17
ก.ค.
"แรชฟอร์ด" ทั้งยิงทั้งจ่าย!แมนยูแต้มทาบเลสเตอร์หลังบุกบดพาเลซคาถิ่น

1d22b297e3d040cfe0a1b9ed3441dc62.jpg

มาร์คัส แรชฟอร์ด ฟอร์มสุดร้อนแรงหลังยิงหนึ่งจ่ายหนึ่งช่วย "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกคว้าชัยถึงถิ่น "ปราสาทเรือนแก้ว" คริสตัล พลาเลซ 2-0 ส่งผลให้แมนยูมีแต้มขยับขึ้นไปเท่า เลสเตอร์ ซิตี้ แต่ยังคงรั้งอันดับ 5 ตามเดิมเพราะประตูได้เสียเป็นรอง ในศึก ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 ก.ค. ที่ผ่านมา

ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันพฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม 2563
คริสตัล พาเลซ 0 - 2 แมนฯ ยูไนเต็ด



สนาม : เซลเฮิร์สท์ พาร์ค


เริ่มเกมครึ่งแรก เพียงแค่นาทีที่ 2 เท่านั้นเป็น พาเลซ ได้โอกาสก่อน จอร์แดน อายิว ส่งบอลให้ วิลฟรีด ซาฮา ไปทางมุมกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายก่อน ซาฮา จะโยกหลอกแผงหลังผีแดงแล้วกดเน้นๆ บอลพุ่งตรงไปที่เสาแรกทำท่าจะเสียบมุมแต่ไม่ผ่านมือ ดาบิด เด เคอา ที่พุ่งปัดไว้ได้อย่างหวุดหวิด เรียกได้ว่ายิงสวยแล้วแต่ป้องกันได้สวยกว่า

นาทีที่ 7 ยังคงเป็นเจ้าบ้านที่โหมบุกอย่างหนัก โจเอล วอร์ด เติมขึ้นมาเปิดบอลโด่งทางฝั่งขวาบอลเลยมาอยู่ที่ วิลฟรีด ซาฮา ในเขตโทษผีแดงเจ้าตัวทำท่าจะง้างเท้ายิงแต่ถูก บรูโน่ แฟร์นันด์ส จิ้มบอลไว้ได้ก่อนแต่ดันไหลไปเข้าทาง พาทริค ฟาน อานโฮลท์ วิ่งเข้ามาหวดเต็มข้อแต่ก็ยังไม่ผ่านบล็อกแข้งผีแดง

นาทีที่ 11 แมนยู ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งขวา บรูโน่ แฟร์นันด์ส เปิดยัดเข้ามากลางกรอบเขตโทษเลยมาตกใส่หัว แฮร์รี่ แม็กไกว์ แต่เจ้าตัวไม่ทันตั้งตัวเลยทำให้ทิศทางบอลย้อนกลับออกหลังไป

นาทีที่ 12 ทีมเยือนได้ลูกเตะมุมอีกครั้งคราวนี้เป็น แฮร์รี่ แม็กไกว์ ที่เบียดเอาชนะแข้งพาเลซได้โขกเต็มๆ หัว แต่กดไม่ลงทำให้บอลเหินข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย

ผ่านมาถึงนาทีที่ 21 แมนยูเปิดเกมรุกขึ้นมาอยู่หน้ากรอบเขตโทษพาเลซที่ มาร์คัส แรชฟอร์ด เจ้าตัวตัดสินใจโยกหลอกก่อนจะซัดด้วยเท้าซ้ายแต่ไปติดตัว แอนดรอส ทาวน์เซ่นด์ ในจังหวะนี้ผู้ตัดสินเปาให้เจ้าบ้านได้ฟาวล์เพราะ แรชฟอร์ด ไปเตะเข้าที่หน้าขา ทาวน์เซ่นด์ หลังจากปล่อยบอลไปแล้ว

นาทีที่ 27 พาเลซ สร้างความหวาดเสียวได้อีกครั้ง เจมส์ แม็คอาร์เธอร์ ได้เปิดบอลสุดริมเส้นฝั่งซ้ายหวังส่งให้ วิลฟรีด ซาฮา ที่ยืนรอเตรียมเข้าโหม่งแต่น้ำหนักแรกและสูงเกินไปทำให้บอลหลุดออกหลังไปอีกครั้ง

