|
19
ต.ค. "เบล"ประเดิมช็อก! สเปอร์สนำ3-0ไม่เฮ-ค้อนโกงตายไล่เจ๊าทดเจ็บเหลือเชื่อ
"ไก่เดือยทอง" ถึงกลับหน้าหงายหลังคู่หู "เคน-ซน" แผลงฤทธิ์ยิงขึ้นนำ 3-0 ตั้งแต่ 16 นาทีแรก ทว่าครึ่งหลัง "ขุนค้อน" มาโกงตายรัว 3 ประตูช่วงท้ายเกมไล่ตีเสมอ 3-3 แบบเหลือเชื่อ ทำให้แบ่งแต้มกันไป โดยเกมนี้ แกเร็ธ เบล ลงมาเป็นสำรองประเดิมสนามเป็นนัดแรกให้สเปอร์สในรอบ 7 ปี ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา สนาม : ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม เป็นการพบกันระหว่าง "ไก่เดือยทอง" สเปอร์ส เปิด ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม ทำศึกลอนดอนดาร์บี้กับ "ขุนค้อน" เวสต์แฮม โชเซ่ มูรินโญ่ ที่พาทีมไก่เดือยทอง ไม่แพ้ 7 เกมในทุกรายการโดยเป็นชัยชนะถึง 6 นัด ฟอร์มล่าสุดก็นับว่าสุดยอด ด้วยการบุกถล่ม แมนฯ ยูฯ ถึง 6-1 เกมนี้มี แกเร็ธ เบล ซูเปอร์สตาร์จากเรอัล มาดริด มีชื่อเป็นตัวสำรอง รวมทั้ง คาร์ลอส วินิซิอุส กองหน้าตัวใหม่จะมาอยู่ที่ม้านั่งสำรองด้วย ขณะที่ เดวิด มอยส์ กุนซือทีมขุนค้อน คัมแบ็กกลับมาคุมทีมข้างสนาม ได้ข่าวดีเมื่อ อิสซ่า ดิย็อป ปราการหลังตัวกลางจะคัมแบ็กเป็นตัวสำรอง หลังจากเคลียร์เรื่องโควิด-19 เหมือนกับ เดวิด มอยส์ เป็นที่เรียบร้อย เริ่มเกมมาเพียงแค่ 45 วินาที เจ้าถิ่นออกขึ้นนำอย่างรวดเร็ว จากสองประสานเจ้าเก่า จากจังหวะ แฮร์รี่ เคน วางบอลยาวจากกลางสนามมาให้ ซน ฮึง-มิน พาบอลไปล็อคหลบ ฟาเบียน บัลบูเอน่า หนึ่งจังหวะก่อนซัดเข้าเสาสอง ส่งบอลตุงตาข่ายให้ สเปอร์ส ขึ้นนำ 1-0 นาทีที่ 6 เวสต์แฮม มีลุ้นบ้าง เมื่อได้ฟรีคิกนอกกรอบระยะ 30 หลา ก่อน อารอน เครสส์เวลล์ รับหน้าที่ปั่นด้วยเท้าซ้าย บอลเลี้ยวข้ามกำแพงก่อนไปโค้งเข้าหน้าต่างประตูแบบมีลุ้น จากนั้นนาทีที่ 8 ทีม "ไก่เดือยทอง" มากดประตูที่สองได้อีก เมื่อ ซน ฮึง-มิน ไหลบอลให้ แฮร์รี่ เคน แตะหลอก เดแคลน ไรซ์ หนึ่งจังหวะก่อนซัดด้วยขวานอกกรอบ บอลเรียดผ่านมือ ลูคัส ฟาเบียนสกี้ ตุงตาข่ายให้ สเปอร์ส นำตั้งแต่ยังไม่ 10 นาที 2-0 สกอร์ไหลทันที หลังจากนั้น นาทีที่ 16 เจ้าถิ่นได้สกอร์เพิ่มอีก เมื่อ ซน ฮึง-มิน ไหลบอลออกทางซ้ายให้ เซร์คิโอ เรกีล่อน เติมขึ้นมาริมกรอบเขตโทษ ก่อนบรรจงเปิดบอลน้ำหนักเยี่ยมให้ แฮร์รี่ เคน กระโดดโหม่งเล่นทางย้อนผ่านมือ ลูคัส ฟา เบียนสกี้ และเปลี่ยนตัวเลขสกอร์ให้ สเปอร์ส นำโด่ง 3-0 และเป็นประตูที่สองของดาวยิงทีมชาติอังกฤษในเกมนี้ มีลุ้นแฮตทริก หลังจากนั้นทั้งสองทีมไม่มีโอกาสจะแจ้งเข้าทำกันเท่าไหร่ ทำให้หมดครึ่งแรก จึงเป็น สเปอร์ส เปิดบ้านนำโด่ง เวสต์แฮม 3-0 เปิดฉากครึ่งหลังมา "ขุนค้อน" ดาหน้าบุกเพื่อหวังทวงประตูไล่คืน นาที 50 พลาดโอกาสทองได้ตีไข่แตก หลัง มิคาอิล อันโตนิโอ ซัดด้วยขวาไปแฉลบแนวรับเจ้าถิ่น บอลเลยไปเสาไกลถึง ปาโบล ฟอร์นัลส์ ได้โขกจ่อๆไม่ถึง 5 หลาข้ามคานไปอย่าง เหลือเชื่อ นาที 61 แฮร์รี่ เคน เกือบทำแฮตทริกหลังพาบอลตะลุยขึ้นมาหน้ากรอบแล้วกดด้วยขวาเสาแรกบอลพุ่งเกือบเสียบโคนเสา แต่ดี ลูคัส ฟาเบียนสกี้ ยังไวพุ่งปัดออกหลังหวุดหวิด นาที 72 โชเซ่ มูรินโญ่ เปลี่ยนสองคนรวดถอด สตีเฟ่น เบิร์กไวจ์น และต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล่ แล้วส่ง แฮร์รี่ วิงค์ส และแกเร็ธ เบล ประเดิมสนามเป็นเกมแรก และแค่สัมพัสแรกของ เบล ก็ลงมาซัดฟรีคิกนอกกรอบด้วยซ้ายบอลพุ่งหนีกำแพงแต่ยังไปตรงตัว ลูคัส ฟาเบียนสกี้ นาที 79 เคน พลาดทำแฮตทริกอีก หลัง ซน ฮึง-มิน บรรจงใส่พานจากแถวสองให้ แฮร์รี่ เคน วิ่งมาปั่นด้วยซ้ายบอลพุ่งไปชนเสาออกหลังอย่างน่าเสียดาย "ขุนค้อน" มาได้ประตูตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-3 ในนาที 82 จากฟรีคิกทางด้านซ้าย อารอน เครสส์เวลล์ เปิดโค้งมาในกรอบให้ ฟาเบียน บัลบูเอน่า เทกตัวขึ้นโขกเสียบเสาแรกเข้าไปหมดสิทธิ์ที่ อูโก้ โยริส จะป้องกัน จากนั้นอีก 3 นาทีถัดมา เวสต์แฮม มีความหวังในการไล่ตีเสมอหลัง วลาดิเมียร์ คูฟาล ครอสมาในกรอบบอลไปโดน ดาวินซอน ซานเชซ พยายามโหม่งสกัดแต่บอลผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเองไปให้ทีมเยือนไล่มาเป็น 2-3 และแล้วก็มีปาฎิหาริย์เกิดขึ้น เมื่อช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาที 90+4 ลูกทีมของ เดวิด มอยส์ มาพังประตูไล่ตีเสมอ 3-3 อย่างเหลือเชื่อจาก มานูเอล ลันซินี่ ตัวสำรองที่เป็นฮีโร่ให้ทีมบุกมาแบ่งแต้มชนิดโกงความตาย รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม สเปอร์ส (4-3-3) : อูโก้ โยริส, แซร์ช โอริเย่ร์, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, ดาวินซอน ซานเชซ, เซร์คิโอ เรกีลอน, มุสซ่า ซิสโซโก้, ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบิร์ก, ต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล่ (แฮร์รี่ วิงค์ส น.73), สตีเว่น เบิร์กไวน์ (แกเร็ธ เบล น.72), แฮร์รี่ เคน, ซน ฮึง-มิน (ลูกัส มูร่า น.80) เวสต์แฮม (3-5-1) : ลูคัส ฟาเบียนสกี้, วลาดิเมียร์ คูฟาล, ฟาเบียน บัลบูเอน่า, อันเจโล่ อ็อกบอนน่า, อารอน เครสส์เวลล์, อาร์กตูร์ มาซูอากู (โรเบิร์ต สน็อดกราสส์ น.90), จาร์ร็อด โบเว่น, โธมัส ซูเช็ค, เดแคลน ไรซ์, ปาโบล ฟอร์นัลส์ (มานูเอล ลันซินี่ น.77), มิคาอิล อันโตนิโอ (อังเดร ยาร์โมเลนโก้ น.77) ผู้ตัดสิน : พอล เทียร์นี่ย์ |
|