เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือแมนฯ ซิตี้ หืดจับเหลือเกินหลังบุกเสมอ เลสเตอร์ 1-1 ในเวลา 90 นาทีต้องตัดสินด้วยการยิงจุดโทษ ก่อนเป็นทัพ "เรือใบสีฟ้า" แม่นกว่าคว้าชัยไปด้วยสกอร์ 3-1 ทะยานเข้ารอบรองชนะเลิศต่อไป ในศึกฟุตบอล คาราบาว คัพ อังกฤษ เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา

สนาม : คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม

โคล้ด ปูแอล กุนซือเลสเตอร์ พาทีมแพ้คริสตัล พาเลซ 0-1 ในเกมล่าสุด เป็นการแพ้ 2 นัดติด หลังจากที่ก่อนหน้านั้นผลงานดีไม่แพ้มา 7 นัดรวด ทำให้สถานการณ์เริ่มไม่ดีเท่าไรนัก

ฟาก เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือแมนฯ ซิตี้ พาทีมชนะเอฟเวอร์ตัน 3-1 ในเกมล่าสุด เป็นการคว้าชัย 2 นัดติดแล้ว หลังจากที่สัปดาห์ก่อนไปสะดุดในพรีเมียร์ลีกเสียท่าให้เชลซี

เกมเริ่มได้ 10 นาที ยังไม่มีโอกาสซัดประตูด้วยกันทั้งคู่โดยเป็น "เรือใบสีฟ้า" ครองบอลบุกเข้าใส่ตามคาดแต่ "สุนัขจิ้งจอก" เจ้าถิ่นก็มีจังหวะวูบวาบในการสวนกลับเช่นกัน

แต่แล้วนาทีที่ 14 "เรือใบสีฟ้า" มาได้ประตูขึ้นนำจนได้จากความสุดยอดของ เควิน เดอ บรอยน์ ใช้ความสามารถเฉพาะตัวหลอกผู้เล่นเจ้าถิ่นหลายคนก่อนหักข้อยิงไกลด้วยขวาที่เสาแรก บอลพุ่งเสียบมุมตุงตาข่าย เลสเตอร์ 0 แมนฯ ซิตี้ 1

3 นาทีต่อมา ริยาด มาห์เรซ เกือบซัดประตูทีมเก่าเป็นจังหวะเก็บตกบอลเปิดของ บราอิม ดิอ๊าซ ในกรอบเขตโทษก่อนปีกชาว แอลจีเรีย ใส่เต็มขอด้วยซ้ายแต่บอลเหินข้ามคานออกไป

นาทีที่ 20 โอกาสแรกของทัพ "สุนัขจิ้งจอก" เป็นของ เดมาไร เกรย์ ได้ลองส่องไกลบอลพุ่งต่ำโค้งเกือบเสียบเสายังดีที่ อริยาเน็ต มูริช นายทวาร "เรือใบสีฟ้า" พุ่งปัดออกไปได้

ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก 5 นาทีทัพ "สุนัขจิ้งจอก" กดดันหนักมีโอกาสลุ้นหลายครั้งทั้งจากลูกฟรีคิก และ จังหวะยิงในเขตโทษของ วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ แต่ก็พลาดไปหมด

หมดเวลาครึ่งแรก เลสเตอร์ 0 แมนฯ ซิตี้ 1

ครึ่งหลังเริ่มได้ 2 นาที "เรือใบสีฟ้า" เกือบได้ประตูเพิ่มจากความผิดพลาดของ บิเซนเต้ อิบอร์ร่า โดนตัดบอลกลางสนาม ก่อนเป็น เซร์คิโอ อเกวโร่ วิ่งหลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปซัดแต่ยังไม่ผ่านมือ แดนนี่ วอร์ด ที่ล้มตัวเซฟเอาไว้ได้

นาทีที่ 62 บราอิม ดิอ๊าซ รับบอลจาก เควิน เดอ บรอยน์ ได้โอกาสหลุดเข้ากรอบเขตโทษทางฝั่งซ้ายยังดีที่แนวรับเจ้าถิ่นตามมาสกัดทิ้งได้ทัน และเป็นจังหวะสุดท้ายของเจ้าตัวในเกมนี้ หลัง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เปลี่ยน ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ลงสนามแทน

5 นาทีต่อมา "เรือใบสีฟ้า" โหมใส่เต็มที่คราวนี้เป็น ริยาด มาห์เรซ ได้ยืนปั่นโล่งๆด้วยซ้ายหน้าเขตโทษ โชคไม่ดีบอลออกหลังแบบน่าเหลือเชื่อ

แต่แล้วนาทีที่ 73 เจ้าถิ่นตามตีเสมอจนได้จากจังหวะวางบอลยาวของ วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ ให้ มาร์ค อัลไบรท์ตัน ที่ลงสนามได้เพียง 12 นาทีวิ่งหลุดกับดักล้ำหน้าจับบอลหนึ่งที่ก่อนหวดเต็มข้อด้วยขวาบอลแรงแสกหน้า อริยาเน็ต มูริช เข้าไปแบบสุดสวย เลสเตอร์ 1 แมนฯ ซิตี้ 1

ท้ายเกมนาทีที่ 82 "เรือใบสีฟ้า" มีลุ้นได้จุดโทษจากจังหวะ ฮัมซ่า ชูดูรี่ เข้าบอลแรงใส่ผุ้เล่น แมนฯ ซิตี้ แต่ผู้ตัดสินไม่ได้เป่านกหวีดหรือขอดู วีเออาร์ แต่อย่างใด

ช่วงเวลาที่เหลือมีเสียวด้วยกันทั้งคู่แต่ก็ไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม 90 นาที เลสเตอร์ 1 แมนฯ ซิตี้ 1 ต้องตัดสินด้วยการยิงจุดโทษ

ผลปรากฎว่าแข้ง "เรือใบสีฟ้า" ยิงได้แม่นยำกว่าเอาชนะในการดวลจุดโทษ 3-1 ผ่านเข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศสำเร็จ

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

เลสเตอร์ (4-3-3) : แดนนี่ วอร์ด - แดนนี่ ซิมพ์สัน, คักลาร์ โซยุนคู, แฮร์รี่ แม็คไกวร์, คริสเตียน ฟุคส์ - บิเซนเต้ อิบอร์ร่า (มาร์ค อัลไบรท์ตัน น. 61), ฮัมซ่า ชูดูรี่, วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้ - ราชิด เกซซาล (เจมส์ แมดดิสัน น. 53), เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ (ริคาร์โด้ เปเรย์รา น. 81), เดมาไร เกรย์

ผู้จัดการทีม : โคล้ด ปูแอล

แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : อริยาเน็ต มูริช - ไคล์ วอล์คเกอร์, เอริค การ์เซีย, นิโกลัส โอตาเมนดี้, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ - เควิน เดอ บรอยน์ (อิลคาย กุนโดกัน น. 71), จอห์น สโตนส์, ฟิล โฟเด้น - ริยาด มาห์เรซ, เซร์คิโอ อเกวโร่ ''กุน'' (กาเบรียล เฆซุส น. 75), บราอิม ดิอ๊าซ (ราฮีม สเตอร์ลิ่ง น. 67)

ผู้จัดการทีม : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

ผู้ตัดสิน : ลี เมสัน

สยามสปอร์ต