สกอตต์ พาร์เกอร์ กุนซือ "เจ้าสัวน้อย" ทำสำเร็จหลังเบียดชนะ เบรนท์ฟอร์ด ช่วงต่อเวลาพิเศษ 2-1 จากความฮอตของ โจ ไบรอัน เหมาคนเดียว 2 ประตูพาทีมซิวตั๋วใบสุดท้ายขึ้นสู่พรีเมียร์ลีก ตามหลัง ลีดส์ ยูไนเต็ด และ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ในศึกฟุตบอล เดอะ แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ (นัดชิงชนะเลิศเพลย์ออฟ) วันอังคารที่ผ่านมา

สนาม : เวมบลีย์ สเตเดี้ยม

กุนซือ โธมัส แฟร้งค์ พาเดอะ บีส์เรียกความมั่นใจกลับคืนถูกที่ถูกเวลาในนัดล่าสุดเปิดบ้านชนะสวอนซี 3-1 ในรอบตัดเชือกเพลย์ออฟ นัดสอง สกอร์รวมพลิกเข้าป้าย 3-2 จากสะดุดแพ้รวด 3 เกมก่อนหน้า ผ่านเข้าชิงตั๋วขึ้นลีกสูงสุดหนแรกรอบ 73 ปีสโมสร

ส่วนทาง กุนซือ สกอตต์ พาร์เกอร์ นำเจ้าสัวน้อยเสียสถิติไร้พ่ายตลอด 8 เกมลีกหลัง (ชนะ 6 เสมอ 2) เมื่อนัดล่าสุดที่เปิดบ้านเสียท่าคาร์ดิฟฟ์ 1-2 ทว่าสองผลสองนัดรอบรองชนะเลิศเพลย์ออฟเลื่อนชั้นยังเฉือน 3-2 ผ่านเข้าชิงดำลุ้นหวนคืนลีกสูงสุดในเวลาแค่ปีเดียว

4 นาทีผ่านเป็น "เจ้าสัวน้อย" ทักทายก่อนจากจังหวะของ จอช โอโนมาห์ พาบอลขึ้นมาจากกลางสนามก่อนแต่งเข้าขวาซัดระยะร่วม 30 หลาไปเข้ามือ ดาบิด ราย่า ล้มตัวรับเอาไว้ได้

ต่อมาอีก 2 นาที เบรนท์ฟอร์ด มาได้ฟรีคิกระยะอันตรายเป็น ไมเคิ่ล เฮ็คเตอร์ เสียเหลี่ยมไปอัดใส่ ซาอิด เบนราห์ม่า ร่วงลงไปแต่น่าเสียดาย อาบูบาการ์ กามาร่า ปั่นด้วยซ้ายลูกนี้ไปติดกำแพง

นาทีที่ 9 ทัพ "เดอะ บีส์" เกือบซวยจากความผิดพลาดของ ดาบิด ราย่า แตะบอลยาวก่อนหวดทิ้งไปเข้าทาง จอช โอโนมาห์ แหวกผ่านเข้ามาเกือบได้ยิงโชคดียังมีเพื่อนมาช่วยเคลียร์ได้ทัน

นาทีที่ 17 ฟูแล่ม พลาดโอกาสทองเป็นลูกจ่ายสุดสวยของ แฮร์ริสัน รีด แทงช่องให้ จอช โอโนมาห์ สอดมาเก็บบอลคลึงหาช่องก่อนตวัดด้วยขวาย้อนเสาไกลไปติดปลายมือ ดาบิด ราย่า เซฟไว้ได้เหลือเชื่อ

ครึ่งทางผ่าน เบรนท์ฟอร์ด พยายามตั้งเกมสู้คราวนี้เป็น ริโก้ เฮนรี่ เติมขึ้นมาริมเส้นทางซ้ายก่อนครอสเข้าเขตโทษมาตกใส่หัว บริย็อง เอ็มเบวโม่ โขกเปลี่ยนทางแต่บอลเบาเข้ามือ มาเร็ค โรดัค

หมดครึ่งเวลาแรก เบรนท์ฟอร์ด 0 ฟูแล่ม 0

ครึ่งหลังนาทีที่ 47 ฟูแล่ม ได้เสียวอีกครั้งจากลูกฟรีคิกหน้าหัวกะโหลกของ เนสเค่นส์ เคบาโน่ วิ่งมาปั่นด้วยขวาบอลโค้งอ้อมกำแพงหลุดเสาไปเข้าข้างหน้าต่างนิดเดียว

นาทีที่ 59 "เจ้าสัวน้อย" เกือบทะยานออกนำเป็นบอลทางขวาของ เดนิส โอดัว เติมขึ้นมาครอสลึกข้ามหัว อาบูบาการ์ กามาร่า เลยมาเสาไกลถึง บ็อบบี้ รีด แต่งบอลลงพื้นก่อนตวัดด้วยขวาเหินข้ามคานออกไปอีก

