|
27
ก.ย. สุดดราม่า! แมนยูได้เสา-คานเซฟ5ครั้งก่อนVARให้จุดโทษนำชัยน.90+10
ถือเป็นเกมสุดดราม่าประจำสัปดาห์นี้ หลัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดนตามตีเสมอในช่วง 90+5 แต่มาได้จุดโทษในช่วงทดเจ็บ 90+10 จากการย้อนดูวีเออาร์ของผู้ตัดสิน ก่อนที่ บรูโน่ แฟร์นันด์ส จะสังหารเข้าไปเป้นประตูชัยให้ทีมเอาชนะ ไบรท์ตัน ไปแบบสุดมันส์ 3-2 ประเดิม 3 แต้มได้สำเร็จ ในศึกพรีเมียร์ลีก เมื่อวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จัดทัพใหญ่ล่าสามแต้มแรกของฤดูกาล โดยปรับสามตำแหน่งจากชุดพ่าย พาเลซ นัดแรก เริ่มจาก อารอน วาน-บิสซาก้า แทน ทิโมธี โฟซู-เมนซาห์ เล่นแบ็กขวา, เนมานย่า มาติช แทน สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ ตรงกลาง และ เมสัน กรีนวู้ด ลุยแนวรุกแทน แดน เจมส์ ฟาก นกนางนวล ปรับตำแหน่งเดียวจากชุดไล่อัด นิวคาสเซิ่ล 3-0 โดย อีฟส์ บิสซูม่า ติดโทษแบนทำให้ อดัม ลัลลาน่า ได้ลงโชว์ฝีเท้า และหวังหลอนปีศาจแดงอีกครั้ง หลังเคยตะบันให้ ลิเวอร์พูล เมื่อฤดูกาลที่แล้ว เกมที่ เอเม็กซ์ สเตเดี้ยม เริ่มขึ้นโดยทั้งสองทีม เปิดฉากลุยใส่กันทันที น.9 แฟนเจ้าบ้านหวิดได้เฮเมื่อ ทรอสซาร์ จับบอลแล้วสับไกจากหน้ากรอบเขตโทษด้านซ้ายลูกลอยไปชนเสาอย่างจัง ขณะที่ ดาบิด เด เคอา บินไม่ถึงไปแล้ว ถัดมานาที 15 โอกาสเป็นของ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อ กรีนวู้ด อาศัยความผิดพลาดของนักเตะเจ้าบ้าน ฉกบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนตัดสินใจซัดด้วยซ้ายผ่านหน้าปากประตูไป เกมแลกกันสนุก จังหวะต่อมา ทรอสซาร์ หวิดพังตาข่ายให้ ไบรท์ตัน ได้จากจังหวะวางเท้ากระหน่ำเรียดเน้นๆ แต่ลูกพุ่งถากเสาไปหวุดหวิด ทำเอา เด เคอา ต้องโวยแหลกเพื่อนๆ เลยทีเดียว ถัดมา น.30 เจ้าถิ่นน่าได้ประตูอีกแล้วเมื่อ อดัม เว็บสเตอร์ ได้โหม่งย้อยๆ ไปชนคาน จากนั้น นาที 32 ปีศาจแดง ต่อบอลกันได้สวย ก่อนจบที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด ไหลจากทางซ้ายให้ กรีนวู้ด สอดขึ้นมายิงตุงตาข่าย แต่ต้องเฮเก้อ เพราะไลน์แมนยกธงว่า แรชฟอร์ด ล้ำหน้าไปก่อนแล้ว จนกระทั่ง นาที 38 บรูโน่ แฟร์นันด์ส ไปทำฟาวล์ใส่ ทาริค แลมพ์ตีย์ ล้มลงในเขตโทษผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที ก่อนจะเป็น นีล โมเปย์ รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาดให้ ไบรท์ตัน ขึ้นนำก่อน 1-0 อย่างไรก็ตามหลังจากนั้น นาที 43 "ปีศาจแดง" ตามตีเสมอทันควัน 1-1 จากจังหวะที่ เนมานย่า มาติช ได้บอลถึงสุดเส้นหลังแล้วหักกลับเข้าในให้ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ แต่ ลูอิส ดังค์ พยายามสกัดบอลแต่เปลี่ยนทางเข้าประตูตัวเองไป