15
ต.ค.
เอ็มบั๊ปเป้ฮีโร่! ฝรั่งเศสย้ำชัยบุกเฉือนโครเอเชียท้ายเกม เนชั่นส์ ลีก

8798c7ad0841488e3bb62dab17e795ac.jpg

คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ซัดประตูชัยช่วงท้ายเกมพา ฝรั่งเศส บุกเอาชนะเจ้าถิ่น โครเอเชีย แบบหวุดหวิด 2-1 ส่งผลให้ "ตราไก่" ย้ำชัยเหนือทัพตาหมากรุกอีกครั้ง ในศึก ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา

สนาม : สตาดิโอน มัคซิมีร์ (ซาเกร็บ, โครเอเชีย)

ศึกยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก กลุ่ม 3 ลีก เอ เมื่อคืนวันพุธที่ 14 ตุลาคม ที่ผ่านมา เจ้าถิ่น โครเอเชีย ที่เพิ่งจะคว้าชัยในเกมล่าสุดเหนือ สวีเดน 2-1 ยังได้เล่นในบ้านรับมือทีมแชมป์โลก ฝรั่งเศส ที่ยังไม่แพ้ทีมใดล่าสุดเสมอกับ โปรตุเกส 0-0

โดยคู่นี้เพิ่งจะเจอกันที่บ้าน "ตราไก่" เมื่อต้นเดือนที่แล้ว และเป็นฝรั่งเศสที่เอาชนะไปได้ 4-2 ซึ่งเป็นสกอร์เดียวกับที่ปราบทัพโครแอตเมื่อตอนนัดชิงฯ บอลโลก 2018

เกมนี้ ทัพตาหมากรุก วาง บรูโน่ เพตโควิช เป็นหน้าเป้าและให้ อีวาน เปริซิช, นิโกล่า วลาซิช, มาริโอ ปาซาลิช ปั้นเกมสนับสนุน ร่วมกับ ลูก้า โมดริช กัปตันทีม ส่วนฝั่ง "ตราไก่" เกมนี้ส่ง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ลงเป็นตัวจริงยืนคู่กับ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้โดยมี อองตวน กรีซมันน์ ยืนหน้าต่ำ

ครึ่งแรก เริ่มมาได้แค่ 8 นาที กลายเป็นทัพ "ตราไก่" ที่บุกมาขึ้นนำเจ้าถิ่นอย่างรวดเร็ว 1-0 บอลจาก แฟร์กล็องด์ เมนดี้ ที่กระชากเข้าไปในกรอบก่อนปาดมาหน้าประตู โดมากอย วีด้า เซ็นเตอร์แบ็กโครแอตสกัดไม่ดีมาเข้าทางปืน อองตวน กรีซมันน์ตะบันด้วยซ้ายเต็มแรงเข้าไปอย่างเฉียบขาด

นาที 15 ตราไก่เกือบได้เม็ดที่สองนำห่างหลัง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปก่อนหักบอลมาเสาแรกให้ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ วิ่งมาแปเน้นๆ บอลพุ่งถากเสาสองออกไปอย่างน่าเสียดาย

นาที 26 เจ้าบ้านเกือบได้ลุ้นตีเสมอ คราวนี้มาได้ฟรีคิกหน้ากรอบ อีวาน เปริซิช วิ่งมาปั่นด้วยขวาบอลพุ่งเฉียดคานออกไป

อีก 4 นาทีถัดมา เปริซิช ครอสไปให้ มาริโอ ปาซาลิช ซัดด้วยซ้ายไปติดบล็อค ก่อนจังหวะต่อมาอดีตดาวเตะเชลซีจะหวดด้วยซ้ายอีกหนแต่บอลก็ยังไม่ผ่านมือ อูโก้ โยริส นายด่านของตราไก่

นาที 44 มาร์กซิยาล เรียกฟรีคิกให้ทีมเยือน ก่อนที่ อองตวน กรีซมันน์ จะครอสมาหน้าประตูให้ เคลมองต์ ล็องเล่ต์ เทกตัวโขกย้อนไปเสาแรกออกหลังไปแบบหมดลุ้น

