ไม่ไว้ลายแชมป์เก่าบ้างเลย! หลัง "ราชันชุดขาว" ที่ขนสำรองผสมตัวหลัก เล่นกันได้ย่ำแย่พ่ายอาคันตุกะ ซีเอสเคเอ มอสโก ทีมบ๊วยกลุ่มแบบหมดสภาพ 0-3 ชนิดคาสายตาแฟนบอลตัวเองในเบร์นาเบว แถมเป็นการบุกมาย้ำชัยหลังเกมแรกชนะที่มอสโกมาได้ก่อน กระนั้นเรอัล มาดริดก็จบด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม ควงโรม่าเข้ารอบต่อไป ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กลุ่ม จี นัดสุดท้าย เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา

เกมนี้ เรอัล มาดริด ขนสำรองลงเล่นเป็นส่วนใหญ่ ไล่แต่แนวรับทั้งคู่เซ็นเตอร์แบ็กที่ใช้ เชซุส บาเยโฆ่, ฆาบี้ ซานเชซ ส่วนคู่ตรงกลางเป็น มาร์กอส ยอเรนเต้ และเฟเดอริโก้ บัลเบร์เด้ ขณะที่แนวรุกวาง คาริม เบนเซม่า, มาร์โก อเซนซิโอ้ และวินิซิอุส จูเนียร์ส ซึ่งประเดิมตัวจริงใน แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นนัดแรก พร้อมทำสถิติแข้งอายุน้อยที่สุดที่ลงสนามในเกมยุโรปคนที่ 3 ต่อจาก อีเกร์ การ์ซียาส และราอูล กอนซาเลซ

ด้านทีมเยือน ซีเอสเคเอ มอสโก ทีมบ๊วยของกลุ่ม เกมนี้สตาร์ดาวดังทั้ง อีกอร์ อคินเฟเยฟ, นิโคล่า วลาซิช และมาริโอ เฟร์นานเดซ ต่างก็ลงตัวจริงกันหมด

เกมครึ่งเวลาแรกแม้ "ราชันชุดขาว" จะครองเกมได้มากกว่าและมีโอกาสจบหลายครั้ง แต่ยังยิงไม่ดีพอบอลไปเข้ามือและติดเซฟของ อคินเฟเยฟ เป็นส่วนใหญ่

ท้ายเกมทีมเยือนทำได้ดีกว่าและมาได้สองประตู จาก เฟดอร์ ชาลอฟ นาที 37 และจอร์จี้ เชนนิคอฟ ในนาที 43 ทำให้สกอร์ครึ่งแรก เรอัล มาดริด ตามหลัง ซีเอสเคเอ 0-2

ครึ่งหลังเจ้าถิ่นส่ง แกเร็ธ เบล และโทนี่ โครส ลงมาช่วยทีม กระนั้นยังยกระดับเกมไม่ดีเท่าไหร่ จังหวะสุดท้ายยังไม่เฉียบขาด และมาเสียประตูที่สามจากจังหวะที่ นิโกล่า วลาซิส จ่ายบอลต่อให้ อาร์นอร์ ซิกูร์ดสสัน อัดด้วยขวาเข้าไปอย่างเด็ดขาด ให้ทีมเยือนบุกมานำโด่ง 3-0

จบเกม เรอัล มาดริด แพ้ชนิดหมดสภาพให้แก่ ซีเอสเคเอ มอสโก 0-3 และเป็นการแพ้แบบไปกลับ แต่กระนั้น แชมป์เก่ารายการนี้ก็ดีพอจบเป็นแชมป์กลุ่มผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้าย เช่นเดียวกับ โรม่า แม้จะบุกไปพ่ายให้ วิกตอเรีย พิลเซ่น 1-2 แต่ก็ทะลุเข้าไปเล่นในรอบน็อคเอาต์ได้เช่นกัน

สยามสปอร์ต