|
4
ต.ค. เอแดร์ซอนโชว์หนึบ-แมนซิตี้สะดุดอีก! โรดริโก้แสบซัดพาลีดส์ไล่เจ๊า
เอแดร์ซอน นายด่านของ "เรือใบสีฟ้า" ต้องออกแรงเหนื่อยเซฟช่วยทีมถึง 6 ครั้ง ก่อนจะบุกแบ่งแต้มกับ "ยูงทอง" 1-1 เกมนี้ ราฮีม สเตอร์ลิง ซัดให้ แมนฯซิตี้ ขึ้นนำ ก่อนที่ครึ่งหลังจะโดนทีเด็ดของ โรดริโก้ โมเรโน่ ที่ลงมาสำรองซัดประตูแรกนับแต่ย้ายทีม ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา สนาม : เอลแลนด์ โร้ด พรีเมียร์ลีก นัดที่ 4 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม ที่ผ่านมา เจ้าบ้าน "ยูงทอง" ลีดส์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 7 ชนะมา 2 เกมติด ล่าสุดบุกเฉือนชนะ เชฟฯยูไนเต็ด 1-0 เกมนี้รับมือ "เรือใบสีฟ้า" แมนฯซิตี้ ทีมอันดับ 12 ที่ลงเล่นเป็นนัดที่ 3 หลัง2เกมแรกชนะและแพ้มา ซึ่งฟอร์มล่าสุดพ่ายคาบ้านให้ เลสเตอร์ ซิตี้ สุดเละเทะ 2-5 มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ใช้ แพทริค แบมฟอร์ด เป็นหน้าเป้า โดยมีตัวสนับสนุนอย่าง เอลแดร์ กอสต้า และไทเลอร์ โรเบิร์ต ส่วนฝั่ง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ประเดิมใช้ รูเบน ดิอาส เซ็นเตอร์แบ็กตัวใหม่ที่ซื้อมาด้วยคาตัว 62 ล้านปอนด์ ขณะที่แนวรุกยังใช้ 3ประสานทั้ง เฟร์ราน ตอร์เรส, ราฮีม สเตอร์ลิง และริยาด มาห์เรซ เริ่มเกมมาไม่ถึง 3 นาที "เรือใบสีฟ้า" เกือบได้ประตูขึ้นนำไปก่อน เควิน เดอ บรอยน์ ตะบันฟรีคิกกว่า 35 หลาบอลพุ่งชนเสาแรกอย่างน่าเสียดาย แม้ ราฮีม สเตอร์ลิง จะพุ่งมาซ้ำแต่บอลชนหน้าแข้งออกหลังไป ทีมเยือนยังเปิดเกมรุกโจมตีอย่างหนัก นาที 11 เควิน เดอ บรอยน์ ลากมาซัดกลางประตูไปติด โรบิน ค็อช ก่อนอีก 2 นาทีถัดมา เฟร์ราน ตอร์เรส ได้หลุดไปทางขวาก่อนจะหวดไปติดแนวรับยูงทองเช่นกัน นาที 15 ลูกทีมของเป๊ปชวดได้ประตูอีก คราวนี้ สเตอร์ลิง โชว์สเต็ปสับขาก่อนล็อคหนี ลุค อายลิ่ง แล้วปาดไปเสาไกลให้ ตอร์เรส วิ่งมาอัดด้วยซ้ายบอลน่าจะเข้า แต่ก็ยังไปติดบล็อค สจ๊วร์ต ดัลลัส นาที 18 หลังบดอยู่นาน แมนฯซิตี้ มาพังตาข่ายนำเจ้าถิ่น 1-0 สำเร็จ เป็นความยอดเยี่ยมของ ราฮีม สเตอร์ลิง กระชากจากซ้ายตัดเข้ากลางก่อนซัดด้วยขวาไม่ถึง 18 หลาส่งบอลพุ่งเสียบมุมตาข่าย นาที 24 เจ้าบ้าน "ยูงทอง" มีโอกาสลุ้นเช่นกัน เอลแดร์ กอสต้า จ่ายสั้นๆให้ แพทริค แบมฟอร์ด กดด้วยซ้ายพุ่งข้ามคานแบบได้เสียว นาที 37 ลูกทีมของ บิเอลซ่า เกือบได้ลุ้นตีเสมอ ไทเลอร์ โรเบิร์ต ไหลสั้นให้ สจ๊วร์ต ดัลลัส หลุดเข้าไปซัดมุมแคบในกรอบ 6 หลาแต่บอลยังไปติดเซฟของ เอแดร์ซอน ที่ออกมาบล็อคลูกได้ทัน ช่วงทดเจ็บ นาที 45+1 เจ้าบ้านพลาดได้ประตูอีกครั้ง หลัง ลุค อายลิ่ง ฉกความผิดพลาดของ เบนฌาแม็ง เมนดี้ ก่อนลากเข้าไปล็อกหนี เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์ แต่จังหวะซัดด้วยซ้ายดันไปติดปลายมือของ เอแดร์ซอน ที่เซฟได้อย่างเหลือเชื่อ จบครึ่งแรก ลีดส์ ยูไนเต็ด ตามหลัง แมนฯซิตี้ 0-1 ครึ่งหลัง มาร์เซโล่ บิเอลซ่า เปลี่ยนตัวถอดเอา เอซกาน อลิโอสกี้ ที่ไม่มีส่วนร่วมกับเกมเท่าไหร่ออกแล้วส่ง