25
ก.ค.
เซ่นเอ็มบั๊ปเป้! เนย์มาร์กดชัย-ปารีสบี้แซงต์เอเตียน10คน ซิวเฟร้นช์คัพสมัย13

8af897775f16e801d30428c79601e654.jpg


ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ผงาดคว้าแชมป์ เฟร้นช์ คัพ สูงสุดเป็นสมัยที่ 13 หลังบดเอาชนะ แซงต์ เอเตียนที่เหลือแค่ 10 คน แบบสุดเดือด 1-0 จากประตูชัยของ เนย์มาร์ ในนัดชิงชนะเลิศ เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งเกมนี้ แซงต์ เอเตียนต้องเหลือ 10 คน หลัง โลอิก แปร์แร็ง กัปตันทีมโดนใบแดงจากการไปเสียบ คีลิยัน เอ็มปั๊ปเป้ จนเจ็บหนักเล่นต่อไม่ไหว ต้องลุ้นว่าจะหายทันเกมชปล.ในช่วงเดือนสิงหาคมหรือไม่?

สนาม : สต๊าด เดอ ฟร้องซ์

ศึกเฟร้นช์ คัพ รอบชิงชนะเลิศ เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เป็นการพบกันระหว่างแชมป์สูงสุด 12 สมัยอย่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง พบกับ แซงต์ เอเตียน แชมป์ 6 สมัย

โธมัส ทูเคิ่ล เทรนเนอร์ชาวเยอรมันวัย 46 ปีของเปแอสเช จัดชุดใหญ่หน้าคู่วาง เมาโร อีการ์ดี้ และคีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ล่าตาข่ายโดยมีตัวสนับสนุนชั้นยอดอย่าง เนย์มาร์ ส่วนทางฝั่ง โคล้ด ปูแอล เทรนเนอร์ของ แซงต์ เอเตียน วาง โรแม็ง อามูม่า และเดอนีส์ บวงก้า เป็นทีเด็ด

ออกสตาร์ทเกมครึ่งแรก ทั้งคู่เปิดเกมรุกเข้าใส่อย่างสนุก นาทีที่ 5 แซงต์ เอเตียน เกือบชิงขึ้นนำก่อนหลัง โรแม็ง อามูม่า หัวหอกตัวเก่งพาบอลตะลุยเข้าไปซัดด้วยขวาบอลผ่านมือ เกย์ลอร์ นาวาส ไปแล้วแต่ไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย

นาที 14 โอกาสเข้าทำหนแรกของ เปแอสเช ก็ขึ้นนำ 1-0 ทันทีจากจังหวะที่ คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ รับบอลชิ่งจาก ดิ มาเรีย ก่อนหลุดเข้าไปใส่ด้วยขวาติดเซฟของ เชสซี่ มูแล็ง แต่บอลไม่พ้นอันตรายไปเข้าทาง เนย์มาร์ ซ้ำด้วยซ้ายเช็ดใต้คานเข้าไปอย่างเด็ดขาด

แซง เอเตียน หลังเสียประตู ก็อยู่ไม่ได้โหมบุกบ้างเพื่อหวังไล่ตีเสมอ นาที 16 ได้ลุ้นเช่นกัน โรแม็ง อามูม่า ไหลบอลให้ เดอนีส์ บวงก้า หลุดเข้าไปกดด้วยขวาแต่ยังไม่ผ่านมือ เกย์ลอร์ นาวาส ที่เซฟไว้ด้อย่างยอดเยี่ยม

อีก 4 นาทีต่อมา เปแอสเช ต้องเปลี่ยนตัวคนแรกหลัง ธีโล เคห์เรอร์ แบ็กขวาบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหวต้องส่ง โกแล็ง ดั๊กบา ลงเล่นแทน

แซงต์ เอเตียน ได้ลุ้นอย่างต่อเนื่อง นาที่ 21 พลาดโอกาสไล่ตีเสมออีกหลัง อามูม่า ครอสบอลมาให้ เดอนีส์ บวงก้า เทกตัวขึ้นโขกเหน่งๆ แต่ยังไม่ผ่านมือ นาวาส อีกหน

ทว่า "ปารีสฯ" มาแบบเน้นๆกว่า นาที 25 อังเคล ดิ มาเรีย หลุดเข้าไปซัดด้วยซ้ายบอลพุ่งไปติดมือ เชสซี่ มูแล็ง เหินปัดออกหลังอีก

นาที 27 คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ได้บอลหลุดเข้าไปแต่โดน โลอิก แปร์แร็ง พุ่งมาตัดเข้าเสียบอย่างน่าเกลียดจน เอ็มปั๊ปเป้ ลงไปนอนกับพื้น ซึ่งเป็นชนวนให้เพื่อนร่วมทีม เปแอสเช ไม่พอวิ่งปรี่ไปหาจนเกือบมีเรื่องชุลมุ่นวุ่นวาย ซึ่งหลังเหตุการณ์สงบลงผู้ตัดสินเดินทางแจกใบเหลืองทั้ง เลอันโดร ปาเรเดส และมิทเชล บัคเคอร์ สองแข้งปารีส กับโรแม็ง อามูม่า ดาวยิงของ แซงต์ เอเตียน รวมถึงต้นเหตุอย่าง โลอิก แปร์แร็ง

