|
|
|
|
3
ก.ค. จุดเปลี่ยนวีเออาร์!สเปอร์สบุกพังเชฟยูอัดนิ่มพร้อมแซงขึ้นที่7
 "ไก่เดือยทอง" สเปอร์ส บุกปราชัยแบบหมดสภาพให้กับเจ้าบ้าน "ดาบคู่" เชฟฯ ยูไนเต็ด ไป 1-3 แถมทีมเยือนยังพลาดได้ประตูสำคัญเพื่อตีเสมอในครึ่งแรกเมื่อถูกย้อนดูวีเออาร์ จากผลชัยทำให้ทัพ "ดาบคู่" แซงขึ้นไปอยู่ที่ 7 มีลุ้นพื้นที่บอลยุโรปต่อไป ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 2 ก.ค. ที่ผ่านมา ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันพฤหัสบดีที่ 2 กรกฏาคม 2563 เชฟฯ ยูไนเต็ด 3 - 1 สเปอร์ส สนาม : บรามอลล์ เลน สเปอร์สเป็นฝ่ายเขี่ยบอลเริ่มเล่น แต่เพียงแค่นาทีแรกเท่านั้น เชฟยู เจ้าถิ่นได้โอกาสทักทายก่อนจากลูกยิงไกลระยะเกือบ 30 หลาของ จอร์จ บัลด็อก ทิศทางตรงกรอบแต่น้ำหนักเบาเกินไปบอลไหลไปเข้ามือ อูโก้ โยริส รับไว้ไร้ปัญหา นาทีที่ 7 ไก่เดือยทองทำเสียวเมื่อได้ลูกเตะมุม ซน ฮึง-มิน เปิดบอลไปเข้าหัว เอริก ดายเออร์ ที่เติมขึ้นมาโขกเช็ดไปเสาไกลมี มูสซ่า ซิสโซโก้ สอดขึ้นมาพยายามจิ้มเท้าแหย่บอลแต่ไม่ถึงส่งผลให้บอลหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย ผ่านมาถึงนาทีที่ 18 สเปอร์สที่ครองเกมได้มากกว่าทำเกมรุกขึ้นมาทางฝั่งขวา แซร์ช โอริเย่ร์ หลุดขึ้นไปเปิดบอลสุดริมเส้นยัดไปกลางกรอบเขตโทษเลยไปถึง ซน ฮึง-มิน ที่พยายามพักบอลด้วยอกแต่โดนเหลี่ยมไม่ดีบอลกระดอนไหลไปเข้ามือ ดีน เฮนเดอร์สัน นายด่านดาบคู่รับไว้ไม่พลาด นาทีที่ 24 ยังคงเป็นโอกาสเบิกสกอร์ของสเปอร์ส แฮร์รี่ เคน หลุดเข้าไปยิงในกรอบเขตโทษทางฝั่งขวาแต่ถูก แจ็ค โรบินสัน วิ่งเข้ามากดดันทำให้ เคน หวดโดนเหลี่ยมไม่ดีบอลหลุดเข้าข้างตาข่ายแบบไม่ได้ลุ้น 4 นาทีถัดมา ทีมเยือนยังโหมบุกอย่างหนัก ลูคัส มูร่า ไหลบอลย้อนไปให้ มูสซ่า ซิสโซโก้ วิ่งเข้ามาแปเน้นๆ บริเวณกลางกรอบเขตโทษแต่ทิศทางไม่ห่าง เฮนเดอร์สัน มากนักทำให้นายด่านเจ้าบ้านล้มตัวรับไว้ได้อีกครั้ง นาทีที่ 30 สเปอร์ส ได้ลูกฟรีคิกระยะประมาณ 30 หลาเป็น แฮร์รี่ เคน รับหน้าที่สังหารเจ้าตัววิ่งเข้ามากดเต็มข้อแต่คุมทิศทางไม่ดีบอลเหินข้ามคานออกไปไกล นาทีที่ 32 กลับเป็น เชฟยู ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะไหลบอลของ จอร์จ บัลด็อก ไปให้ คริส บาแช่ม ได้หักข้อสุดริมเส้นทางฝั่งขวาย้อนมาถึง แซนเดอร์ เบิร์ก ได้ตั้งป้อมกดเน้นๆ แบบไร้ตัวประกบบอลเลียดเสียบมุมเข้าไปไม่เหลือหมดปัญญาของ อูโก้ โยริส ที่พยายามพุ่งสุดตัวแต่ไม่ถึง นาทีที่ 33 สเปอร์สพลาดได้ประตูตีเสมอไปอย่างน่าเสียดายเมื่อ ดาวินซอน ซานเชซ เปิดบอลไกลจากแดนหลังเลยไปถึง ลูคัส มูร่า ที่กระชากบอลตะลุยจี้เข้าไปถึงหน้ากรอบเขตโทษดาบคู่แต่โดนหวดล้มลงผู้ตัดสินเห็นว่าได้เปรียบจึงส่งสัญญาณให้เล่นต่อ บอลไหลไปเข้าทาง แฮร์รี่ เคน หลุดเข้าไปกดเต็มข้อบอลเสียบเข้าโคนเสาไกลไปอย่างสุดสวย แต่ในจังหวะนี้มีการย้อนดูวีเออาร์และกลายเป็นว่าบอลไปโดนมือ มูร่า