ว หลังบุกไปไล่ถล่ม คราสโนดาร์ ถึงแดนหมีขาว 4-0 เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา เกมนี้แม้ จอร์จินโญ่ จะพลาดยิงจุดโทษไม่เข้า แต่มาได้4เม็ดรวดจาก คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย ก่อนที่ครึ่งหลัง ติโม แวร์เนอร์ ,ฮาคิม ซิเย็ค และคริสเตียน พูลิซิช จะกดปิดท้ายพาทีมซิวสามแต้มสำเร็จ สนาม : สตาดิโอ เอฟเค คราสโนดาร์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อคืนวันพุธที่ 28 ตุลาคม ที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันในกลุ่ม อี นัดที่สองระหว่าง คราสโนดาร์ จากรัสเซีย ที่ผลงานเกมแรกเสมอกับ แรนส์ 1-1 กลับมาเฝ้ารังรับมือ "สิงห์บลูส์" เชลซี ที่ผลงานนัดแรกเสมอกับ เซบีย่า มาแบบไร้กสอร์ 0-0 เจ้าบ้านเกมนี้ฝากความหวังล่าตาข่ายไว้ที่ มาร์คุส เบิร์ก ดาวยิงวัย 34 ปี ดีกรีทีมชาติสวีเดน ส่วน แฟร้งค์ แลมพาร์ด ปรับทัพจากเกมที่เสมอกับ "ผีแดง" ในลีก 0-0 บางตำแหน่ง โดยเกมรุกให้ ติโม แวร์เนอร์ เป็นหน้าเป้าโดยมี ไค ฮาแวร์ตซ์ ยืนหน้าต่ำ ขณะที่ ฮาคิม ซิเย็ค และ คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย ทำเกมริมเส้น เปิดฉากมา 3 นาทีแรกเจ้าบ้านได้ทักทายก่อนเลยหลัง มาร์คุส เบิร์ก ได้โอกาสซัดในกรอบด้วยขวาแต่บอลพุ่งเหินคานไปไกล ถัดมาอีกนาทีเดียว "สิงห์บลูส์" เกือบเสียท่าก่อน คราวนี้ ดานิลล์ อุตกิ้น ปั่นด้วยซ้ายนอกกรอบ บอลพุ่งจะเสียบมุมอยู่แล้วแต่ เอดูอาร์ เมนดี้ ยังไวพุ่งปัดมือเดียวออกไป นาที 13 เชลซี มาได้ลูกที่จุดโทษ จากจังหวะที่ เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า ปาดเลียดเข้าไปในกรอบ ติโม แวร์เนอร์ ถึงบอลก่อนโดน คาโย่ แนวรับเจ้าถิ่นเตะจนล้มลง ผู้ตัดสินและวีเออาร์ยืนยันให้จุดโทษ ทว่าอีกนาทีถัดมา จอร์จินโญ่ มือสังหารใช้ท่าประจำ "กระโดดยิง" แต่บอลพุ่งไปชนเสาแล้วกระเด้งมาชนตัว มัตเว ซาโฟนอฟ นายด่านเจ้าถิ่น ก่อนที่แนวรับเจ้าบ้านจะสกัดออกไป ทำให้สกอร์ยัง 0-0 เหมือนเดิม นาที 20 โอกาสของ คราสโนดาร์ ได้ลุ้นจาก คริสเตียน รามิเรซ แต่จังหวะยิงด้วยขวานอกกรอบไม่มีน้ำหนัก บอลเบาไปเข้ามือ เมนดี้ รับได้สบาย นาที 29 ฮาคิม ซิเย็ค ลากตัดเข้ากลางมาหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนซัดด้วยซ้าย บอลพุ่งเลียดไปเสาไกลแต่ยังเบาไปเข้ามือ มัตเว ซาโฟนอฟ นาที 37 ลูกทีมของ แลมพาร์ด มาพังประตูขึ้นนำเจ้าบ้านจนได้ จากจังหวะที่ ไค ฮาแวร์ตซ์ ออกบอลสั้นให้ คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย แตะเข้าขวาข้างถนัด ก่อนจะยิงไปเสาสอง แม้บอลจะไม่แรง ทว่า มัตเว ซาโฟนอฟ นายประตูของเจ้าถิ่นดันเล่นพลาด พยายามจะรับบอลแต่กลายเป็นปลิ้นผ่านตัวเข้าประตูตัวเองไป