ก่อนจะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้ ครึ่งหลังเล่นมาได้เพียง 2 นาที ปอล ป็อกบา ไปชน คอเนอร์ คอนนอลลี่ ล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษ แต่มาย้อนดูวีเออาร์กลับคำตัดสินเนื่องจากมองว่า คอนนอลลี่ พุ่งล้มลงไปเอง จากนั้น นาที 52 แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องเฮเก้ออีกครั้งจากจังหวะที่ เมสัน กรีนวู้ด หลุดมาทางซ้ายแล้วจ่ายยัดเข้าในให้ มาคัส แรชฟอร์ด ซัดจ่อๆส่งบอลตุงตาข่าย แต่ผู้ตัดสินเช็กวีเออาร์แสดงให้เห็นว่ากองหน้าทีมชาติอังกฤษอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า ชวดได้ประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย อย่างไรก็ตาม นาที 55 "ปีศาจแดง" ได้ประตูพลิกขึ้นนำ 2-1 จากจังหวะที่ มาคัส แรชฟอร์ด ใช้ความสามารถเฉพาะตัวหลบ เบน ไวท์ จนเสียหลัก ก่อนจะได้ซัดโล่งๆด้วยซ้ายบอลไปแฉลบแนวรับ ไบรท์ตัน เข้าประตูไป ทั้งสองทีมแลกหมัดใส่กันสนุก นาที 60 ไบรท์ตัน ชวดได้ประตูตามตีเสมอเมื่อ สตอรี่ มาร์ช หลุดมาทั่งฝ้ายซ้ายโล่งๆบรรจงซัดจ่อๆบอลพุ่งไปชนเสาไกลอย่างน่าเสียดาย นาที 76 ทีม "นกนางนวล" ชวดตีเสมออีกครั้ง เลอันโดร ทรอสซาร์ หลุดมาทางฝั่งซ้ายแล้วกดเต็มข้อบอลไปชนคานสนั่น อย่างไรก็ตามช่วงทดเจ็บนาที 90+5 ไบรท์ตัน ทำช็อกได้ประตูตีเสมอ 2-2 จากจังหวะที่ สตอรี่ มาร์ช ได้ยืนโขกโล่งที่เสาไกลส่งบอลตุงตาข่าย ดราม่ายังไม่จบเพียงเท่านี้ช่วงทดเจ็บ 90+10 แฮร์รี่ แม็กไกวร์ โหม่งไปโดนมือของ นีล โมเปย์ ในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าหมดเวลาไปแล้ว แต่ไปเช็กวีเออาร์ก่อนจะย้อนกลับมาให้เป็นจุดโทษแล้วเป็น บรูโน่ แฟร์นันด์ส รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่เหลือให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นนำอีกครั้ง 3-2 เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกชนะ ไบรท์ตัน 3-2 ประเดิบชัยเกมแรกขยับขึ้นมารั้งที่ 13 ของตาราง ส่วน ไบรท์ตัน หล่นมารั้งที่ 10 รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม ไบร์ทตัน (3-4-3) : แม็ทธิว ไรอัน - เบน ไวท์, ลูอิส ดังค์, อดัม เว็บสเตอร์ - ทาริค แลมพ์ตีย์, อดัม ลัลลาน่า, สตีเว่น อัลซาเต้, สตอรี่ มาร์ช - เลอันโดร ทรอสซาร์, คอเนอร์ คอนนอลลี่, นีล โมเปย์ แมนฯยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา - อารอน วาน-บิสซาก้า, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, ลุค ชอว์ - ปอล ป็อกบา, เนมานย่า มาติช - เมสัน กรีนวู้ด, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, มาร์คัส แรชฟอร์ด - อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล |
|