ในจังหวะที่ล้มลงก่อนหน้าทำให้ผู้ตัดสินกลับคำตัดสินเป็นแฮนด์บอล และริบประตูคืนจากทีมเยือน ท้ายครึ่งแรกทัพไก่เดือยทองโหมบุกอย่างหนัก มูสซ่า ซิสโซโก้ ได้พลิกตัวยิงในเขตโทษแต่ไปติดบล็อกแผงหลังเจ้าบ้านออกไป และจังหวะต่อเนื่องจากลูกเตะมุม โจวานนี่ โล เซลโซ่ ได้ขึ้นโขกเน้นๆ แต่บอลกลับหลุดข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย จบครึ่งแรก สเปอร์ส ที่ครองเกมบุกได้มากกว่าแต่กลับเป็นฝ่ายตามหลัง เชฟยู 0-1 มาลุ้นต่อครึ่งเวลาหลัง เกมเคลื่อนมาถึงนาทีที่ 61 เชฟยู ได้ลุ้นทำประตูนำห่างเมื่อ แซนเดอร์ เบิร์ก ได้กึ่งยิงกึ่งผ่านทางฝั่งขวายัดเข้าไปในกรอบเขตโทษแต่ถูก โยริส ล้มตัวปัดด้วยปลายมือในจังหวะแรกบอลเลยไปเข้าทาง เบน ออสบอร์น แล้ว ส่งย้อนมาให้ เดวิด แม็คโกลดริก วิ่งเข้ามากดเต็มข้อแต่ด้วยมุมแทบจะไม่มีทำให้หลุดเข้าข้างตาข่ายไปอย่างน่าเสียดาย นาทีที่ 69 เชฟยู ทำประตูนำเป็น 2-0 จากการต่อบอลสุดสวยเริ่มจาก เบน ออสบอร์น ได้บอลทางฝั่งซ้ายแล้วต่อไปให้ เอ็นดาร์ สตีเว่นส์ หลุดไปสุดริมเส้นก่อนส่งย้อนมาให้ ออสบอร์น ที่สอดขึ้นมารับบอลอีกครั้งแล้วเปิดเลียดเลยไปถึง ลีส มูสเซ็ต ที่ยืนแปโล่งๆ แบบไร้ตัวประกบระยะไม่ถึง 5 หลาเข้าไปอย่างง่ายดาย นาทีที่ 77 แฮร์รี่ เคน หลุดเข้ายิงประตูผ่านมือ ดีน เฮนเดอร์สัน บอลเข้าไปกองก้นตาข่ายแต่มีสัญญาณเป็นลูกล้ำหน้า สเปอร์ส ยังคงตีไข่แตกไม่ได้แม้จะโหมบุกอย่างหนักก็ตาม นาทีที่ 84 ดาบคู่ นำห่างเป็น 3-0 แซนเดอร์ เบิร์ก หลุดขึ้นไปเปิดบอลสุดริมเส้นฝั่งขวาไปที่จุดนัดพบให้ โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่ วิ่งเข้ามาแปด้วยเท้าขวาตรงเส้น 6 หลาเข้าไปทำเอา โยริส ออกอาการเซ็งที่หมดปัญญาป้องกันยืนมองด้วยสายตาเท่านั้น นาทีที่ 90 สเปอร์ส ไล่ตามมาเป็น 1-3 ลูคัส มูร่า ตักบอลข้ามแนวรับเจ้าถิ่นเลยไปถึง ซน ฮึง-มิน หลุดกับดักล้ำหน้าก่อนเปิดย้อนไปให้ แฮร์รี่ เคน ได้ยิงจ่อๆ ไม่เหลือซาก จบเกม เชฟฯ ยูไนเต็ด เปิดบ้านไล่อัด สเปอร์ส 3-1 คว้าสามแต้มสุดสำคัญพร้อมขยับอันดับแซงขึ้นไปอยู่ที่ 7 มีลุ้นไปเล่นถ้วยยุโรปต่อไป รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม เชฟฯ ยูไนเต็ด (3-5-2) : ดีน เฮนเดอร์สัน - คริส บาแช่ม, จอห์น เอแกน, แจ็ค โรบินสัน - จอร์จ บัลด็อก, แซนเดอร์ เบิร์ก, โอลิเวอร์ นอร์วู้ด, เบน ออสบอร์น, เอ็นดาร์ สตีเว่นส์ - โอลิเวอร์ แม็คเบอร์นี่ (คีแรน ฟรีแมน น.90+1), เดวิด แม็คโกลดริก (ลีส มูสเซ็ต น.63) ผู้จัดการทีม : คริส ไวล์เดอร์ สเปอร์ส (4-4-2) : อูโก้ โยริส - แซร์ช โอริเย่ร์ (ต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล่ น.71), ดาวินซอน ซานเชซ, เอริก ดายเออร์, เบน เดวิส (แยน แฟร์ต็องเก้น น.81) - มูสซ่า ซิสโซโก้ (เดเล่ อัลลี่ น.71), โจวานนี่ โล เซลโซ่, ลูคัส มูร่า, สตีเฟ่น เบิร์กไวน์ (เอริค ลาเมล่า น.56) - ซน ฮึง-มิน, แฮร์รี่ เคน ผู้จัดการทีม : โชเซ่ มูรินโญ่ ผู้ตัดสิน : เควิน คาวานาฟ |
|