เชลซี บุกนำ คราสโนดาร์ 1-0 ช่วงทดเจ็บ นาที 45+1 ฮาคิม ซิเย็ค เปิดบอลเข้าไปในกรอบ 6 หลา นายด่านของคราสโนดาร์ออกมาตัดบอลไม่ดี มาเข้าหัว ไค ฮาแวร์ตซ์ โขกหลุดกรอบออกไปแบบได้เสียว จบครึ่งแรก คราสโนดาร์ ตามหลัง เชลซี 0-1 ครึ่งหลัง เจ้าถิ่นโหมบุกกดดันอย่างหนัก นาที 54 ยูริ กาซินสกี้ หลุดไปในกรอบทางซ้ายก่อนซัดไปติดบล็อค คูร์ท ซูม่า เป็นเตะมุม และอีกนาทีต่อมา จังหวะต่อเนื่องจากลูกเตะมุม กาซินสกี้ เก็บตกได้ก่อนกดด้วยซ้ายเข้าไป บอลพุ่งแรงไปชนคานอย่างน่าเสียดาย นาที 65 เกมโต้กลับของ เชลซี เกือบได้ลุ้นเม็ดที่สอง ฮาคิม ซิเย็ค กระชากเข้ามาในกรอบก่อนสับขาโยกหลอกแล้วซัดไปตรงตัว มัตเว ซาโฟนอฟ แต่อีก 2 นาทีถัดมา คราสโนดาร์ ได้ลุ้นเช่นกัน คริสเตียน รามิเรซ ผ่านบอลให้ มาร์คุส เบิร์ก ซัดด้วยซ้ายมุมแคบแต่ยังไม่ผ่านมือ เมนดี้ ที่โชว์ซูเปอร์เซฟ นาที 76 เชลซี มาได้จุดโทษหลัง คริสเตียน พูลิซิช ยิงไปโดนแขน อเล็กซานเดอร์ มาร์ติโนวิช ผู้ตัดสินเป่าเป็นแฮนด์บอลแล้วชี้เป็นจุดโทษ และเป็น ติโม แวร์เนอร์ ซัดเต็มข้อเข้าไปอย่างเด็ดขาด ให้ เชลซี นำห่าง 2-0 จากนั้นอีก 3 นาทีต่อมา สกอร์ของ เชลซี นำเจ้าบ้านขาดลอยเป็น 3-0 อย่างรวดเร็ว หลัง พูลิซิช ลากเลื้อยขึ้นมาทางปีกซ้าย ก่อนผ่านให้ ติโม แวร์เนอร์ จ่ายเร็วให้ ฮาคิม ซิเย็ค แตะบอลหนีแนวรับก่อนซัดด้วยซ้ายผ่าน มัตเว ซาโฟนอฟ เข้าไป นาที 90 "สิงห์บลูส์" มาได้ประตูที่สี่ คราวนี้ แทมมี่ อบราฮัม ตัวสำรองที่เพิ่งลงมาจ่ายเข้ากลางมาในกรอบให้ คริสเตียน พูลิซิช ตะบันด้วยขวาเข้าไปไม่เหลือ จบเกม เชลซี บุกมาเอาชนะ คราสโนดาร์ ถึงถิ่นขาดลอย 4-0 เก็บชัยชนะนัดแรกมีเพิ่มเป็น 4 คะแนน ส่วนคราสโนดาร์ ยังไม่ชนะทีมใดมีแต้มเดียว รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม คราสโนดาร์ (4-2-3-1) : มัตเว ซาโฟนอฟ - อิกอร์ สโมลนิคอฟ, คาโย่, อเล็กซานเดอร์ มาร์ติโนวิช, เยฟเกนี่ เชอร์นอฟ - ตอนนี่ วิลเฮน่า, ยูริ กาซินสกี้ - คริสโตเฟอร์ โอลเซ่น (เอดูอาร์ สเพิร์ตสยาน น.82), ดานิล อุตกิ้น (ชาพี ซูเลย์มานอฟ น.74), คริสเตียน รามิเรซ - มาร์คุส เบิร์ก (ลีออน ซาบัว น.87) เทรนเนอร์ : มูรัด มูซาเยฟ เชลซี (4-2-3-1) : เอดูอาร์ เมนดี้ - เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, อันโตนิโอ รือดิเกอร์, คูร์ท ซูม่า, เบน ชิลเวลล์ (เอเมอร์ซอน น.81) - จอร์จินโญ่ (เอ็นโกโล่ ก็องเต้ น.71), มาเตโอ โควาซิช (คริสเตียน พูลิซิช น.71) - ฮาคิม ซิเย็ค (แทมมี่ อบราฮัม น.80), ไค ฮาแวร์ตซ์, คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย (เมสัน เมาน์ท น.71) - ติโม แวร์เนอร์ เทรนเนอร์ : แฟร้งค์ แลมพาร์ด ผู้ตัดสิน : อาลี ปาลาบิยิค (ตุรกี) |
|