70 นาทีผ่าน "เดอะ บีส์" ตอบโต้บ้างเป็น มาติอัส เยนเซ่น พาบอลขึ้นมาทางขวาก่อนยัดเข้าในให้ ออลลี่ วัตกิ้นส์ ได้จังหวะตะบันเต็มแรงบอลพุ่งเสียบใต้คานแต่ มาเร็ค โรดัค ผวาปัดทิ้งหวุดหวิด

ท้ายเกมนาทีที่ 84 เบรนท์ฟอร์ด บุกขึ้นมาทางฝั่งขวาเป็น โจชัวร์ ดา ซิลวา พักบอลก่อนจ่ายย้อนเข้าในไปให้ ออลลี่ วัตกิ้นส์ เหยียดขาแปะคืนถึง คริสเตียน นอร์การ์ด สอดมาซัดหลุดออกไปไกล

ครบ 90 นาที เบรนท์ฟอร์ด 0 ฟูแล่ม 0 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไป

ช่วงต่อเวลาพิเศษเริ่มได้เพียง 1 นาที เบรนท์ฟอร์ด มาพลาดจังหวะสำคัญเป็น ออลลี่ วัตกิ้นส์ สอดเอาชนะแนวรับ ฟูแล่ม เข้ามาชาร์จบอลระยะไม่ถึง 5 หลาโดนขาตัวเองหลุดออกหลัง

นาทีที่ 95 ฟูแล่ม หวิดได้ส้มหล่นเป็น ดาบิด ราย่า ออกมาเคลียร์บอลไม่ดีเข้าทาง อาบูบาการ์ กามาร่า ลากตัดเข้าในก่อนอัดด้วยขวาโชคยังดีเข้ากลางประตู ดาบิด ราย่า ล้มตัวเซฟกู้หน้าเอาไว้ได้

แต่แล้วนาทีที่ 105 "เจ้าสัวน้อย" มาได้ประตูชัยแบบงงๆเป็นลูกฟรีคิกเกือบกลางสนามของ โจ ไบรอัน มองเห็น ดาบิด ราย่า นายทวาร เบรนท์ฟอร์ด ออกมาไกลจากเส้นประตูตัดสินใจหลอกยิงบอลโค้งเบียดเสาแรกเข้าไปสุดงาม

ครบ 15 นาทีแรกช่วงต่อเวลาพิเศษ เบรนท์ฟอร์ด 0 ฟูแล่ม 1

ยังไม่หนำใจ! นาทีที่ 117 ฟูแล่ม มาบวกสกอร์เพิ่มจนได้ เป็นความสุดยอดของ โจ ไบรอัน เติมเกมรุกขึ้นมาทำชิ่งกับ อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช หลุดเข้าไปซัดสวนตัว ดาบิด ราย่า เข้าไปไม่มีเหลือ

ช่วงต่อเวลานาที 120+4 เบรนท์ฟอร์ด ไม่ยอมแพ้มาตามตีไข่แตกเป็นบอลโยนจากทางซ้าย คริสเตียน นอร์การ์ด โขกชงไปเสาแรกให้ เฮนริค ดาลส์การ์ด สอดมาชาร์จผ่าน มาเร็ค โรดัค ตุงตาข่าย

จบช่วงเวลาพิเศษ เบรนท์ฟอร์ด 1 ฟูแล่ม 2 ลูกทีมของ สกอตต์ พาร์เกอร์ สุดแกร่งคัมแบ็กภายในปีเดียวซิวตั๋วสุดท้ายขึ้นลีกสูงสุดตามหลัง ลีดส์ ยูไนเต็ด และ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยนโดยศึกพรีเมียร์ลีกอังกฤษ จะกลับมาเปิดฤดูกาล 2020/21 ในวันเสาร์ที่ 12 กันยายน นี้

รายชื่อนักเตะที่ลงสนามตัวจริง

เบรนท์ฟอร์ด (4-3-3) : ดาบิด ราย่า - เฮนริค ดาลส์การ์ด, ปอนตุส ยานส์สัน, เอธาน พินน็อค, ริโก้ เฮนรี่ (ทาริก โฟซู น.106) - มาติอัส เยนเซ่น (อิบราฮิม เดอร์วิโซกลู น.105+1), คริสเตียน นอร์การ์ด, โจชัวร์ ดา ซิลวา (เซร์จี้ กานญอส น.83) - บริย็อง เอ็มเบวโม่ (เอมิเลียโน่ มาร์คอนเดส น.61), ออลลี่ วัตกิ้นส์, ซาอิด เบนราห์ม่า

ฟูแล่ม (4-2-3-1) : มาเร็ค โรดัค - เดนิส โอดัว (ไซรัส คริสตี้ น.110), ไมเคิ่ล เฮ็คเตอร์, ทิม รีม, โจ ไบรอัน - แฮร์ริสัน รีด, ทอม แคร์นี่ย์ - อาบูบาการ์ กามาร่า (อีวาน คาวาเลโร น.105+1), จอช โอโนมาห์ (มักซีม เลอ มาร์กช็องด์ น.110), เนสเค่นส์ เคบาโน่ (อ็องโตนี่ น็อคการ์ท น.81) - บ็อบบี้ รีด (อเล็กซานดาร์ มิโตรวิช น.90+2)

ผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอตคินสัน

www.siamsport.co.th