เอียน โปเวด้า-โอกัมโป้ ลงเล่นแทน แค่ นาที 46 เจ้าบ้านได้ลุ้นตีเสมออีก คราวนี้ โปเวด้า-โอกัมโป้ ไหลบอลต่อให้ แพทริค แบมฟอร์โ ซัดด้วยซ้าย ทว่ายังไปติดบล็อคของ รูเบน ดิอาซ ที่ช่วยเซฟสกัดไม่ให้ทีมเยือนเสียประตู นาที 56 "ยูงทอง" เปลี่ยนตัวอีกส่ง โรดรีโก้ โมเรโน่ หัวหอกทีมชาติสเปนลงมาเล่นแทน ไทเลอร์ โรเบิร์ต แค่ 2 นาทีที่อยู่ในสนาม โรดรีโก้ เกือบแผลงฤทธิ์หลังกระชากเข้าไปในกรอบแล้วหวดด้วยซ้ายมุมแคบบอลไปแฉลบแนวรับก่อนพุ่งชนสามเหลี่ยนมออกหลัง นาที 59 จากจังหวะต่อเนื่องจากลูกเตะมุม เจ้าบ้านมาทวงประตูตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ คัลวิน ฟิลลิปส์ เปิดคอนเนอร์มากลางประตู ทว่า เอแดร์ซอน นายด่านของซิตี้ออกมาตัดบอลพลาดทำหลุดมือไปชน เบนฌาแม็ง เมนดี้ ก่อนมาเข้าทาง โรดรีโก้ โมเรโน่ ซัดจ่อๆด้วยขวาเข้าไป เป็นประตูของเจ้าตัวในพรีเมียร์ลีกนับแต่ย้ายมาร่วมทีม เป๊ป ต้องแก้เกมบ้าง ถอดเอา เฟร์ราน ตอร์เรส ออกแล้วส่ง แบร์นาร์โด้ ซิลวา ที่หายเจ็บกลายมาเล่นแทน นาที 68 เจ้าบ้านเกือบพลิกแซงขึ้นนำ บอลจากฟรีคิกทางซ้ายเปิดมาในกรอบ เลียม คูเปอร์ เทกตัวโขกไปแฉลบหัว โรดรี้ ก่อนไปติดปลายมือ เอแดร์ซอน ปัดชนเสาอย่างน่าเสียดาย ทัพ "ยูงทอง" โหมกดดันบุกใส่อย่างหนัก คราวนี้ ลุค อายลิ่ง ครอสจากขวามาเสาแรก แพทริค แบมฟอร์ด โขกเช็ดเช็ดกลางให้ โรดรีโก้ โมเรโน่ โหม่งย้อนไปเสาแรก บอลกำลังจะย้อยเข้าอยู่แล้วแต่ เอแดร์ซอน ยังเหินปัดไปชนคานออกหลังหวุด หวิด นาที 72 "เรือใบสีฟ้า" พลาดโอกาสขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย หลัง สเตอร์ลิง หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับ อิลล็อง เมสลิเย่ร์ แต่จังหวะสุดท้ายพยายามจะเลี้ยงหลบเลยโดนนายด่านยูงทองตะครุบบอลไว้ได้ นาที 74 เอแดร์ซอน ต้องออกแรงเซฟอีก หลัง โรดริโก้ ไหลบอลต่อให้ แพทริค แบมฟอร์ด หลุดเข้าไปซัดด้วยซ้าย ยังดีนายด่านทีมชาติบราซิลช่วยชีวิต "ซิตี้" ไว้ได้ ท้ายเกม ลูกทีมของ เป๊ป ไม่สามารถเจาะแนวรับยูงทองเพิ่มได้ จบเกม ลีดส์ ยูไนเต็ด เสมอกับ แมนฯซิตี้ 1-1 แบ่งแต้มกันไป รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม ลีดส์ ยูไนเต็ด (4-1-4-1) : อิลล็อง เมสลิเย่ร์ - ลุค อายลิ่ง, โรบิน คอช, เลียม คูเปอร์, สจ๊วร์ต ดัลลัส - คัลวิน ฟิลลิปส์ - เอลแดร์ กอสต้า, ไทเลอร์ โรเบิร์ต (โรดริโก้ โมเรโน่ น.56), มาเตอุสซ์ คลิช (เลฟ เดวิส น.77), เอซกาน อลิโอสกี้ (เอียน โปเวด้า-โอกัมโป้ น.46) - แพทริค แบมฟอร์ด ผู้จัดการทีม : มาร์เซโล่ บิเอลซ่า แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส - ไคล์ วอล์คเกอร์, เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์, รูเบน ดิอาส, เบนฌาแม็ง เมนดี้ (นาธาน อาเก้ น.71) - เควิน เดอ บรอยน์, โรดรี้ เอร์นานเดซ, ฟิล โฟเด้น - เฟร์ราน ตอร์เรส ( แบร์นาร์โด้ ซิลวา น.65), ราฮีม สเตอร์ลิง, ริยาด มาห์เรซ (แฟร์นันดินโญ่ น.77) ผู้จัดการทีม : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้ตัดสิน : ไมค์ ดีน |
|