นาทีที่ 29 ทัพอสรูแดงตอบโต้กลับมาบ้าน มาร์คัส แรชฟอร์ด เปิดบอลโด่งทางฝั่งซ้ายเลยข้ามฝั่งไปถึง อารอน วาน-บิสซาก้า ที่เติมเกมรุกขึ้นมาได้หวดเน้นๆ แต่ดันไปติดบล็อกแข้งพาเลซกระดอนออกไป

นาทีถัดมา แมนยู ได้โอกาสงามๆ อีกครั้ง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ใช้ความเร็วและความแข็งแกร่งแหวกกระชากพาบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนหักข้อผ่านบอลไปให้ เมสัน กรีนวู้ด ที่ยืนอยู่โล่งๆ ได้กดด้วยเท้าซ้ายแต่ดันโดนไม่ดีทำให้บอลหลุดออกข้างเสาประตูไปอย่างน่าเสียดายอีกครั้ง

นาทีที่ 39 แมนยู ได้ลูกเตะมุมทางฝั่งซ้าย บรูโน่ แฟร์นันด์ส เปิดลอยโค้งมาเข้าหัว แฮร์รี่ แม็กไกว์ ที่ได้ขึ้นโขกเต็มๆ แต่เจ้าตัวพยายามบังคับทิศทางให้หนีมือผู้รักษาประตูมากเกินไปจนทำให้บอลหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 41 พาเลซ ทำเสียวไส้ พาทริค ฟาน อานโฮลท์ จ่ายบอลยัดเข้าไปในกรอบเขตโทษผีแดงเป็น วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ที่พยายามแหย่เท้าสกัดแต่บอลดันไหลไปเข้าทาง จอร์แดน อายิว ได้กดเต็มข้อบอลพุ่งตรงกรอบแต่ยังดีมี ดาบิด เด เคอา ยืนตำแหน่งดีชกบอลออกไปได้

นาทีที่ต่อมา แมนยู เปิดเกมรุกกลับมาบ้าง บรูโน่ แฟร์นันด์ส ได้ตะบันไกลบอลหลุดออกข้างเสาไปไม่ถึงหลา

นาทีที่ 44 วิลฟรีด ซาฮา ถูก แฮร์รี่ แม็กไกว์ หวดล้มลงในเขตโทษแมนยูแต่ผู้ตัดสินไม่ได้ว่าอะไรปล่อยให้เล่นต่อไป แต่เมื่อกลับมาดูภาพช้าก็ดูเหมือนว่า ซาฮา จะถูกเตะที่ขาแบบไม่มีบอลเข้ามาเกี่ยวข้อง

นาทีที่ 45+1 ปีศาจแดงออกนำ 1-0 จากจังหวะทำเกมสุดเหนือชั้น อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ส่งให้ บรูโน่ แฟร์นันด์ส หน้ากรอบเขตโทษพาเลซแล้วผ่านบอลต่อไปให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด จับบอลแล้วใช้ความสามารถเฉพาะตัวพาลากจี้เข้าไปในเขตโทษทางฝั่งซ้ายก่อนจะหลอกทำท่าว่าจะยิงด้วยเท้าซ้ายและแต่งเข้าเท้าขวาแปเล่นมุมเข้าไปอย่างสวยงาม เล่นเอา พาทริค ฟาน อานโฮลท์ ที่พยายามตามมาสกัดถึงกับล้มหัวทิ่มหัวตำ

นาทีที่ 45+3 พาเลซ เกือบได้ประตูตีเสมอเมื่อได้ลูกฟรีคิกบริเวณมุนกรอบเขตโทษทางฝั่งซ้าย ลูก้า มิลิโวเยวิช วิ่งเข้ามาปั่นบอลพุ่งโค้งทำท่าจะเสียบสามเหลี่ยมมุมบนแต่ยังคงไม่ผ่านมือ เด เคอา ที่บินสุดตัวยืดสุดแขนปัดไว้ด้วยปลายมืออีกครั้ง