จบครึ่งแรก โครเอเชีย ตามหลัง ฝรั่งเศส 0-1

ครึ่งหลังทัพโครแอตเปลี่ยนสองคนรวดส่ง มัตเตโอ โควาซิช และโจซิป เบรกาโล่ ลงไปเล่นแทน มิลาน บาเดลจ์ และมาริโอ ปาซาลิช

เจ้าถิ่นโหมบุกอย่างหนัก นาที 53 โควาซิช ผ่านบอลถึง นิโกล่า วลาซิช ได้ลองหวดด้วยซ้ายนอกกรอบ บอลพุ่งเลียดออกหลังชนิดได้ลุ้น

นาที 63 ทีมเยือนปรับหมากเปลี่ยนตัวบ้างส่ง เอดูอาร์โด้ กามาวิงก้า ลงไปเล่นแทน โกล็องแต็ง โตลิสโซ่ เช่นเดียวกับส่ง คิงส์ลี่ย์ โกมัน ไปเล่นแทน อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล

ก่อนอีกสองนาทีถัดมา นาที 65 ทัพตาหมากรุก มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 สำเร็จ โจซิป เบรกาโล่ ตัวสำรองที่ลงมาครึ่งหลังไหลเข้ากลางต่อให้ นิโกล่า วลาซิช ดีดบอลด้วยซ้ายหนีมือ อูโก้ โยริส เข้าไป

นาที 79 "ตราไก่" มาได้ประตูแซงขึ้นนำ 2-1 อีกครั้ง จากการเข้าทำอันยอดเยี่ยม ปอล ป็อกบา วางบอลยาวให้ ลูก้าส์ ดีญ เติมสูงขึ้นมาก่อนกระโดดแปจังหวะเดียวไปหน้าประตูให้ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ พุ่งมาเข้าชาร์ตส่งบอลผ่านมือ ลิวาโควิช เข้าไป

จบเกม โครเอเชีย ช้ำอีกครั้งเมื่อพ่ายให้ ฝรั่งเศส 1-2 ทำให้ "ตราไก่" มีเพิ่มเป็น 10 คะแนนเท่ากับโปรตุเกสแต่ลูกได้เสียเป็นรองเลยรั้งอันดับ 2 ส่วน โครเอเชีย มีแค่ 3 แต้มรั้งอันดับ 3 ของตาราง

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

โครเอเชีย : โดมินิค ลิวาโควิช - ฟิลิป อูเรโมวิช, เดยัน ลอฟเรน, โดมากอย วีด้า, บอร์นา บาริซิช - มิลาน บาเดลจ์ (มัตเตโอ โควาซิช น.46), ลูก้า โมดริช (กัปตันทีม) - อีวาน เปริซิช (โดมากอย บราดาริช น.78), นิโกล่า วลาซิช (อังเดร ครามาริช น.80), มาริโอ ปาซาลิช (โจซิป เบรกาโล่ น.46) - บรูโน่ เพตโควิช (อันเต บูดิเมียร์ น.61)

ฝรั่งเศส : อูโก้ โยริส (กัปตันทีม) - แฟร์กล็องด์ เมนดี้, เคลมองต์ ล็องเล่ต์, ราฟาแอล วาราน, ลูก้าส์ ดีญ (ลูก้าส์ แอร์กน็องเดซ น.83) - สตีเฟ่น เอ็นซอนซี่, อาเดรียง ราบิโอต์ (ปอล ป็อกบา น.74) ,โกล็องแต็ง โตลิสโซ่ (เอดูอาร์โด้ กามาวิงก้า น.63) - อองตวน กรีซมันน์ (โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ น.83) - คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ,อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล (คิงส์ลี่ย์ โกมัน น.63)

ผู้ตัดสิน : บียอร์น คุยเปอร์ส (ฮอลแลนด์)

www.siamsport.co.th

© 2018-2024 Coreball.com All Rights Reserved.