จากนั้นมีสัญญาณจาก VAR ถึงความเป็นไปได้ที่จะเป็นใบแดงของ โลอิก แปร์แร็ง ซึ่งหลัง อาโมรี่ เดอเลอรู ผู้ตัดสินวิ่งไปดูมอนิเตอร์ข้างสนามได้วิ่งมากลับคำตัดสินที่ก่อนจะเอามือควักกระเป๋าหลังเปลี่ยนเป็นแจกใบแดงให้ แปร์แร็ง ในนาที 31 ทำให้แซงต์ เอเตียน เหลือแค่ 10 คน

แถม โธมัส ทูเคิ่ล ต้องเปลี่ยนเอา คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ ที่เจ็บจนเล่นไม่ไหวแล้วส่ง ปาโบล ซาราเบีย ลงเล่นแทนในนาที 34 ส่วนแซงต์ เอเตียน ต้องแก้เกมถอด ยานน์ มาครง ตัวรุกออกแล้วส่ง ฮาโรลด์ มูคูดี้ แนวรับไปเล่นแทน

ช่วงทดเจ็บ นาที 45+2 เปแอสเช เกือบได้เม็ดที่สองนำห่างหลังได้ฟรีคิกทางด้านขวา อังเคล ดิ มาเรีย ปั่นข้ามกำแพงจะเสียบเสาแรกอยู่แล้วแต่ เชสซี่ มูแล็ง ยังยอดเยี่ยมปัดออกหลังหวุดหวิด

จบครึ่งแรก ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ขึ้นนำ แซงต์ เอเตียน 1-0

กลับมาบู๊กันต่อในครึ่งหลัง แซงต์ เอเตียน เป็นสองคนรวดเลยส่ง ยาน เนยู เล่นแทน มาห์ดี้ กามาร่า และส่ง วาห์บี คาซรี่ ลงเล่นแทน โรแม็ง อามูม่า

นาที 47 วาห์บี คาซรี่ ที่เพิ่งลงมาของ แซงต์ เอเตียน ได้ลองทักทายด้วยการยิงไกลกว่า 40 หลาแต่บอลลอยโด่งหลุดเสาออกไปแบบได้เสียว

นาที 73 เปแอสเช พลาดโอกาสได้ประตูนำห่างหลัง ดิ มาเรีย แทงบอลให้ ปาโบล ซาราเบีย หลุดเข้าไปซัดด้วยซ้ายแต่บอลก็ไม่ผ่านตัว เชสซี่ มูแล็ง

อีก 3 นาทีถัดมา ยาน เนยู ได้ลองกดด้วยขวานอกกรอบบ้างแต่บอลก็ยังเบาไปเข้ามือ เกย์ลอร์ นาวาส รับไว้ได้ไม่ยาก

ช่วงท้ายเกม แซงต์ เอเตียน บุกหนักเพื่อทวงประตูเสมอให้ได้ แต่บอลยังไม่ผ่านแนวรับเปแอสเชที่เล่นอย่างเหนียวแน่น จนจบเกม ผู้ตัดสินเป่าจบการแข่งขันเป็นอันว่า ปารีส แซงต์-แชร์กแมง คว้าชัยะเหนือ แซงต์-เอเตียน 1-0 คว้าแชมป์รายการนี้เป็นสมัยที่ 13

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (4-4-2) : เกย์ลอร์ นาวาส - ธีโล เคห์เรอร์ (โกแล็ง ดักบ้า น.20), มาร์กินญอส, ติอาโก้ ซิลวา (กัปตันทีม), มิทเชล บัคเคอร์ - อังเคล ดิ มาเรีย, อิดริสซ่า กาน่า เกย์, เลอันโดร ปาเรเดส (มาร์โก แวร์รัตติ น.31), เนย์มาร์ - เมาโร อีการ์ดี้, คีลิยัน เอ็มบั๊ปเป้ (ปาโบล ซาราเบีย น.34)

แซงต์-เอเตียน :มาติเยอ เดอบูชี่ (ฌอง-ฟิลลิป กราสโซ่ น.83), โลอิก แปร์แร็ง (กัปตันทีม) (ใบแดง น.31), เวสเล่ย์ โฟฟาน่า, ติโมเต้ โคล็อดเซียจซัค - ยันน์ เอ็มวีล่า, มาห์ดี้ กามาร่า (ยาน เนรู น.46) - ยานน์ มาครง (ฮาโรลด์ มูคูดี้ น.34), ริยาด บูเดอบุซ (อาร์โนลด์ นอร์แด็ง น.75), เดอนีส์ บวงก้า - โรแม็ง อามูม่า (วาห์บี คาซรี่ น.46)

ผู้ตัดสิน : อาโมรี่ เดอเลอรู

www.siamsport.co.th

© 2018-2025 Coreball.com All Rights Reserved.