จบครึ่งแรกทั้งสองทีมต่างเปิดเกมแลกกันอย่างสนุกแต่ แมนยู จบได้คมกว่าบุกมานำไปก่อน 1-0



มาลุ้นต่อกันครึ่งหลัง ทั้งสองทีมยังไม่มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่น นาทีที่ 51 เป็นแมนยู ที่ทำเกมรุกขึ้นไปทางฝั่งขวา บรูโน่ เปิดบอลโด่งยัดไปในเขตโทษโดยมี แรชฟอร์ด ยืนรออยู่แต่ถูก มามาดู ซาโก้ ที่อ่านเกมดีหวดเคลียร์บอลออกไปได้ก่อน

นาทีที่ 53 พาเลซตอบโต้กลับ วิลฟรีด ซาฮา ได้กลับตัวในเขตโทษแล้วพลิกยิงแต่ไปติดตัว แม็กไกว์ ในจังหวะแรกก่อน แม็กไกว์ จะตามเก็บบอลแล้วหวดเคลียร์ออกไป

นาทีที่ 55 คริสตัน พาเลซ พลาดได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะกึ่งยิงกึ่งผ่านของ วิลฟรีด ซาฮา รอดขา อารอน วาน-บิสซาก้า บอลเลยไปเสาไกลเข้าทาง จอร์แดน อายิว ที่เติมขึ้นมาล้มตัวยิงเข้าไปแต่จังหวะนี้มีการเช็กวีเออาร์และ เกรแฮม สกอตต์ ผู้ตัดสินกลับคำตัดสินลงโทษพาเลซเป็นลูกล้ำหน้าในจังหวะที่ อายิว เล่นบอลทำให้ แมนยู ยังคงมีสกอร์นำอยู่ 1-0 ตามเดิม

นาทีที่ 57 ป็อกบา ได้ส่องไกลแต่ทิศทางไม่ดีบอลหลุดออกข้างเสาไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 60 เจ้าบ้านได้ลุ้นอีกครั้ง เจมส์ แม็คคาร์ธี่ ตั้งป้อมหวดเหน่งๆ กลางกรอบเขตโทษระยะประมาณ 20 หลาแต่บอลไปตรงตัว เด เคอา ล้มลงรับไว้ได้ไร้ปัญหา

นาทีที่ 62 แมนยูเกือบได้ประตูที่สอง แรชฟอร์ด ฉกบอลได้แล้วส่งบอลให้ มาร์กซิยาล ก่อนจะฉีกไปรับบอลแล้วหลุดเข้าไปแปเล่นทางหวังเข้าเสาไกลแต่ไม่ผ่านมือ บิเซนเต้ กวาอิต้า ที่พุ่งคว้าบอลไว้ได้อย่างหวุดหวิด

นาทีที่ 71 ผีแดงได้ลุ้นอีกครั้ง บรูโน่ แฟร์นันด์ส เปิดบอลยัดเข้าไปในเขตโทษแต่ถูกแข้งเจ้าถิ่นเตะสกัดออกมาในจังหวะแรกไม่ดีไหลมาเข้าทาง บรูโน่ วิ่งเข้าไปซ้ำจังหวะสองด้วยเท้าซ้ายแต่โดนไม่ดีทำให้บอลค่อยๆ ไหลหลุดออกหลังไป

นาทีที่ 73 พาเลซ เปิดเกมรุก เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์ ตัวสำรองที่พึ่งเปลี่ยนลงมากระชากเดี่ยวจี้ไปหน้ากรอบเขตโทษแมนยูแล้วตัดสินใจยิงด้วยเท้าซ้ายและคุมทิศทางไม่ดีบอลไหลออกข้างเสาไป

นาทีที่ 75 แมนยู พลาดได้ประตูนำห่างไปแบบสุดเหลือเชื่อเมื่อ แรชฟอร์ด หลุดขึ้นไปเปิดบอลสุดริมเส้นทางฝั่งซ้ายบอลเลยมาถึง บรูโน่ ที่ยืนรออยู่บริเวณจุดโทษโล่งๆ แบบไร้ซึ่งตัวประกบก่อนเจ้าตัวจะยิงเต็มข้อแต่บอลเจ้ากรรมพุ่งไปชนเสาอย่างจังเล่นเอาเจ้าตัวถึงกับออกอาการเสียดายสุดๆ

นาทีที่ 78 แมยู ได้ประตูนำห่างจนได้เป็น 2-0 จากจังหวะกระชากบอลแหวกสามของ แรชฟอร์ด ก่อนส่งต่อให้ บรูโน่ แล้วเบิ้ลบอลกลับมาให้ แรชฟอร์ด แปยัดไปให้ มาร์กซิยาล หลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษทางฝั่งซ้ายแล้วล้มตัวแปบอลเล่นทางไปเสาไกลเข้าไปไม่พลาด นับเป็นการประสานงานแบบไรที่ติของแนวรุกอสูรแดงเลยดีเดียว

และต่อเนื่องในจังหวะดังกล่าวเกมหยุดไปถึง 6 นาทีเหตุเพราะ พาทริค ฟาน อานโฮลท์ บาดเจ็บหนักจากการถูก มาร์กซิยาล ล้มทับแบบไม่ตั้งใจหลังยิงประตูจนทีมแพทย์ต้องเข้ามาดูอาการและพาขึ้นเปลสนามหามออกไปปฐมพยาบาลด้านนอก

นาทีที่ 87 ยังคงเป็นทัพปีศาจแดงได้บุกอย่างต่อเนื่องบอลมาอยู่ที่ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ดึงหลอกตรงมุมกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายแล้วซัดทันทีแต่น้ำหนักเบาเกินไป บิเซนเต้ กวาอิต้า รับไว้ไม่ยากเย็น

นาทีที่ 90 ดาบิด เด เคอา ต้องออกแรงเหนื่อยอีกครั้งเมื่อ วิลฟรีด ซาฮา หลุดเข้าไปซัดเน้นๆ ทางฝั่งขวาหวังยัดเข้าเสาแรกแต่ก็ยังถูก เด เคอา ล้มตัวใช้ปลายเท้าป้องกันไว้ได้อย่างหวุดหวิดอีกครั้ง

นาทีที่ 90+3 แรชฟอร์ด บรรจงปั่นบอลโค้งทำท่าจะมุดเสียบใต้คานแต่ กวาอิต้า นายด่านปราสาทเรือนแก้วยังทะยานปัดด้วยมือเดียวไว้ได้ เจ้าถิ่นรอดพ้นการเสียประตูที่สามช่วงท้ายเกม

เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มจบเกม แมนยู บุกมาอัด พาเลซ ถึงถิ่น 2-0 คว้าชัยสำคัญทำให้มีแต้มขึ้นไปเท่า เลสเตอร์ ซิตี้ ที่ 62 คะแนน แต่ แมนยู ยังอยู่อันดับที่ 5 ตามเดิมเพราะประตูได้เสียเป็นรองทัพจิ้งจอกสีน้ำเงิน


รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

คริสตัล พาเลซ (4-5-1) : บิเซนเต้ กวาอิต้า - โจเอล วอร์ด, สกอตต์ แดนน์, มามาดู ซาโก้, พาทริค ฟาน อานโฮลท์ (ไทริค มิตเชลล์ น.84) - วิลฟรีด ซาฮา, เจมส์ แม็คอาร์เธอร์ (เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์ น.72), ลูก้า มิลิโวเยวิช, เจมส์ แม็คคาร์ธี่ (ไจโร รีเดอวัลด์ น.83), แอนดรอส ทาวน์เซ่นด์ - จอร์แดน อายิว

แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา - อารอน วาน-บิสซาก้า, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, แฮร์รี่ แม็กไกว์, ทิโมธี โฟซู-เมนซาห์ - สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ (เนมานย่า มาติช น.63), ปอล ป็อกบา - เมสัน กรีนวู้ด (เจสซี่ ลินการ์ด น.62), บรูโน่ แฟร์นันด์ส, มาร์คัส แรชฟอร์ด - อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล

ผู้ตัดสิน : เกรแฮม สกอตต์

www.siamsport.co.th

© 2018-2024 Coreball.com All Rights Reserved.